ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 กรกฎาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
และแล้วก็ถึง “วันนี้ที่รอคอย”
ประเทศไทยได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่มาจากระบอบประชาธิปไตย
หลังจากที่ห่างหายไปกว่า 5 ปี
คนไทยหลงเชื่อ “มนต์เสียงเพลง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่า “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน”
ใครจะไปนึกว่า คำว่า “ไม่นาน” ของ “ลุงตู่” จะกินเวลาถึง 5 ปี
อย่าแปลกที่จะมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
อย่าแปลกใจว่าทำไมการตั้งรัฐบาลถึงใช้เวลากว่า 3 เดือน
เพราะถ้าระยะเวลา “5 ปี” ยังถือว่า “ไม่นาน”
20 ปี จึงถือว่า “ปกติธรรมดา” อย่างยิ่ง
แค่ 3 เดือนจึงถือว่าเร็วมาก
ประมาณแค่กะพริบตาเท่านั้นเอง
ในขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านทั้งหลายก็ถึงเวลา “วันนี้ที่รอคอย” เช่นกัน
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำรัฐประหารรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”
ครองอำนาจแบบไร้การตรวจสอบมานานถึง 5 ปี
วันนี้ถึงเวลาต้องเข้าสภาผู้แทนราษฎรเพื่อแถลงนโยบาย
และขออนุมัติงบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎร
หลายคนในพรรคเพื่อไทยบอกว่า แม้จะผิดหวังที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล
แต่ก็สะใจที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ
ต้องทำงานภายใต้รัฐธรรมนูญที่ยากแก่การบริหารประเทศ
และต้องเผชิญกับการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร
แค่คิดก็สนุกแล้ว
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์เริ่มออกอาการให้เห็น
พยายามปรามพรรคฝ่ายค้านไม่ให้ตีรวนเรื่องงบประมาณ
“อย่าใช้เวทีสภาเป็นเรื่องของการพยายามที่จะล้มรัฐบาลอะไรทำนองนี้”
แค่นั้นเองก็เป็นเรื่อง
“ลุงตู่” ลืมไปว่า “แผลใหญ่” ที่สุดของเขาก็คือ การใช้อำนาจนอกระบบล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
ใช้ “รถถัง” ล้มรัฐบาล
ในขณะที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือการโหวตล้มรัฐบาลผ่านสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นกระบวนการปกติธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย
เรื่องปกติธรรมดา กลายเป็น “เรื่องแปลก” ของคนที่ไม่คุ้นเคยกับการตรวจสอบของตัวแทนภาคประชาชน
แค่นับ 1 ของตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ในระบอบประชาธิปไตย
“ลุงตู่” ก็เริ่มออกอาการแล้ว