“ซิโมน่า ฮาเล็ป” นักหวดชาวโรมาเนีย คว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งที่สองในชีวิตนักเทนนิสอาชีพ ในศึกวิมเบิลดัน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

เป็นการการันตีว่าความทุ่มเทในทุกเรื่องสัมฤทธิผลอย่างชัดเจน

เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ฮาเล็ปในวัย 17 ปี เป็นนักเทนนิสดาวรุ่งที่น่าจับตามองคนหนึ่ง

แต่ “หน้าอก” เป็นปัญหาใหญ่ของเธอ เพราะนักหวดโรมาเนียมีขนาดหน้าอกที่ใหญ่จนเป็นอุปสรรคต่อการเล่นเทนนิส เพราะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วอย่างที่ต้องการ

ทำให้ช่วงนั้นไม่ว่าความสามารถจะดีเท่าไร แต่ก็ไปไม่ได้ไกลสักที

ฮาเล็ปตัดสินใจผ่าตัดลดหน้าอกตัวเองเพื่อเทนนิสเป็นหลัก เธอยอมรับว่า เป็นการเสียสละครั้งใหญ่ในชีวิตตัวเองเพื่อกีฬาเลยทีเดียว และไม่รักหน้าอกคู่นี้ของตัวเองเลย

แม้จะไม่ได้เป็นนักกีฬาก็จะไปผ่าตัดลดขนาดมันอยู่ดี

 

สมาคมศัลยกรรมของอังกฤษได้ทำการสำรวจจำนวนผู้หญิงที่เข้ารับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกในอังกฤษในช่วงหลายปีหลัง พบว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างปี 2017-2018 มีจำนวน 4,014 ราย เพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม การจะเข้ารับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านคุณสมบัติต่างๆ ตามที่แพทย์กำหนดไว้ คือต้องมีค่าดัชนีมวลกายไม่เกิน 27 และหน้าอกต้องใหญ่จนมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน

รวมทั้งแผลการผ่าตัดนั้นอาจจะหายยากหรือหายช้า ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์เป็นหลัก

เพราะผู้หญิงบางคนที่มีหน้าอกใหญ่ก็ไม่ผ่านคุณสมบัติให้เข้ารับการผ่าตัดได้ โดยเฉพาะการมีบีเอ็มไอ 27 แต่หน้าอกใหญ่เกินขนาดตัว น้ำหนักของหน้าอกทำให้บีเอ็มไอของร่างกายเกินกว่าปกติอยู่แล้ว

“วิม ฟิสเซ็ตต์” โค้ชเทนนิสชื่อดังบอกว่า หลายปีก่อนไม่รู้จักฮาเล็ปมาก่อนเลย แต่ก็เคยได้เห็นรูปของนักหวดโรมาเนีย ซึ่งการที่ฮาเล็ปเลือกผ่าตัดเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว เพราะใครต่อใครต่างก็พูดถึงหน้าอกมากกว่าเรื่องของฝีมือ และหวังว่าฮาเล็ปจะคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเพื่อให้คนอื่นๆ พูดถึงเธอในเรื่องของเทนนิสได้เสียที

ซึ่งมันก็เป็นไปอย่างที่ฟิสเซ็ตต์คาด เพราะฮาเล็ปทำมันได้แล้ว แต่เรื่องราวหน้าอกของเธอก็ยังคงถูกจดจำอยู่ดี เป็นการจดจำในเชิงบวกที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงอีกหลายๆ คน

 

ฮาเล็ปปลดแอกคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งแรกในศึกเฟรนช์ โอเพ่นเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถประกาศศักดาหยิบแชมป์สแลมอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมาได้

จนกระทั่งมาประสบความสำเร็จอีกครั้งในวิมเบิลดัน และเป็นการชนะเซเรน่า วิลเลียมส์ ที่แข็งแกร่งเกินกว่านักหวดสาวในโลกจะปราบลงได้

“คาร์ล่า เจนกินส์” ปัจจุบันเป็นนักข่าวในวัย 23 ปี เจนกินส์เข้ารับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกเมื่อปี 2015 และเปิดใจว่า หลังจากที่การผ่าตัดสำเร็จไปได้ด้วยดีและกำลังนั่งมองรอยแผลที่หน้าอกของตัวเองนั้น เธอร้องไห้ออกมา

แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกในชีวิตที่ร้องไห้ให้กับมัน เพราะที่ผ่านมาเจอความเจ็บปวดจากการมีหน้าอกใหญ่จนต้องตัดสินใจผ่าตัดในที่สุด

ซึ่งเจนกินส์ก็ได้ยกเอาเคสของฮาเล็ปมาเป็นต้นแบบให้กับตัวเองว่า ทำไมวันที่นักเทนนิสมือ 4 ของโลกเข้ารับการผ่าตัด ถึงเป็นการเสียสละครั้งใหญ่ในชีวิต

“หลังจากเข้ารับการผ่าตัดแล้ว มันไม่ได้ดีต่อร่างกายเท่านั้น แต่มันยังส่งผลดีกับสภาพจิตใจด้วย เพราะฉันไม่ต้องพยายามที่จะซ่อนหน้าอกภายใต้เสื้อผ้าหลายชั้น หรือปรับท่านอนเพราะจะทำให้ไม่สบายตัว รวมทั้งไม่ปวดหัว ไม่เจ็บหลัง และผู้คนไม่จ้องมองด้วยสายตาแปลกๆ ซึ่งก็คงไม่ต่างจากที่ฮาเล็ปรู้สึก”

 

“คริส ฮอลล์” ผู้ให้คำปรึกษาการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกในกรุงเบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ บอกว่า ไม่อยากให้มองว่าการผ่าตัดในลักษณะนี้เป็นการผ่าตัดเสริมความงามอย่างที่เป็นอยู่ เพราะมันช่วยสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับร่างกายของผู้ผ่าตัดเอง รวมทั้งสุขภาพจิตก็ดีขึ้นมากด้วย แต่กฎเกณฑ์ต่างๆ ก่อนที่จะได้ผ่านมันเพื่อผ่าตัดได้นั้นเข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

ฮาเล็ปบอกว่า เป้าหมายหลังจากนี้คือ การคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นในปีหน้า และน่าจะเป็นตัวเลือกแรกในการถือธงชาติโรมาเนียเดินเข้าสนามในพิธีเปิดการแข่งขัน หลังจากที่ฮาเล็ปร้องขอทำหน้าที่นี้กับ “มิไฮ โควาลิอู” ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกโรมาเนีย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับไปเรียบร้อยแล้ว

ความสำเร็จของฮาเล็ปเป็นการทำให้โลกเห็นว่า การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกเป็นเรื่องที่สร้างความสุขให้ชีวิตได้จริง สำหรับสาวๆ บางคนมันอาจจะไม่ได้ช่วยให้ประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้ แต่มันก็ช่วยให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้ มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตในสังคมมากกว่าเดิม