E-DUANG : ในที่สุด “นักเจาะ” ก็อาจจะถูก”เจาะ”ทะลวง

flickr.com/equinoxefr

การจับกุม 5 “ผู้ต้องสงสัย”ในกรณีการแฮกเข้าไปยังเว็บไซต์ของ”หน่วยราชการ”เป็นจุดหักเลี้ยวอย่างสำคัญ

ในสถานการณ์ “เด็กปาก้อนหิน”

นี่เป็น “เรื่องจริง” โดยได้รับการยืนยันจาก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.

เป็นการจับกุมตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม

เท่ากับแสดงให้เห็นว่า การจับกุมนี้อยู่ในความรับรู้ของหลาย หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง

นั่นก็คือ กระทรวงการคลัง

นั่นก็คือ กระทรวงดีอีเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

แม้ “ข้อมูล” 1 ซึ่งมาจากปากของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ใน ฐานะเลขาธิการคสช.

ต้องรอผล”การสอบสวน”

แต่การสอบสวนเบื้องต้นจากวันที่ 22-29 ธันวาคม สำคัญยิ่งต่อขบวนการ”แฮกเกอร์”ในประเทศไทย

นี่คือการเจาะเข้าไปยัง”โครงสร้าง”

 

ท่ามกลางความงุนงงสงสัย เพราะไม่มีใครรู้ว่า 5 “ผู้ต้องสงสัย”เป็นใคร

นอกจากข่าวลอยๆมาว่า “เป็นเด็กคะนอง”

นอกจากปรากฏผ่านผลสำรวจ “สงครามไซเบอร์”ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ว่า

เป็นเรื่องของ”เด็กเกรียน” ต้องการแสดง”ศักยภาพ”

เสียงเตือนจากแฮกเกอร์ระดับโลก ANONYMOUS มากด้วยความสุขุม

เป็นการเตือนไปยัง”ผู้ที่เคลื่อนไหว”

“ให้คิดให้ดีก่อนตัดสินใจเจาะระบบและต้องมั่นใจว่าสามารถกลบร่องรอยได้อย่างหมดจดจริงๆ”

เป็น “การเตือน” จากรุ่นพี่ผู้มากด้วย”ความจัดเจน”

 

หากมองด้วยสายตาของ “เด็กเกรียน” ก็อาจดำเนินไปอย่างที่มีบทสรุปจาก “คสช.”

นั่นก็คือ เป็นเรื่องของ”เด็กคะนอง”

เพราะเป้าหมายในการจับกุม 5 ผู้ต้องสงสัยของ”คสช.”เป็นเรื่องจริงจัง

จริงจังเหมือนเสียงสำทับจากบรรดา”โฆษก”

ไม่ว่าจะเป็นโฆษกจาก”ทำเนียบรัฐบาล” ไม่ว่าจะเป็นโฆษกจาก “คสช.” ไม่ว่าจะเป็นโฆษกจาก”กลาโหม”

ทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้น”ก้าวที่ 1″ มาจาก”ทหาร”

หากพลาดพลั้งหมายถึง “คุก” เพราะมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ค้ำคออยู่อย่างเต็มเปี่ยม

นั่นหมายถึง “โครงสร้าง”ของ”แฮกเกอร์”จะถูก”เจาะ”

เพราะมีแต่ต้องทะลวงเข้าไปในขบวนการ”แฮกเกอร์”เท่านั้นจึงจะยับยั้ง”ปฏิบัติการ”ได้อย่างทรงพลานุภาพ

โดยเฉพาะปฏิบัติการ”เด็กปาก้อนหิน”