ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ 1 ใน 9 พรรคเล็ก โด่เด่เดียวดายไปแล้วเมื่อ 13 สิงหาคม

สำหรับมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์

ไม่มีเสียงปรบมือต้อนรับจากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเท่าไหร่นัก

เพราะมงคลกิตติ์ยังคงยืนกั๊ก

พร้อมจะเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล

แต่อาจล้ำหน้า 9 พรรคเล็กไปนิดหนึ่ง

ด้วยเพราะออกตัวแรงไปหน่อย

เลยถอยกลับไป “หนับหนุน” รัฐบาลเหมือนเดิมไม่ได้

แม้วันที่ประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ จะสับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หนัก

ที่ไม่รักษาสัจจะในข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล

และยังถล่มนายกรัฐมนตรีที่กล่าวถวายสัตย์ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ 2560

แล้วไม่แสดงสปิริตความรับผิดชอบทางการเมือง หรือแก้ไขให้ถูกต้อง

เหมือนจะตัดสัมพันธ์กันไปข้างหนึ่ง

แต่กระนั้น มงคลกิตติ์ก็ยังคงเกี่ยวก้อยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ไว้อย่างหวานแหวว

โดยยก ร.อ.ธรรมนัสว่าเป็นพี่ที่ยังไว้ใจได้

พร้อมกับเว้าซื่อๆ ชวนให้เอ็นดู

“เวลาพรรคไทยศรีวิไลย์ขัดสนยังไปขอยืมเงินได้”

เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่หยิบยืมกันได้นี้เอง

ทำให้แม้มงคลกิตติ์จะตรงเด่ ในฐานะฝ่ายค้านอิสระ

แต่ก็เอนระนาบเข้าหาพี่ธรรมนัสได้ตลอดเวลา

นี่จึงทำให้ “นักดีลการเมือง” อย่าง ร.อ.ธรรมนัส นับนิ้วแล้ว

พรรคเล็กที่สนับสนุนรัฐบาล ยังไงๆ ก็ครบ 10 พรรค

ไม่มีพรรคไหนแตกแถว

เพียงแต่ยามมีวาระสำคัญในสภา

อาจจะมีผู้ขัดสนเงินโทร.มาหาบ่อยขึ้นเท่านั้น

ซึ่งก็ต้องรอดูว่า บทบาทฝ่ายค้านอิสระในสภาจะเป็นอย่างไร

และที่มงคลกิตติ์ปูเรื่อง “ขัดสนยังไปขอยืมเงินได้”

ขัดสนในระดับไหน–ต้องติดตามดู

ซึ่งก็คงไม่เบา

เพราะอย่าลืม

มงคลกิตติ์ยังได้ปูเรื่องเอาไว้อีกเรื่องหนึ่ง

นั่นคือ ห้อยพระกริ่งปวเรศทองคำไว้ปกป้องคนไม่รักษาสัจจะ

พระองค์นี้เจ้าตัวประเมินราคาไว้เองที่ 50 ล้าน

ห้อยพระมูลค่าระดับนี้

แล้วจะขัดสนทีละน้อยๆ ได้อย่างไร น่าเกลียดตาย