ลึกลับใน”เงา”มืด โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

——————-

ลึกลับใน “เงา” มืด

——————-

น่าเห็นใจ “ฝ่ายความมั่นคง”

วันหยุดก็ไม่ได้หยุดพักผ่อนกับใครเขา

อย่างวันหยุดแรกของเทศกาลสงกรานต์ 12 เมษายน

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะ”โฆษกฝ่ายความมั่นคง” ต้องออกมา”สยบข่าวลือในโลกโซเชี่ยล”

โดยยอมรับว่า หลังมีคำสั่งปรับย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ปรากฏความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล

เผยแพร่และส่งต่อภาพและข้อมูลอันเป็นเท็จ

โดยพยายามบิดเบือน เชื่อมโยงกล่าวหาให้ร้าย พาดพิง ไปยังบุคคลต่างๆให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

อีกทั้งยังปล่อยข้อมูลเท็จ ยั่วยุ ปลุกปั่นให้สังคมแตกแยก

ปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง

ฝ่ายความมั่นคง กำลังติดตามและจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว

และขอเตือนให้หยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย เข้าข่ายฐานความผิดนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สังคมกำลังประสบกับปัญหากับข่าวปลอม (Fake News) ขอให้ประชาชนหนักแน่น ใช้วิจารณญาณแยกแยะข่าวสารที่ได้รับ ไม่ตื่นตระหนก

ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ตรวจสอบและให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ครบถ้วนกับประชาชน

จากคำแถลงของ “โฆษกฝ่ายความมั่นคง”นี้

เชื่อว่า ชาวบ้านและสื่อพร้อมร่วมมือ

แต่ก็หนักใจแทน”ฝ่ายความมั่นคง”ว่าจะหยุดข่าวปลอมได้หรือเปล่า

เพราะ ตั้งแต่มีคำสั่งปรับย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ออกมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาล รวมถึง”ฝ่ายความมั่นคง”

เคยให้ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเรื่องนี้อะไรบ้าง

คำสั่งย้าย ย้าย และย้าย โดยพ่วงการรอ”ตรวจสอบ”เข้าไปอีกนั้น

นอกจาก ไม่มีเหตุผลอธิบายใดๆ แล้ว เมื่อสื่อไปถามคนที่เกี่ยวข้อง ทุกคนปิดปากเงียบ

บางคนถึงกับ”ป่วย”

เมื่อขาดข้อเท็จจริงเช่นนี้แล้วก็เป็นอย่างที่ “โฆษกฝ่ายความมั่นคง บอกนั่นแหละ

ข่าวปลอมทะลัก

ต้องยอมรับว่าพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็น นายตำรวจที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในห่วง 5 ปีที่ผ่านมา

จู่ๆ ถูกหักดิบเช่นนี้ ก็เป็นธรรมดา ที่คนกระหายใคร่รู้

อย่าอึมครึม

อย่างการที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

แล้วมีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องถูกตรวจสอบนั้น

ก็น่าจะบอกสังคมได้ว่า สอบอะไร ใครเป็นคนสอบ ใช้เวลาเท่าไหร่

ซึ่งก็คงพอจะทำให้ สังคม เข้าใจ “เบื้องต้น” ได้ระดับหนึ่ง

มิใช่เงียบหายจ้อย กลายเป็น “สิ่งลึกลับในเงามืด” อย่างเช่นทุกวันนี้

ความลึกลับนี้แหละ คือสารกระตุ้นให้ ข่าวปลอม ทะลักออกมา และนับวัน จะมหัศจรรย์พันลึก ขึ้นไปทุกที

จะยุติ “ข่าวลือ-ข่าวปลอม”ได้ มีทางเดียว นั่นก็คือ “ความจริงและข่าวจริง”

แต่ที่ผ่านมา สังคมก็ไม่ได้รับรู้อะไรเลย

นั่นแหละคือปัญหา

ฝ่ายความมั่นคง แทนที่จะเหน็ดเหนื่อย มาอ้อนวอนให้สังคมช่วยกันยุติข่าวปลอม

ลองนั่งล้อมวงถกกันดูว่า มีข้อเท็จจริง กรณีพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มากหรือน้อยเพียงใดที่พอจะสามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้

ข้อเท็จจริง เท่านั้น ที่จะสยบ ข่าวลือ ข่าวปลอมได้

“10โฆษกฝ่ายความมั่นคง” ก็เอาไม่อยู่หรอก

สิ่งลึกลับใน”เงามืด”มันเย้ายวนใจกว่า