“สนธิรัตน์” มั่นใจศึกซักฟอก พ.ร.บ.งบฯ เคารพ ‘บิ๊กแดง’ ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า ในบ่ายวันนี้ (15 ตุลาคม) เราจะมีการประชุมพรรค ซึ่งจะมีการทำความเข้าใจในรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณกับ ส.ส.ของพรรค ซึ่งพรรคมีเวลาในการอภิปรายเบื้องต้นประมาณ 3 ชั่วโมง โดยขณะนี้มีผู้ประสงค์ที่จะอภิปรายค่อนข้างมาก ทางวิป และคณะทำงานจึงอยู่ระหว่างการดำเนินการคัดส.ส.ที่จะอภิปรายในประเด็นต่างๆในเวลาที่มีอยู่ สำหรับพรรคร่วมเดี๋ยวก็ต้องมาจัดสรรกัน เพื่อกระจายประเด็นร่วมกันในการอภิปราย

เมื่อถามว่า จะมีการตีรวยการอภิปรายของฝ่ายค้านหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ไม่เคยตีรวนที่ถึงขนาดทำให้สภาเดิต่อไปไม่ได้ เป็นไปตามปกติชองสภา สำหรับระยะเวลาก็ต้องมีการหารือกันในวิปว่า 2 วันพอหรือไม่ ถ้าไม่พอแล้วจะต้องเพิ่มวันที่ 3 ก็ต้องหารือกัน ทั้งนี้ เรื่องเสียง เรามั่นใจในความเป็นปึกแผ่นของทางรัฐบาล ซึ่งเรามีเสียงที่มากกว่าแม้ไม่มาก แต่เรามีความเป็นปึกแผ่น

เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับฝ่ายค้าน หรือฝ่ายค้านอิสระให้มาร่วมโหวตให้เราหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันอย่างนั้นหรอก เป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่ต้องทำหน้าที่กันไป ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่

เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีการส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ เพราะเรื่องนี้ย้งมีเวลาอยู่ พรรคก็ทำหน้าที่ของพรรคในการสรรหาบุคลากรที่เหมาะสมที่จะเสนอตัวรับใช้พี่น้องประชาชน ถ้าเปิดก็เปิดเลยเมื่อถึงเวลา

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าตัวผู้สมัครจะสามารถสู้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ได้ใช่หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรามีหน้าที่เสนอตัวรับใช้พี่น้อง กทม. ขอให้เราดำเนินการของเราก่อน เมื่อถึงเวลาเราจะบอกอีกที

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาพูดบรรยายพิเศษจะไม่ทำให้เป็นปัญหาใช่หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องของประชาธิปไตย ที่ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็น ซึ่ง ผบ.ทบ.ก็แสดงความคิดเห็นในมิติของด้านความมั่นคงของชาติ ก็ต้องเข้าใจ และเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในหลักการพรรคพปชร.เราจะไม่แก้มาตรา 1 ส่วนรายละเอียดอื่นๆก็ค่อยว่ากัน