แบงก์จับตาประชุมเฟดห่วงกระทบเงินทุนเคลื่อนย้ายทำบาทผันผวน

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ31.25 บาทต่อดอลลาร์สหรับ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ31.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ คาดกรอบค่าเงินบาทวันนี้ 31.20-31.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้31.00-31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) วันที่18-19 มิถุนายนนี้และการประชุมสุดยอดกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี20วันที่28-29 มิถุนายนที่เมืองโอซาก้าประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าตลาดจะระวังตัวและไม่เคลื่อนไหวผันผวนมากช่วงกลางสัปดาห์แต่ภาพตลาดทุนที่ปิดรับความเสี่ยง(Risk Off) และโอกาสที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยีลด์) สหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นหลังการประชุมเฟดยังคงเป็นสองปัจจัยหลักที่สามารถหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นได้

คาดว่าเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ2.25-2.50% แต่อาจปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐลงเหลือ2.0% สำหรับปีนี้และ1.8% สำหรับปีหน้าพร้อมทั้งปรับลดมุมมองอัตราดอกเบี้ย(Dot Plot) จากเดิมที่ขึ้น1 ครั้งเป็นหยุดขึ้นไปจนถึงปี2563 ทั้งนี้ต้องระวังว่าสหรัฐอาจมีการกดดันจีนด้วยนโยบายภาษีก่อนการประชุมจี20 ซึ่งอาจหนุนให้มีเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นสำหรับการประชุมครั้งนี้แม้จะมองว่าแทบไม่มีโอกาสที่สหรัฐและจีนจะสามารถหาข้อตกลงการค้ากันได้แต่ถ้าการหารือเกิดขึ้นและมีข้อสรุปบ้างสกุลเงินหยวนเอเชียรวมถึงเงินบาทก็อาจแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนายจิติพลกล่าว

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ31.05-31.40 ต่อดอลลาร์สหรัฐ  เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่31.16 ต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ4 เดือนทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยมูลค่า8.5 พันล้านบาทและ800 ล้านบาทตามลำดับขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยยังคงลดลงต่อเนื่องตามภาวะตลาดโลกสำหรับจุดสนใจหลักของตลาดการเงินโลกสัปดาห์นี้อยู่ที่การประชุมเฟดคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้และหากเฟดส่งสัญญาณชัดเจนน้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้เกี่ยวกับโอกาสการลดดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้เงินดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มฟื้นตัวด้านสถานการณ์ด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนหลังการประชุมกลุ่มจี20จะเป็นปัจจัยชี้นำการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยเฟดต่อไป

นางสาวรุ่ง กล่าวว่า สำหรับปัจจัยภายในประเทศสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(...) เปิดเผยยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น3.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยเป็นผลจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังขยายตัวมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยรวมถึงการลงทุนภาครัฐและเอกชนอย่างไรก็ตามยอดส่งออกรถยนต์เดือนพฤษภาคมหดตัว3.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยการส่งออกลดลงเกือบทุกตลาดภาพดังกล่าวสะท้อนภาวะเศรษฐกิจไทยซึ่งกำลังอาศัยแรงส่งจากอุปสงค์ในประเทศประคับประคองได้บ้างขณะที่การค้าโลกเผชิญความไม่แน่นอนสูงตามการชะลอตัวของอุปสงค์จากจีนและข้อพิพาทการค้าระหว่างประเทศ

มติชนออนไลน์