‘เบญจอำมฤต’ ตำหรับยาต้านมะเร็งตับ

ภาพจาก http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง
มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org

 

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีการศึกษาวิจัยต่อยอด “พืชสมุนไพรกับการรักษาโรคมะเร็ง” สำหรับรักษาโรคมะเร็ง 4 ชนิด ได้แก่ มะเร็งตับ ปอด เต้านม และปากมดลูก

ที่น่าสนใจคือ สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นตำรับยาแผนโบราณที่มีอยู่ใน “คัมภีร์แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์” ซึ่งเป็นคัมภีร์แพทย์แผนไทยมาตรฐานที่กองการประกอบโรคศิลปะ กระทรวงสาธารณสุขรับรอง เพราะเป็นคัมภีร์แพทย์หลวงที่มีการชำระความถูกต้องโดยพระบรมราชโองการของสมเด็จพระปิยมหาราช ที่ทรงมีพระราชประสงค์จะให้คัมภีร์แพทย์ฉบับนี้เป็นตำราแพทย์ประจำบ้าน สำหรับสามัญชนทั่วไปไว้ใช้ศึกษาเพื่อช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวในยามเจ็บป่วย

ในจำนวนนี้ มียาสมุนไพรอยู่ตำรับหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมีรายงานจากที่ประชุมผู้ทรงคุณวุฒิด้านแพทย์แผนไทยระบุว่า สามารถใช้รักษาโรคมะเร็งตับซึ่งเป็นมะเร็งที่รักษาได้ยากที่สุดชนิดหนึ่ง สถิติผู้ป่วยมะเร็งตับที่ได้รับการรักษาให้มีชีวิตรอดยืนยาวนั้นมีน้อยมาก ดังนั้น หากมีหนทางใดที่พอจะเยียวยาผู้ป่วยมะเร็งตับได้แม้มีความหวังเพียงเล็กน้อย แต่ญาติพี่น้องผู้ป่วยก็ดิ้นรนแสวงหา ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ทั้งฉายแสง เคมีบำบัด หรือผ่าตัด เมื่อไม่ได้ผลก็หันไปหายาแผนโบราณแม้กระทั่งไสยศาสตร์

ตามปกติ คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คงไม่อนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาสมุนไพรขนานใดที่มีสรรพคุณรักษาโรคมะเร็ง แม้ว่าจะมีการศึกษาวิจัยว่าสามารถใช้รักษาโรคมะเร็งได้ก็ตาม ดังนั้น ในที่นี้ เพียงแต่จะแนะนำวิธีปรุงยาสมุนไพรรักษาโรคมะเร็งในบัญชียาทดลองของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ที่ใช้รักษาโรคมะเร็งตับ นั่นคือ ตำรับยาเบญจอำมฤต หรือยาเบญจามฤต

ในพระคัมภีร์โรคนิทาน กล่าวถึงโรคตับพิการ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการ “หอบไออยู่เป็นนิจ บริโภคอาหารไม่ได้ จะหายใจก็ไม่ถึงท้องน้อย ลักษณะดังนี้คือปถวีธาตุโทษทั้ง 4 ประการ” ปถวีธาตุโทษในที่นี้ท่านอธิบายว่าเป็นฝีในตับ ทำให้ถ่ายเป็นโลหิตสดๆ ออกมา สำหรับการรักษานั้นตามพระคัมภีร์กล่าวว่า “โรคหมู่นี้หมอจะแก้เป็นอันยากนัก…ท่านให้แก้ไปด้วยสรรพคุณยา ดูตามบุญเถิด ถ้าแพทย์ผู้ใดจะแก้ ให้แก้ที่ต้นเหตุ คือแก้ปถวีธาตุซึ่งแตกนั้นก่อน ท่านให้ทำยาชื่อว่า เบญจอำมฤต”

จากถ้อยคำในพระคัมภีร์จะเห็นได้ว่า แม้ท่านจะมิได้เรียกโรคตับพิการดังกล่าวว่าโรคมะเร็งตับ แต่ก็พออนุมานได้ว่ามีลักษณะอาการใกล้เคียงกัน คือเข้าขั้นโคม่ารักษาหายยาก แต่ท่านก็ยังแนะนำยาที่ใช้แก้ธาตุดินแตก เพื่อรักษาตับให้สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้

ส่วนประกอบของยาพร้อมทั้งวิธีปรุงยาตำรับเบญจอำมฤตมีดังนี้

1) มหาหิงคุ์ 3.75 กรัม 2) ยาดำบริสุทธิ์ 3.75 กรัม 3) รงทอง 7.5 กรัม 4) มะกรูด 3 ลูก

เอามหาหิงคุ์ ยาดำ และรงทอง ใส่ลงในมะกรูดสิ่งละลูกตามคัมภีร์ ท่านให้เอามูลโคพอก ลูกมะกรูดที่ยัดไส้สมุนไพร แล้วนำไปสุมไฟแกลบให้สุก ทั้งนี้ เพื่อฆ่าพิษของสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดก่อนนำมาปรุงยาต่อไป

ขั้นต่อไปให้เตรียม ขิง ดีปลี พริกไทยหนักอย่างละ 3.75 กรัม รากทนดี (หรือตองแตก) หนัก 15 กรัม ผสมกับมะกรูดยัดไส้ที่สุมไฟแล้ว บดให้ละเอียด ทำให้แห้งเป็นผง

วิธีใช้ยา นำผงยาเบญจอำมฤต 1 ช้อนชาปาด หรือประมาณ 3.75 กรัม ละลายกับน้ำมะขามเปียก รับประทานเพื่อฟอกอุจจาระอันลามกให้สิ้นโทษ

การที่ยาแผนโบราณตำรับนี้ได้รับความสนใจในวงการแพทย์และเภสัชแผนปัจจุบัน ก็เพราะมีรายงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากรงทอง ซึ่งเป็นยางจากลำต้นของรงทอง (Gamboge Tree) มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งในตับ ยิ่งกว่านั้น ดีปลีและพริกไทยก็มีฤทธิ์ต้านการออกซิเดชั่น (Antioxidant) เสริมฤทธิ์กับรงทองในการรักษามะเร็งตับ แต่อย่างไรก็ตาม การรักษาโรคตับพิการตามหลักแพทย์แผนไทยนั้น จะใช้แต่รงทอง ดีปลี พริกไทยไม่ได้ หากต้องใช้ให้ครบสูตรตำรับจึงจะได้ผลดี

ตัวยาสมุนไพรในตำรับเบญจอำมฤตนี้หาได้ง่าย จึงสมควรที่แพทย์แผนไทยหรือญาติของผู้ป่วยโรคมะเร็งตับจะจัดเตรียมปรุงไว้ใช้รักษาโรคตับพิการหรือโรคมะเร็งตับ ควบคู่กับวิธีการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน อันที่จริง ตำรับยารักษาโรคตับพิการหรือยาล้อมตับในคัมภีร์แพทย์แผนไทยที่ใช้ประกอบกับตำรับเบญจอำมฤตให้ได้ผลดี ยังมีอีกหลายขนาน

ซึ่งสมควรที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ รวมทั้งนักวิจัยทางด้านแพทย์-เภสัชแผนปัจจุบัน จะนำไปทดลองขยายผลเพื่อประโยชน์ในการรักษาโรคมะเร็งตับให้ได้ผลต่อไป