วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร /ฝ่ามือกำสรด วิญญาณสลาย (192)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

ฝ่ามือกำสรด วิญญาณสลาย (192)

 

สถานการณ์ที่เอี้ยก่วยประมือกับลามะกิมลุ้นฮวบอ้วงโดยมีชีวิตของก๊วยเซียงเดิมพันครั้งนี้เป็นสถานการณ์อันรุนแรงและร้ายกาจ

แม้จะมี “ตัวช่วย” เป็นจำนวนมาก

นั่นก็คือ เซียวเล้งนึ่งกับพี่อินทรีเฝ้ารักษาที่ชั้นล่างผนึกกำลังกับจิวแป๊ะทง คอยขับไล่มือเกาทัณฑ์ฝ่ายมองโกล มิให้ยิงเข้าใส่ก๊วยเซียง

แต่จุดอ่อนอย่างสำคัญก็คือ จิตใจของเซียวเล้งนึ่งเอง

จิตหนึ่งใจเดียวของเซียวเล้งนึ่งล้วนจดจ่ออยู่ที่เอี้ยก่วย ขณะที่สะบัดกระบี่สังหารศัตรูมักช้อนตามองไปยังหอสูง พลันเห็นเอี้ยก่วยหลั่งโลหิตโซมกายหัวใจถึงกับสะท้านหวั่นไหว ขวัญวิญญาณแทบหลุดลอดออกจากร่าง

ยามนี้บันไดไม้ถูกเผาทำลาย ไม่สามารถบุกขึ้นหอไปช่วย

ในใจเซียวเล้งนึ่งเวิ้งว้าง เลื่อนลอย เพียงแต่สะบัดกระบี่ฆ่าฟัน ไม่ทราบว่าตัวเองอยู่แห่งหนใด ยามนี้กำลังทำอะไร

ยิ่งเอี้ยก่วยยิ่งอยู่ในสภาพร่อแร่ คับขัน

 

มีอยู่หลายครั้งมันคิดใช้ฝ่ามือ “กำสรดวิญญาณสลาย” ขยี้ทำลายศัตรู แต่เพลงฝ่ามือชุดนี้ต้องสัมพันธ์กับจิตใจ

นับแต่พบกับเซียวเล้งนึ่ง ในใจก็ปีติยินดี เปี่ยมด้วยความสุข

ไหนเลยจะมีความรู้สึกของ “กำสรดวิญญาณสลาย” ได้อีก มาตรแม้นอยู่ในห้วงอันตรายยังปราศจากความคับแค้นขมขื่น

ดังนั้น ตอนใช้ออกมักคลาดเคลื่อน มีอานุภาพจำกัด

สภาพที่เอี้ยก่วยบุกหอสูงต่อสู้ด้วยมือเปล่า หัวไหล่ข้อเท้ารับบาดเจ็บ ก๊วยเจ๋งและพวกล้วนแลเห็นเพียงแต่อยู่ห่างไกล

ไหนเลยติดปีกโบยบินขึ้นมาช่วยเหลือได้

อึ้งย้งพลันฉุกใจคิดชิงกระบี่จากมือเยลุกชี้โยนให้แก่ก๊วยเจ๋ง ร้องขึ้นว่า “ซัดขึ้นไปให้แก่ก่วยยี้”

ก๊วยเจ๋งรับกระบี่ นำเกาทัณฑ์ 2 คันมาประกบพาดด้ามกระบี่กับสายเกาทัณฑ์ มือซ้ายน้าวจนสุดล้า จากนั้นปล่อยออก

เสียงขวับดังเร่งร้อน กระบี่ยาวสะท้อนประกายขาวแหวกฝ่าอากาศไป

 

กระบี่เล่มนั้นพุ่งดังหวืดหวือ เอี้ยก่วยโบกแขนเสื้อข้างขวาม้วนกลับหลังห่อหุ้มตัวกระบี่ ประจวบกับกิมลุ้นฮวบอ้วงหวดจักรดีบุกมา เอี้ยก่วยใช้มือซ้ายรับกระบี่แทงผ่านหว่างกลางของจักรทั้งคู่ เพียงแต่ไหล่ซ้ายของมันบาดเจ็บเรี่ยวแรงอ่อนโทรมลง

กิมลุ้นฮวบอ้วงบิดจักรทั้งคู่ กระบี่หักสะบั้น

เอี้ยก่วยทราบว่าวันนี้ไม่มีทางรอด มิเพียงช่วยเหลือก๊วยเซียงไม่สำเร็จ แม้แต่ตัวมันเองก็ต้องทิ้งชีวิตอยู่บนหอ ดังนั้น กวาดมองเซียวเล้งนึ่งอย่างหดหู่แวบหนึ่ง ร้องขึ้นว่า

“เล้งยี้ ลาแล้ว ท่านเองถนอมตัว”

ยามนั้นจักรเหล็กของกิมลุ้นฮวบอ้วงกระแทกเข้าใส่ศีรษะเอี้ยก่วยเต็มแรง มันบังเกิดความท้อแท้ทอดอาลัย โบกแขนเสื้อม้วนออกฟาดใส่ 1 ฝ่ามือโดยไม่ลังเล

เสียงทึบเมื่อฝ่ามือนี้ฟาดถูกหัวไหล่กิมลุ้นฮวบอ้วง

เป็นอาการโต้กลับขณะที่เอี้ยก่วยงงงันอยู่วูบแล้วค่อยได้คิด ที่แท้มันสำนึกว่าต้องตาย ยามท้อแท้สิ้นหวัง สะบัดฟาดฝ่ามือออก พอดีใช้ด้วยกระบวนท่าเพลงฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายนาม “ยืดเย้อชวนรำคาญ” (ทัวนี้ตั่วจุ้ย)

กิมลุ้นฮวบอ้วงความจริงอยู่ในขั้นรุกและกำชัยอย่างต่อเนื่อง พลันถูกฝ่ามือฟาดใส่หัวไหล่ต้องส่ายร่างโงนเงน

ในใจทั้งแตกตื่นทั้งเดือดดาล

 

อันเพลงฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายนาม ยืดเยื้อชวนรำคาญนี้ เป็นกระบวนท่าใช้จิตบังคับแขน แขนบังคับฝ่ามือ

ล้วนขึ้นอยู่กับจิตสำนึก

เพียงมองเห็นจิวแป๊ะทงก็มองออก เนื่องจากวันที่อยู่ในหุบเขาหมื่นบุปผาไม่มีอารมณ์ความรู้สึกสิ้นหวังมาตรว่าพลังฝีมือสูงล้ำยังไม่รู้ซึ้งถึงเคล็ดความสำคัญ เอี้ยก่วยเมื่อพบพานเซียวเล้งนึ่งเพลงฝ่ามือชุดนี้ก็เสื่อมประสิทธิผล

จวบกระทั่งตกอยู่ในห้วงความเป็นความตาย ตระหนักว่ากำลังจะพรากจากเซียวเล้งนึ่งตลอดกาล ยามปวดร้าวรันทดค่อยเปล่งอานุภาพออกมา

นี่ย่อมเป็นจุดตัดอันส่งผลแพ้-ชนะในกระบวนการสัประยุทธ์