ขอแสดงความนับถือ/ฉบับประจำวันที่ 19-15 กรกฎาคม 2562

ขอแสดงความนับถือ

 

หายหน้าหายตาไปนาน

สำหรับ “พงษ์เทพ”

วันนี้ เขามาแล้ว

 

เรียนบรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์

วันนี้หลบความวุ่นวาย

หลบกิเลสมนุษย์

ของทหารการเมือง โดยเฉพาะชนชั้นนำของสังคมล้วนเต็มไปด้วยกิเลส และความโลภ

มากกว่าคนชนชั้นล่างมากมาย

คนชั้นล่างไม่มีจะกิน ก็ไม่รู้จะหาความโลภจากที่ไหนได้แล้ว

ต่างกับทหารระดับบิ๊กๆ กินเงินเดือน ค่าตอบแทน ผลประโยชน์ต่างๆ ที่ท่านกำหนดกัน

กินเงินเดือนกี่ทาง จากตำแหน่ง ในราชการ เป็น ส.ว. และกินตำแหน่งอื่นๆ

รายได้เท่าไหร่ ตัวท่านย่อมรู้และเข้าถึงกิเลส ไม่ต่างกับนักการเมือง

 

ผมมีกิเลส ขอมาเที่ยวญี่ปุ่น

ไม่ได้ใช้เงินแผ่นดิน ลูกสาวสปอนเซอร์ จึงบินแอร์บัส A-300 ลัดฟ้าถึงสนามบินนาริตะ

สนามบินกว้างขวางใหญ่โต สะอาดสะอ้านไม่แออัด

ผมยืนรอตรวจเอกสารเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ ต.ม. เชิญหญิงไทย 2 สาวเข้าห้องสัมภาษณ์

เธอเดินเกาหัวบ่นอุบ อะไรวะ! แม่(ง)เอ้ย! ผมเข้าใจความรู้สึก

รถไฟวิ่งเข้าเมือง เดินทางตามพิกัด GPS มาถึงที่พัก

โลกเจริญขึ้นเท่าใด เราก็สบายเท่านั้น

กล่าวกันว่าการมาญี่ปุ่น

คุณจะได้เห็นความสะอาดของบ้านเมือง

ผู้คนมีระเบียบวินัย คนเดินเท้ายืนรอไฟแดง ทั้งที่ถนนโล่ง จนกว่าไฟเขียวขึ้นจึงข้าม

คนเขาเคารพกฎกันจริงๆ

หากเป็นพี่ไทย กูไม่สนแล้ว มรึงจะรอทำไม

คุณภาพคนต่างกันลิบ (ผมก็ข้ามนะที่ไทย)

วันนี้ประจักษ์สายตา เห็นเช่นนั้นจริงๆ

 

ผมมาพักที่นี่ เดินผ่านอาคารก่อสร้างบ่อยๆ สบายหัว ไม่กังวลกลัวเศษวัสดุหล่นใส่กบาล

ผ้าใบคลุมตึกมิดชิด ทำตามกฎหมายเป๊ะ

มีคนยืนคอยอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย

ต่างกับพี่ไทยบ้านเรา ข่าวเครนก่อสร้างหล่นทับ ตึกถล่มระหว่างสร้าง เป็นข่าวบ่อยๆ

คนเดินถนนเสียชีวิต บาดเจ็บกัน ทุกรายล้วนละเมิดกฎหมายทั้งสิ้น

เป็นไงล่ะครับ นายทุนทั้งนั้น

 

คนมาเที่ยวญี่ปุ่น มีรสนิยมความชอบต่างกันตามไลฟ์สไตล์

บ้างอยู่สายวัด สายธรรมชาติ สายกล้อง สายกิน

ผมถามลูก “พ่อสายไหน”

คำตอบ “สายเซเว่น”

ผมขำก๊าก นั่นหมายถึง ผมมักจะเข้าร้านสะดวกซื้อ 7/11 ประจำ

คนญี่ปุ่นแวะซื้ออาหารกล่อง กินมื้อเช้า-กลางวันที่นี่กันเยอะ

คุณภาพอาหารได้มาตรฐานอยู่แล้ว ราคารับได้

กาแฟร้อน 30 บาท ข้าวหน้าเนื้อ 130 บาท

ผมกิน 3-4 มื้อ สลับไปนั่งกินตามร้านอาหารทั่วไป ซึมซับบรรยากาศร่วมวิถีชีวิตคนที่นี่

เมื่ออิ่มท้อง ก็เดินดูบ้านเมือง รถเก็บขยะดูใหม่ สะอาดตา

คนเก็บในชุดยูนิฟอร์ม กระฉับกระเฉงในหน้าที่

รถบรรทุกวัสดุหินทราย คลุมผ้าใบมิดชิด

ต้นไม้ริมทางปลูกเป็นระเบียบ ใครเห็นก็อดชื่นชมไม่ได้

ผู้คน/บ้านเมือง พัฒนาก้าวไกลเกินกว่าพี่ไทยจะตามทันแล้ว

 

เราอยู่อย่างไทยๆ กันไป เลือกตั้ง -> ปฏิวัติ -> เลือกตั้ง -> อนาคต ปฏิวัติอีก

วนอยู่อย่างนี้ เพราะ “กิเลส”

รัฐบาลทหาร คนดี จะเข้ามาปฏิรูป

5 ปีผ่านไปเราเห็นกันอยู่ ท่านไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลก่อนๆ

ผมว่าหนักกว่าด้วยซ้ำ

ผมถามคนในซีกรัฐบาล “กูพูดไม่ได้” ผมเข้าใจ

พูดก็อยู่ไม่ได้ อยู่ในเกราะอำนาจไป

 

ผมชื่นชมบ้านเมืองคนอื่น ตำหนิบ้านเรา

อาจจะถูกไล่ให้ไปอยู่ญี่ปุ่นก็ได้

ความคิดเห็นต่างกัน เป็นศัตรูกันไปแล้ว

เมื่อกลับถึงบ้าน กระแสกิเลสยังไม่จบสิ้น นักการเมืองซีกรัฐบาลแย่งตำแหน่งกันวุ่น

เราเห็นเนื้อแท้ ทุกคนรักตัวเองกันทั้งนั้น อ้างชาติกันหมด

ความอยากมี อยากได้ อยากเป็น เป็นเรื่องปกติของคนอย่างเราๆ

คนรักชาติ คือคนไม่โกงครับ รัฐบาล ทหาร ตอบตัวเองให้ได้ว่าท่านรักชาติหรือเปล่า

ใครบ้างจะบอกสังคม “ผมโกง” คำสอนพระ “คนดีให้ดูที่การกระทำ”

ผมเชื่อในคำสอน ศีล 5 เป็นตัววัดได้ดีทีเดียว

คนดีใครเขาทำกันบ้าง ท่านแต่งตั้งน้องชายเป็น ส.ว. เพื่อลงมติเลือกตัวเองเป็นนายกฯ

และเรื่องฉาวๆ ที่สังคมทราบกันถ้วนหน้า ท่านกลับเฉยๆ ไม่รู้สมรู้สาอะไร

ท่านข้ามหัวประชาชนเกินสังคมจะเข้าใจท่านแล้ว– “กิเลส”

ผมคนหนึ่งที่เชื่อว่า ท่านไม่ใช่คนดีและคนตรง สัจจะสำคัญครับ

ผมเชื่อเช่นนี้ก็คงอยู่ประเทศนี้ลำบาก อาจจะถูกตีหัวเหมือนจ่านิวก็ได้นะครับ

คนเห็นต่างกับรัฐบาลต้องระวังตัวกันแล้ว

คุณอยู่ในภาวะอันตรายครับ

ผมคงต้องหลบไปเอธิโอเปียสักพักครับ

บ.ก.ไปด้วยกันมั้ยครับ

“เราไปด้วยกัน”

พงษ์เทพ

 

อยากไปเหมือนกันแหละ

แต่ใครจะเฝ้าดู ครม.ใหม่

เห็นว่า กิเลส 19 ยี่ห้อ หนาตึ๊บ เชียวละคู้ณ…