รายงานพิเศษ : “โบวี่ อัฐมา” บนเส้นทางธรรม เงิน (อย่างต่ำ) 10 ล้าน และอาถรรพ์คืนข้ามปี

“ปีที่ผ่านมาเป็นจุดเปลี่ยนของเราเลยนะ” นักแสดงสาว โบวี่-อัฐมา ชีวนิชพันธ์ เล่าให้ฟังถึงสถานการณ์ชีวิต ณ ปัจจุบัน จากนั้นเธอก็ยิ้ม

แล้วขยาย “เพราะเป็นปีที่เริ่มปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง คือจริงๆ เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2558 แต่ปี 2559 ตั้งใจและทุ่มเท ปฏิบัติอย่างจริงจัง”

ด้วยเหตุนี้ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โบวี่ในวัย 31 ปีจึงไปเข้าคอร์สอบรมเกี่ยวกับธรรมะไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ส่งผลให้ “เราเปลี่ยนเป้าหมายในชีวิตไปเลย” เธอว่า

“อย่างเมื่อก่อนเราก็มองเรื่องทางโลกแบบผู้หญิงทั่วไป คือจะต้องทำงานถึงอายุเท่าไหร่ แต่งงานตอนไหน คิดประมาณนั้น แต่ตอนนี้เหมือนกับว่านอกจากกิจกรรมงานทางโลกที่เราทำแล้ว ก็มีเป้าหมายทางธรรมเพิ่มขึ้น คือตั้งจิตปรารถนานิพพานตามรอยทางพระพุทธเจ้า”

ซึ่งจะถึงซึ่งนิพพานเมื่อไหร่ คงไม่มีใครบอกได้ ที่รู้ก็แค่ “ถึงไม่ได้ชาตินี้ ก็ไม่เป็นไร ในชาตินี้เราก็ทำให้เยอะที่สุด สะสม เดินทางไปให้ไกลที่สุด แล้วค่อยไปเดินทางต่อเอาในชาติหน้า”

โบวี่ซึ่งรู้แล้วว่า “ความสุขที่แท้จริง” อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้คืออะไร ยังบอกด้วยว่า ถึงตอนนี้เธออยากกระจายสิ่งที่ได้รู้ ได้พบ ให้คนทั่วไปได้รับทราบ ที่ผ่านมาจึงอาสาช่วยงานองค์กรด้านธรรมเพื่อเผยแพร่

“เมื่อเราพิสูจน์แล้วว่ามันมีอยู่จริงๆ แล้วมันดีมาก ก็รู้สึกว่าอยากให้คนอื่นได้มาเห็น มาเจอ แล้วก็อยากทำงานตอบแทนพระศาสดาที่ท่านได้ชี้ทางสว่างให้กับเรา อยากตอบแทนพระคุณท่าน เลยมาช่วยงานตรงนี้” นี่คือเหตุที่ให้

 

 

บอกต่อไปอีกว่า สำหรับเธอแล้ว ณ วันนี้ “เป้าหมายทางโลกกลายเป็นเรื่องรอง เป็นเรื่องแบบที่ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ คือยังตั้งใจทำงาน ยังทำอะไรเต็มที่เหมือนเดิม แต่ผลจะออกมาเป็นไง เราไม่ทุกข์ ช่างมันเถอะ เพราะเราทำเต็มที่แล้ว ยึดอะไรกับมันไม่ได้หรอกทางโลกน่ะ มันไม่เหมือนทางธรรม”

ดาราสาวซึ่งเคยเซ็กซี่ ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าต่อไปนี้จะเลิกถ่ายแนวดังกล่าว ด้วยเกรงว่าภาพลักษณ์จะขัดต่อการทำงานด้านศาสนา ยังบอกด้วยว่า นับแต่หันมาทางธรรม อีกสิ่งที่เธอเลิกทำคือการขอพร

“จะอธิษฐานบุญแทน” ว่าอย่างนั้น

โดยที่เน้นอธิษฐานในปีนี้ คือเรื่องของงาน ทั้งที่เป็นงานในวงการ และที่เป็นธุรกิจอาหารเสริม

“พอดีทำบ้านค่ะ เลยต้องมีเป้าว่าต้องทำรายได้ให้ได้เท่าไหร่” สาวเจ้าบอก

ทั้งนี้ ตัวเลขที่ตั้งไว้ เจ้าตัวขอไม่ลงรายละเอียดมาก นอกจากบอกว่าอยู่ที่ประมาณ 8 หลัก ส่วนจะเป็นหลัก “ต้นๆ” หรือ “ปลายๆ” นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง

 

ส่วนเรื่องของหัวใจที่เพิ่งเปิดตัว “เพื่อนชายคนสนิท” ไปเมื่อไวๆ นี้ โบวี่บอกว่าที่มาของการเปิดตัวก็มาจากข่าวควง ชาคริต แย้มนาม ไปดินเนอร์ 2 ต่อ 2 จนทำให้ถูกมองว่าเป็น “ตัวแทรก” ระหว่างอดีตสามีภรรยา ชาคริต-วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ซึ่งไม่จริง

แต่ก็เหมือนตลกร้าย ที่พอปฏิเสธแล้วคนไม่ยักเชื่อ

“บางทีก็ไม่เข้าใจนะ” โบวี่พูดพลางทำหน้าเซ็ง

“เหมือนคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แล้วพอปฏิเสธ คนก็หาว่าเราโกหก”

บอกอีกว่ากับชาคริต-วุ้นเส้นนั้น ตอนแรกที่เป็นข่าวไม่ได้คุยอะไรกัน เนื่องจากคิดว่าเดี๋ยวเรื่องไม่จริงคงเงียบไป

“แต่พอสักพักไม่เงียบไง เริ่มจะเยอะไปกันใหญ่ เลยตัดสินใจส่งข้อความไปหาพี่วุ้นเส้น ตอนนั้นพี่เขาอยู่ต่างประเทศ ก็เขียนไปว่าพี่วุ้น ข่าวไม่เป็นความจริงนะคะ พี่เขาก็ตอบกลับมาว่าพี่รู้อยู่แล้ว และบอกว่าเราไม่ต้องกังวล คือเขาน่ารักมาก”

ขณะที่ฝ่ายชาคริตนั้นผู้จัดการของเขากับผู้จัดการของเธอก็ได้คุยกัน

“เราเองโสดมานาน ก็เบื่อๆ แล้วก็อยู่แบบเหงาๆ เพิ่งจะมาโอเคช่วงปลายปีที่ผ่านมา” ถึงตอนนี้โบวี่เริ่มมีรอยยิ้มเล็กๆ

โดยความสัมพันธ์ครั้งนี้ของทั้งคู่ ข่าวว่านับวันก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ

แถมดีมากขึ้นไปอีก เมื่อสามารถประคับประคองให้ผ่าน “วันสิ้นปี” มาได้

“เพราะตอนที่ผ่านช่วงเวลาสำคัญ เราต้องเลิกกับแฟน ทะเลาะกับแฟน แล้วก็จะอยู่คนเดียวตลอดเวลา เป็นอย่างนี้ทุกปี”

“เหมือนโดนอาถรรพ์น่ะ” บอกอีก

“เพราะเราเป็นคนเล่นเอ็มวีเพลง “คืนข้ามปี” ของ ดา เอ็นโดรฟิน (ธนิดา ธรรมวิมล) แล้วรู้สึกว่าเพลงนี้มันอาถรรพ์กับเรามาก เพราะทุกคืนข้ามปี เราจะต้องเหมือนแบบอยากมีคนพิเศษ อยู่ในคืนพิเศษ แล้วสุดท้ายก็ไม่มีไง”

“เป็นโสดในคืนข้ามปีตลอดเวลา สำหรับตัวเองวันที่ 31 ธันวาคม จึงจะแบบเหงาๆ หน่อย ก็จะรีบๆ นอน จะได้จบๆ วันไป”

อย่างไรก็ตาม ปีนี้อาถรรพ์คงถูกทำลายไปสิ้น เพราะคืนข้ามปีที่ผ่านมาสาวโบวี่มีหนุ่มหล่อ โอม-อิทธิศักดิ์ วุฒิธนวัฒน์ ไปเป็นเพื่อนร่วมนั่งวิปัสสนา เพื่อสะสมบุญ

แบบอบอุ่น และดีต่อใจยิ่ง