“อนุพงษ์” เผย เตรียมแบ่งงาน “มหาดไทย” ให้ 2 รมช. พร้อมแปลงนโยบายพรรคเป็น นยบ.กระทรวง-รัฐบาล ลั่น ไม่แบ่งเป็น 3 เสี้ยว ยกพรรคการเมืองประสบการณ์แน่น-ข้อมูลเยอะ ต้องเติมเต็มกัน โว 5 ปีทุกกระทรวงโปร่งใส-ไร้ผลประโยชน์ ยอมรับ ทำบางเรื่องประชาชนไม่ชอบ แต่จำเป็น เพื่อให้เกิดระเบียบ

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมแบ่งงานในกระทรวงมหาดไทยเมื่อมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่า คงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง เรื่องการทำงานร่วมกันนั้น ต้องยอมรับว่าทางพรรคการเมืองมีประสบการณ์และมีข้อมูลในพื้นที่มาก รวมถึงมีแนวความคิดที่จะดูแลในแต่ละเรื่อง จึงต้องแปลงนโยบายความคิดเหล่านั้นมาเป็นนโยบายของกระทรวงและเป็นนโยบายรัฐบาลให้ได้ จะไม่ใช่ประเภทแบ่งเสี้ยวให้พรรคนี้พรรคนั้นเอาไปทำ แต่ต้องเติมเต็มกัน โดยตนจะแบ่งและดูประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละกรมว่าจะให้รัฐมนตรีคนไหนดูกรมใด อาจจะคนละ 1-2 กรม อย่างไรก็ดี คงต้องหารือกับ ครม. เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยาก

“เราต้องการประสบการณ์ความรู้และข้อมูลของแต่ละพรรคมาย่อยให้เป็นของกระทรวง ไม่ใช่แบ่งกระทรวงเป็น 3 เสี้ยวแล้วดูคนละเสี้ยว แต่ถ้าเรื่องประสิทธิภาพของการทำงาน เช่น กรมที่ดินไม่รวดเร็ว บริการประชาชนไม่ดี รังวัดตกค้างเยอะ รัฐมนตรีก็ลงไปกำกับได้ ขับเคลื่อนได้ แต่ถ้าเป็นเชิงนโยบายก็มาพูดคุยกันก่อนแล้วค่อยลงไปทำ”

เมื่อถามว่าการประชุม ครม.ในวันนี้ถือเป็นการประชุมนัดสุดท้ายแล้ว พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า 5 ปีที่ทำงานมา ยืนยันว่ามั่นใจในความโปร่งใสของทุกกระทรวง ไม่มีใครมีผลประโยชน์ ทุกคนทำงานตามอำนาจหน้าที่ของตัวเองอย่างแท้จริง ช่วยกันและลงพื้นที่ ไม่มีใครมาทะเลาะเบาะแว้งกัน อาจจะมีผิดพลาดบ้างก็ลงโทษกันไป เพราะเรามีท้องถิ่นจำนวนมาก

“เรารู้ว่าบางเรื่องที่ทำไป ฐานเสียงประชาชนอาจจะไม่ชอบ เช่น ไปกำกับให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เศรษฐกิจระดับล่างอาจจะกระทบบ้าง แต่เราก็ต้องทำ ยอมรับว่าอาจมีอะไรที่ไม่ถูกต้องนัก แต่เพื่อความอยู่รอดของประชาชน เช่น การขายของริมฟุตปาธ ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นประเด็นอยู่ว่าเขาต้องการขายตรงไหนก็จะขาย เพราะเราขอให้ขายในพื้นที่ที่กำหนด เป็นหน้าตาของกรุงเทพฯ แต่บางที่เราก็ยอม บางพื้นที่ต้องขอจัดระเบียบ แต่เราทำเพื่อให้เกิดระเบียบ หากมองในแง่ความผิดพลาด อาจกระเทือนเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ และคนทำมาหากินบ้าง ประชาชนไม่ชอบ แต่ประเทศไทยจะปล่อยให้สิ่งต่างๆ แบบนี้เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ สรุปแล้ว เราทำงานร่วมกัน อยู่กับคนที่มีความสามารถและมีความตั้งใจ โปร่งใส ไม่มีนัยยะอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

มติชนออนไลน์