สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า กรุงกัมปาลา เมืองหลวงของประเทศยูกันดา ในแอฟริกาตะวันออก ผ่านกฎหมายห้ามให้เงินหรืออาหารแก่เด็กขอทานเร่ร่อนบนท้องถนน ซึ่งนายอีเรียส ลุควาโก นายกเทศมนตรีกรุงกัมปาลาชี้ว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้มีขึ้นภายใต้เป้าหมายเพื่อควบคุมป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางการค้าและทางเพศต่อเด็ก โดยผู้กระทำผิดจะได้รับโทษจำคุกสูงถึง 6 เดือน หรือปรับเงินจำนวน 11 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 350 บาท)

นายกเทศมนตรีกรุงกัมปาลากล่าวอีกว่ากฎหมายนี้ยังมุ่งหมายเอาผิดต่อพ่อแม่และนายหน้าที่หากินกับเด็ก ซึ่งพ่อแม่ของเด็กที่ถูกพบว่าเร่ร่อนขอเงินหรือค้าประเวณีบนท้องถนนจะถูกลงโทษด้วย

เดียร์ จีน ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่าเด็กจำนวนมากถูกขายมาจากหมู่บ้านของตนเองและคนที่พามาก็บังคับให้อยู่รวมกันในห้องเล็กๆในสลัมในกรุงกัมปาลา เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ทางการกรุงกัมปาลายังออกกฎหมายห้ามการเช่าที่พักที่เป็นการเอื้ออำนวยต่อการค้าประเวณีเด็ก การขอทานหรือการค้าใดๆก็ตามที่เป็นการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก

แอนนี คาทูเรกี หญิงขอทานวัย 60 ปีรายหนึ่งเปิดเผยกับบีบีซีว่าเธอใช้เด็กที่มากับเธอเพื่อที่จะให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความสงสารและให้เงินแก่เธอ

ทั้งนี้จากข้อมูลของรัฐบาลยูกันดาประเมินว่ามีเด็กเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ตามท้องถนนในกรุงกัมปาลาอยู่ประมาณราว 15,000 คน โดยมีอายุระหว่าง 7-17 ปี

อย่างไรก็ดีกฎหมายห้ามให้เงินหรืออาหารแก่เด็กเร่ร่อนมีผลบังคับใช้เฉพาะในกรุงกัมปาลาเท่านั้น ยังไม่มีการขยายผลครอบคลุมไปถึงพื้นที่อื่นในประเทศยูกันดา