ต่างประเทศอินโดจีน : สถานการณ์ยาเสพติดลาว

พุดสะหวัด สุนทะลา รองเลขาธิการคณะกรรมการเพื่อการกำกับดูแลและควบคุมยาเสพติดแห่งชาติลาว ให้ข้อมูลไว้ในระหว่างการประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยยาเสพติดผิดกฎหมาย ครั้งที่ 14 และกลุ่มมินิ-ดับลิน ในกรุงเวียงจันทน์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เองว่า สถานการณ์ยาเสพติดในลาวรุนแรงขึ้น หนักหนาสาหัสมากขึ้น

ตัวเลขที่รายงานต่อที่ประชุมนั้น แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ สถานการณ์ไม่ได้บรรเทาเบาบางลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาเท่าใดนัก

6 เดือนแรกในปีนี้ ลาวมีคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเกิดขึ้นทั้งสิ้น 1,763 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 2,607 คน มีคนต่างด้าวเข้ามาเอี่ยวอยู่ด้วย 49 คน

ยึดยาบ้า หรือแอมเฟตามีนได้ 13.5 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 112 กิโลกรัม, กัญชา 1,043 กิโลกรัม ไอซ์ หรือคริสตัล เมธแอมเฟตามีน อีก 2,519 กิโลกรัม, ฝิ่น 9 กิโลกรัม และผงแป้งผสมสำหรับอัดเม็ดอีก 10,010 กิโลกรัม

นั่นคือปริมาณยาเสพติดที่ตรวจพบและยึดได้ระหว่างการจับกุม ส่วนที่หลงเหลือเล็ดลอดออกไปได้ ไม่รู้มีอีกเป็นจำนวนมากมายเท่าใด

 

ในแง่ของการใช้การเสพภายในประเทศ ท่านพุดสะหวัดชี้ว่า เพิ่มสูงขึ้นมากเช่นเดียวกัน ยาเสพติดยอดนิยมในลาว เรียงตามลำดับก็คือ ยาบ้า, ไอซ์, แล้วก็เฮโรอีน ส่วนคนสูบฝิ่นแทบไม่เพิ่มจำนวนเลย

นั่นทำให้สถานภาพของการเป็นตลาดยาเสพติดของลาวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ยังไม่เทียบเท่ากับสถานภาพการเป็นเส้นทางผ่านที่สำคัญที่สุดของการเคลื่อนที่ของยาเสพติดในย่านนี้ จากจุดเริ่มต้นที่เกิดขึ้นถี่ยิบที่สุดคือในพื้นที่ “สามเหลี่ยมทองคำ”

จากสามเหลี่ยมทองคำที่ขึ้นชื่อเลื่องลือไปทั่วโลก พุดสะหวัดบอกว่า ยาเสพติดที่ผลิตได้ทะลักผ่านจังหวัดชายแดนอย่างบ่อแก้ว, หลวงน้ำทา และอุดมไซ เข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

พื้นที่ประเทศลาวยังถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดสำคัญ นอกจากผ่านจังหวัดชายแดนด้านเหนือแล้ว การลำเลียงผ่านเส้นทางภายในประเทศแล้วทะลักออกผ่านทางชายแดนด้านใต้ของประเทศก็เพิ่มมากขึ้น

สูงขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในแง่ของความถี่ของการลำเลียงและในแง่ของปริมาณยาเสพติด

เท่ากับว่า ชายแดนด้านเหนือ เปรียบได้เหมือนบานประตูสู่ประเทศลาว ก่อนหลั่งไหลออกไปทางชายแดนด้านใต้

 

พุดสะหวัดเชื่อว่า หนทางเดียวที่จะบรรเทาเบาบางปัญหานี้ลงได้ก็คือ ต้องได้รับความร่วมมืออย่างแข็งขันจากเพื่อนบ้านโดยรอบทุกประเทศ

ลาวมีความตกลงร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านยาเสพติดกับเพื่อนบ้านทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง

ประเทศอย่างลาว, จีน, เมียนมา, ไทย, กัมพูชา และเวียดนาม ร่วมกันจัดตั้งโครงการศูนย์ประสานงานเพื่อความปลอดภัยลุ่มน้ำโขงขึ้น เป้าหมายสำคัญคือเพื่อร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกันในการปราบปรามยาเสพติดจากสามเหลี่ยมทองคำ

กลุ่มความร่วมมือนี้ มุ่งเน้นไปที่การรวมกำลังกันในทั้ง 6 ประเทศปิดล้อมพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำให้แน่นหนาที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ ไม่ให้สารตั้งต้นสำหรับการผลิตยาเสพติดทะลักไปถึงที่นั่น

และใช้การปิดล้อมเดียวกันนั้น สกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดที่ผลิตแล้วเสร็จ พร้อมวางจำหน่าย ถูกลำเลียงออกไปตามเส้นทางสำคัญๆ สู่มือของผู้เสพในทุกประเทศ รวมถึงประเทศที่สามอื่นๆ

อันเป็นแนวทางที่ดี หากได้ผลในทางปฏิบัติ ย่อมก่อให้เกิดคุณูปการใหญ่หลวงต่อนานาประเทศถึงครึ่งค่อน หากไม่ใช่ทั่วทั้งโลกก็ตามที