คนของโลก : โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีสมัยที่ 2 กับความท้าทายที่รออยู่

บรรยากาศในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ “โจโก วิโดโด” เมื่อ 5 ปีก่อน ถูกจดจำด้วยภาพประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนออกจากบ้านมาต้อนรับขบวนแห่งประธานาธิบดีคนใหม่บนท้องถนนของกรุงจาการ์ตาอย่างคึกคัก

แต่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา อดีตเซลส์แมนขายเฟอร์นิเจอร์ ที่รู้จักกันดีในชื่อ “โจโกวี” เข้าสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อย่างเรียบง่าย

โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่าเป็นความต้องการของวิโดโดเองที่ไม่ต้องการให้มีงานเฉลิมฉลองให้เอิกเกริก

พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่อาคารรัฐสภาอินโดนีเซีย มีขึ้นด้วยการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น กำลังตำรวจ ทหาร รถหุ้มเกราะติดอาวุธ รถดับเพลิง และรถพยาบาลเตรียมพร้อมโดยรอบ

การรักษาความปลอดภัยเป็นผลจากเหตุการณ์คนร้ายอิสลามหัวรุนแรงใช้มีดบุกแทงรัฐมนตรีความมั่นคงอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา

รวมไปถึงกลุ่มนักศึกษาขู่ว่าจะออกมาประท้วงในวันเดียวกันนี้

 

ความยุ่งยากที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกในการสาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่ 2 ของวิโดโด เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความท้าทายที่ยังคงรออยู่อีกมากในอีก 5 ปีสุดท้ายในฐานะผู้นำประเทศอินโดนีเซีย หลังจากความนิยมเริ่มลดลงเรื่อยๆ เมื่อผลงานของวิโดโดยังไปไม่ถึงสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง

และยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองว่าแตกต่างจากนักการเมืองก่อนหน้านี้ได้อย่างไร

ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา วิโดโดยังคงหาเสียงด้วยนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมกะโปรเจ็กต์ และนโยบายที่เน้นไปที่กลุ่มคนจนของประเทศ สุดท้ายทำให้วิโดโดได้รับชัยชนะไปได้ด้วยสัดส่วนคะแนน 55.5 เปอร์เซ็นต์

วิโดโดผู้เคยประกาศนโยบายท่องเที่ยวด้วยการสร้าง “บาหลีใหม่ 10 แห่ง” และเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของกรุงจาการ์ตาเวลานี้ ประกาศนโยบายทะเยอทะยานยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยแผนการย้ายเมืองหลวงไปยังเกาะบอร์เนียว

พร้อมด้วยแผนพัฒนาระบบคมนาคมและการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับประเทศที่มีหมู่เกาะนับพันเกาะด้วยงบประมาณสูงถึงเกือบ 1 ล้านล้านบาท

แม้วิโดโดจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายนไปแบบสบายๆ แต่ก็ต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง และฟ้องร้องจากคู่แข่งอย่างปราโบโว สุเบียนโต อดีตผู้บัญชาการทหารอินโดนีเซีย ที่ไม่เห็นด้วยกับผลคะแนนดังกล่าว

นั่นทำให้วิโดโดเริ่มต้นผูกมิตรกับสุเบียนโต ชายที่วิโดโดบอกกับผู้ติดตามอินสตาแกรมจำนวน 25.7 ล้านคนว่าเป็น “เพื่อนที่ดี” นอกจากนี้ วิโดโดยังเริ่มสร้างพันธมิตรกับนักการเมืองขั้วตรงข้ามอีกหลายๆ คนด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายรอวิโดโด โดยเฉพาะปัญหาในจังหวัดปาปัว จังหวัดทางตะวันออกของประเทศ ที่ปกคลุมไปด้วยปัญหากลุ่มกบฏก่อความไม่สงบนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน

ล่าสุดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย ขณะที่ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

ความไม่สงบส่งผลให้อินโดนีเซียส่งทหารเข้ากวาดล้างเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

อีกหนึ่งความท้าทายเกิดบนเกาะทางตะวันตกอย่างเกาะบอร์เนียว และเกาะสุมาตรา ที่เกิดไฟป่ากลายเป็นปัญหาหมอกควันที่กระทบไปถึงประเทศเพื่อนบ้านและกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศตามมา

การประท้วงของกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาต่อต้านกฎหมายจำกัดขอบเขตอำนาจคณะกรรมการปราบปรามทุจริต หรือเคพีเค เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเหตุประท้วงที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยรายยังคงเป็นปัญหาที่ไม่สิ้นสุด นี่ยังไม่รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาความขัดแย้งทางการค้า และการส่งออกที่ออกอาการสะดุด

นักวิเคราะห์การเมืองอินโดนีเซีย มองว่า ความท้าทายสำคัญในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ก็คือการพิสูจน์ตัวเองในฐานะประธานาธิบดีที่แข็งแกร่ง

วิโดโดแม้จะได้รับความไว้วางใจในฐานะ “คนของประชาชน” แต่เขายังไม่ได้รับความไว้วางใจจากพรรคการเมืองต่างๆ

 

ในพรรคพีดีไอ-พี ของวิโดโดเอง หัวหน้าพรรคยังคงเป็น “เมกาวตี ซูการ์โนบุตรี” ประธานาธิบดีคนที่ 5 ลูกสาวของประธานาธิบดีคนแรกของประเทศอย่างซูการ์โน ขณะที่ลูกสาวของซูการ์โนบุตรี เพิ่งได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเวทีการเมืองอินโดนีเซียยังคงยึดโยงกับกลุ่มนักการเมืองหัวเก่า นักธุรกิจและทหาร การตัดสินใจของกลุ่มคนเหล่านี้ไม่เพียงยึดโยงกับอุดมการณ์แต่โยงเข้ากับระบบอุปถัมภ์แบบเก่า

นั่นสอดคล้องกับท่าทีของวิโดโด ที่พยายามดึงเอาฝ่ายค้านมาเป็นพันธมิตรเพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งนั่นอาจเป็นดาบสองคม ด้วยการอาจทำให้ประชาธิปไตยในอินโดนีเซียถอยหลังไปสู่อดีต ที่ไร้ซึ่งการถ่วงดุลอำนาจอีกครั้ง

สำหรับวิโดโดเองประกาศเอาไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า จะผลักนโยบายต่างๆ ที่อาจจะทำไม่ได้ในการดำรงตำแหน่งสมัยแรก เช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจทั้งระบบ

“สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก่อนหน้านี้ ผมจะตัดสินใจในเรื่องทั้งหลายเหล่านั้นในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้” วิโดโดระบุ