กรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ให้ทีมงานดำเนินการยื่นหนังสือถึงประธาน ป.ป.ช. เพื่อสอบกรณีที่อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ไปตีกอล์ฟในเวลาราชการ เมื่อวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา แม้อธิบดีคนดังกล่าวจะชี้แจงว่าได้ลาราชการแล้วก็ตาม และได้ยื่นเรื่องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้บังคับบัญชา ให้ตั้งคณะกรรมการสอบดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบ ทั้งนี้หากนายกฯ และนายสุริยะ ไม่ตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องดังกล่าว นายมงคลกิตติ์ก็จะยื่นร้องเอาผิดในฐานความผิดมาตรา 157 ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ สน.ดุสิต นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าพบร.ต.อ.ชวฤทธิ์ จันทร์เกิ้น รอง สว.(สอบสวน) สน.ดุสิต เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 4 คน ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงอุตสาหกรรม นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ กรณีการแต่งตั้งอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยไม่ชอบ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ในกรณีการแต่งตั้งนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยไม่ชอบ เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบประวัติของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งได้ไปเล่นกอล์ฟ โดยใช้เวลาราชการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ตามมติของครม.ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งจะต้องให้เรื่องร้องเรียนยุติเรื่องยุติร้องเรียนก่อน และมีการสรุปผลร้องเรียนว่าไม่มีมูลความผิด จึงจะได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นได้ ทั้งนี้การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงทำให้เกิดความเสียหายจึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีในวันนี้ กรณีการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และกรณีการขัดคำสั่งมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 เกี่ยวกับเรื่องมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระบบราชการ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันได้พูดในสภาผู้แทนราษฎร์ในการปรึกษาหารือตามรัฐธรรมนูญ กับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและได้ทำหนังสือไปยังป.ป.ช. นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ถึง 2 รอบแล้ว ซึ่งได้มีการตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงลงนามเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม การตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง มีกรรมการ 3 คน เลขานุการ 1 คน เท่าที่ตนตรวจสอบข้อมูลมากรรมการสืบข้อเท็จจริงอาจจะเป็นคนที่ไปร่วมก๊วนกอล์ฟนั้นด้วย เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ประเด็นปัญหาคืออธิบดีได้ตอบกลับมาว่า ได้ลาราชการในวันดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฎว่าในภาพถ่ายพยานหลักฐาน ได้ลงจากรถราชการ สมมติว่าจะไปตีกอล์ฟในเวลาราชการ ไม่สามารถทำได้ แต่เมื่อลาราชการแล้วก็สามารถไปตีกอล์ฟได้ แต่จะใช้รถราชการไม่ได้ และยังมีในวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตามระบบตนได้ตรวจเช็คไปที่ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมที่ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องการลาราชการปรากฎว่า ยังไม่มีใบลาราชการ และได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าลูกชายของอธิบดีคนนี้ได้ไปตีกอล์ฟด้วย แต่ได้ทำจดหมายลาพักร้อนที่อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ปกติแล้วกระทรวงอุตสาหกรรมจะชอบตีกอล์ฟในวันศุกร์ ซึ่งตามระเบียบไม่สามารถทำได้ การจัดสวัสดิการจะต้องจัดในวันเสาร์-อาทิตย์หรือหลังเลิกงาน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ไม่รู้เห็นจะกันไว้เป็นพยาน เรื่องดังกล่าววิธีการรอดของครม.ชุดนี้ คือต้องถอนเรื่องการเป็นปลัดกระทรวงออกมาก่อน และรอให้เรื่องนี้สอบให้ยุติหรือเสร็จเสียก่อนว่าไม่ผิดจริง จึงจะทำการแต่งตั้งได้ ครม.จะไม่แก้ก็ได้ ถ้าไม่แก้ก็ต้องไปแก้ที่ป.ป.ช.แทน เพราะครม.ครึ่งหนึ่งของชุดนี้ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง นายกก็ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เพราะฉะนั้นแล้วถ้าให้ดีก็เป็นพยานเสียดีกว่า

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ ก่อนดำเนินการส่งเรื่องให้ป.ป.ช.เป็นผู้พิจารณาต่อไป