ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 กุมภาพันธ์ 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
นอกจากนครปฐม ราชบุรี อ่างทอง ที่เป็นจังหวัดรกรากดั้งเดิมของบรรพบุรุษแล้ว
อีกหนึ่งจังหวัดที่มีวาสนาต่อกัน เพราะต้องแวะเวียนไปปีละครั้งเป็นอย่างน้อยในรอบ 5 ปีหลังนี้ก็คือบึงกาฬครับ
มิตรรักแฟนประจำก็คงรู้ว่าไปเพื่อจัดงาน “วันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ” ซึ่งปีนี้เขากำหนดเอาไว้วันที่ 16-22 กุมภาพันธ์
ทำติดต่อกันมาเป็นปีที่ 5
ผ่านมาทุกยุคตั้งแต่ราคายางทะลุฟ้า จนกระทั่งลงไปต่ำเตี้ยติดดิน
ก่อนจะเริ่มผงกหัวขึ้นมาอีกครั้งในปัจจุบัน
เหมือนทุกอย่างในโลก งานมหกรรมยางที่บึงกาฬนั้นมีทั้งส่วนที่ไม่เปลี่ยนแปลงและส่วนที่ปรับปรุงเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ
ที่ไม่เปลี่ยนคือแก่นแกนของงานว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเนื้องานนั้นเกิดประโยชน์แก่พี่น้องชาวบึงกาฬหรือจังหวัดใกล้เคียง
เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรผู้ทำสวนยาง ไปจนกระทั่งถึงชีวิตและธุรกิจอื่นๆ ที่ต่อเนื่อง
ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดก็คือ จากงานระดับเฉพาะในจังหวัด ขยับขึ้นมาขยายไปถึงท้องถิ่นใกล้เคียง
จนกระทั่งพองตัวเป็นงานระดับนานาชาติในปีสองปีที่ผ่านมา
เนื้อหาก็ขยับขยายจากการเพาะปลูก การจัดการสวน ไปเป็นเรื่องของการค้าการขาย การผลิตสินค้าปลายน้ำเพิ่มขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว วันที่เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานให้
ท่านรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ตั้งข้อสังเกตว่า
งานยางพาราบึงกาฬนี่แหละคือประชารัฐของแท้
เพราะเป็นการจับมือกันเดินไปข้างหน้า ระหว่างประชาชน เอกชน และรัฐบาล
อะไรทำได้-ทำ ไม่งอมืองอเท้ารอขอความช่วยเหลือ
ทำสำเร็จแล้วก็เจือจานพี่น้องเพื่อนฝูงในแวดวงเดียวกัน
หรือที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงด้วย
ปีนี้ก็น่าจะยิ่งสนุกใหญ่
ใครอยากฟังว่ารองนายกฯ วิษณุท่านจะตั้งข้อสังเกตกับตัวงานยังไงอีก ก็เชิญไปร่วมพิธีเปิดได้ในตอนเย็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์
ขายงานกันดื้อๆ อย่างนี้แหละ ใครจะทำไม (ฮา)
แต่รับรองว่าเขามีของให้ขาย
ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม ทั้งเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การเพิ่มมูลค่าให้ยางพาราจากวัตถุดิบไปสู่สินค้าสำเร็จ
ไปจนถึงโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ
เพราะมีพ่อค้านักธุรกิจทั้งต่างถิ่นและต่างแดนตอบรับว่าจะมาร่วมงานกันอุ่นหนาฝาคั่งกว่าทุกปี
ท่านนายกเทศมนตรียะลา-พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชมน์เจริญ มากันคณะใหญ่ จะมาดูเครื่องกรีดยางอัตโนมัติ
ว่าจะเอาไปช่วยพี่น้องสวนยางภาคใต้ที่นับวันแรงงานก็ยิ่งขาดแคลนได้อย่างไร
มีท่านเอกอัครราชทูตมาเลเซียนำคณะมาร่วมเจรจาในงานเหมือนปีก่อน
มีท่านกงสุลใหญ่จากลาว ท่านตัวแทนสมาพันธ์ยางพาราจากกัมพูชา ตัวแทนจากเวียดนาม
คณะนักธุรกิจและท่านทูตพาณิชย์จากอินเดีย
ส่วนจีนนั้นไม่ต้องพูดถึง ยกกันมาเป็นมณฑลเลยทีเดียว ทั้งบริษัทรับซื้อยาง บริษัทผลิตล้อรถยนต์ ตัวแทนการค้า เจ้าหน้าที่รัฐ
เห็นท่านผู้ว่าฯ พิสุทธิ์ บุษยพรรณวงศ์ และท่านนายก อบจ. นิพนธ์ คนขยัน
เตรียมเปิดเมืองรับใหญ่แขกเหรื่อทุกคณะ
รายละเอียดของงานว่าจะมีสาระบันเทิงอะไรขนาดไหน
พี่น้องในกองบรรณาธิการ “มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ” ไปจนถึง “เทคโนโลยีชาวบ้าน” ท่านคงรายงานได้ละเอียดลออกว่า
เขาให้มีหน้าที่มาสรุปก็ขออนุญาตสรุปว่า
แนวคิดที่มั่นคงของงานยางพาราบึงกาฬตั้งแต่วันแรกยันวันนี้
ก็คือการพึ่งตัวเอง สร้างมูลค่าเพิ่ม และก้าวให้ทันนวัตกรรม
ซึ่งปีนี้จะเพิ่มเอาเรื่องการค้าการขายในโลกออนไลน์เข้ามาด้วย
ก็บอกแล้วว่า งานยางพาราบึงกาฬไม่จัดกันเองดูกันเอง หรือรำวงกันอยู่แต่ในบ้าน
วันนี้เขาไปไกลถึงระดับภูมิภาค ถึงระดับระหว่างประเทศแล้ว
โลกเขาพูดภาษาดิจิตอล
ใจคอจะให้บึงกาฬอยู่หลังเขาริมน้ำโขงตลอดไปหรือ
ไม่เชื่อหรือว่าเขาออกไปท้าสู้ทั้งโลกได้