พท.บุกกกต. จี้ถามความคืบหน้าปมสอบให้เงิน 5 พัน ชี้ ทำงานช้า ไม่เหมือนเคสเชียงใหม่

อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.พท. บุกกกต. จี้ถามความคืบหน้าปมสอบให้เงิน 5 พัน ชี้ พนง.สอบสวนทำงานช้า ไม่เหมือนเคสแจกใบส้มเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายไพโรจน์ อิสรเสรีพงษ์ ผู้สมัครส.ส. เขตที่ 17 หนองจอก กทม. พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือทวงถามจากกกต.ถึงกรณียื่นคัดค้านการเลือกตั้งในเขต 17 ที่พบการกระทำผู้สมัครของพรรคการเมืองหนึ่งที่ได้มีการนำเงินจำนวน 5,000 บาท พร้อมเสื้อพรรคการเมืองนั้น จำนวน 2 ตัว มามอบให้นางวราภรณ์ ขันทิพย์ ประธานชุมชนก้าวใหม่พัฒนาบึงปรง ซึ่งน่าจะเข้าข่ายความผิดในข้อกฎหมายอย่างร้ายแรง แต่นางวราภรณ์ไม่ได้รับและก็ได้ไปแจ้งความที่สน.หนองจอกไว้‬

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้มีการยื่นหนังสือในเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 เมษายน 62 และได้รับหนังสือตอบกลับจากกต.เมื่อวันที่ 29 เมษายน 62 ว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณา และขอเชิญให้ตนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่สิ่งที่ตนสังเกตถึงการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนของกกต.นั้นคือ กรณีนี้มีทั้งพยาน และบันทึกประจำวันของสน.หนองจอก และมีคลิปเสียงการพูดจาข่มขู่นายวราภรณ์ กกต.น่าจะสอบสวนโดยเร่งด่วน แต่กลับไม่ดำเนินการโดยฉับพลัน ซึ่งต่างจากกรณีผู้สมัครส.ส.เพื่อไทยที่จ.เชียงใหม่ที่นำเงินไปทำบุญให้พระสงฆ์ 2,000 บาท แต่กลับได้รับใบส้มอย่างรวดเร็ว

อีกทั้ง การนัดหมายสอบพยาน เป็นไปอย่างยากลำบากของผู้ที่จะมาให้ถ้อยคำในเรื่องนี้ ทั้งๆที่การสอบปากคำมีประเด็นเพียงใครเป็นผู้พบเห็นการให้เงิน 5,000 บาท ให้ในสถานที่ เมื่อวันที่ และผู้ที่นำเงินมาให้เป็นใคร เพียงเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่การสอบสวนต้องนานหลายชั่วโมง ทั้งนี้ในระหว่างการสอบสวนยังมีในลักษณะข่มขู่ว่าจะโดนผู้ถูกกล่าวหาฟ้องกลับ ซึ่งการให้ถ้อยคำนั้น หากผู้ให้ถ้อยคำให้ข้อความอันเป็นเท็จก็ย่อมเป็นความผิดโดยปกติอยู่แล้ว

 

มติชนออนไลน์