เรื่องสั้น | เพื่อนดื่ม

เสียงเพลงเร้าใจดังขึ้นเมื่อมีคนเปิดประตู และจะเงียบลงเมื่อมีคนปิดประตู มันเป็นประตูเปิดสู่โลกกลางคืนที่ผู้คนมาดื่ม-กินคลายเครียดหรือคลายเหงายามแสงตะวันลับขอบฟ้า

หน้าประตูมีการ์ดคอยคุมตรวจตราความเรียบร้อยและความปลอดภัย มีชื่อร้านว่า Singha Club ถัดลงมาจากป้ายไฟใหญ่ มีนีออนกะพริบหลากสีเขียนว่า Night Life & Entertain Yourself อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ในร้านแบ่งเป็นสองชั้น-สองโซน ชั้นแรกเป็นดิสโก้เธค ชั้นที่สองเป็นค็อกเทลเลานจ์ พนักงานนั่งดื่มมีสาวจากหลายประเทศมาทำงาน เช่น ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย

แนนสาวไทยคือหนึ่งในนั้น เธอเพิ่งบินมาทำงานได้เพียงหนึ่งอาทิตย์ ก่อนหน้านี้เธอทำงานร้านสปานวดเฉพาะจุดผู้ชายที่กรุงเทพฯ ซึ่งเธอไม่ชอบงานนี้มากนัก แต่เพื่อเงินเธอจำเป็นต้องทำ เธอใช้ชื่อปลอมเวลาทำงานเพื่อปกปิดตัวเอง และบอกใครๆ ว่าทำงานร้านนวดแผนไทย แต่ลึกๆ เธอรู้สึกขยะแขยงงานนี้ ต้องอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าสองต่อสอง ถูกลูกค้าลวนลาม หรือเสนอเงินให้เพื่อจะมีอะไรด้วย เธอไม่ยอมแม้สักครั้ง แต่นั่นแหละ ความลับไม่มีในโลก เธอเคยเจอคนรู้จักมาเป็นลูกค้า แล้วความลับของเธอก็ถูกเผยแพร่ออกไป ในเมื่อมันแก้ไม่ได้ ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย ถึงอย่างไร แนนยอมที่จะให้คนอื่นมองว่าเป็นคนเลว เพื่อจะได้ปลดปล่อยโซ่ตรวนแห่งพันธนาการนั้น คือเงินค่าเลี้ยงดูครอบครัวในแต่ละเดือน

ผู้ชายที่มาเที่ยวเคยพูดกับเธอว่า “การไปสปาคือการบำบัดอย่างหนึ่ง ก็เหมือนการช้อปปิ้งนั่นแหละ”

แล้วเธอล่ะคืออะไร? สินค้าประเภทหนึ่งอย่างนั้นหรือ?!?

แนนเคยมีผัว แต่เลิกกันแล้ว และมีลูกชายที่เธอทิ้งให้แม่เลี้ยงอยู่ต่างจังหวัด เธอมีหน้าที่ส่งเงินกลับประจำทุกเดือน ความรักของเธอกับผู้ชายคนนั้นมีชีวิตอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพียงสั้นๆ ดุจดอกไม้บานในแสงแรกแห่งวัน แล้วโรยราไปในความเดียวดายของกาลเวลาที่เปลี่ยนผ่าน

ความรักคือปรากฏการณ์ธรรมชาติเหมือนที่แนนพบพาน แต่สำหรับเขา ความรักเป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง เพียงแต่เขาเลือกจะไม่รัก เขาไม่รักเธอมากพอจนยอมแต่งงานด้วย ก็แค่อยากมีเพศสัมพันธ์สนุกๆ และบังเอิญไม่ได้ป้องกัน จนเธอท้อง เขาบอกว่าช่วยไม่ได้ที่คืนนั้นเธอมาหาเขา และช่วยไม่ได้ที่เธอเป็นฝ่ายชอบเขาเอง รู้ทั้งรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ณ ตอนนั้น เธอกำลังตกปลาโดยใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ และตัดสินใจว่าจะเลือกไปยืนบนจุดที่เหนือกว่าเขา แต่ผิดคาด การเปิดเผยตัวตนที่มากไปโดยไม่ได้รักกลับมาคือความว่างเปล่า แต่ช่างเถอะ, เหตุการณ์มันผ่านมานานมากแล้ว ลูกของเธอกับเขาย่างสี่ขวบ กำลังโต ดีที่เขายังมีความรับผิดชอบ ส่งค่าเลี้ยงดูและค่าเช่าห้องให้ในแต่ละเดือน เขาเคยให้นิยามตัวเองว่าเป็นคนสมาธิสั้น แต่สันหลังยาว! อย่ามารุงรังกับเขาเกินงาม เขาจะไม่ผูกพันกับอะไรที่ไม่ยั่งยืน ฟังดูเหมือนเป็นข้อแก้ตัว แนนได้แต่ทำใจยอมรับ ให้อภัย เพราะความเกลียดชังคนอื่นจะกลับมาทำร้ายตัวเอง เธอคิดว่าการต่อสู้ทั้งหมดของชีวิตมนุษย์ ทุกๆ เรื่องราว ทุกๆ เหตุการณ์ ล้วนแล้วจบลงที่เรื่องเซ็กซ์ แล้วหลังจากนั้นคืออะไร? คงต้องคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป นับจากนี้เขาก็จะเป็นแค่คนในความทรงจำเท่านั้น เพราะเรากำลังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องดราม่า อยู่ในสังคมอ่อนไหวแบบหลอกตัวเอง แนนรู้สึกเหมือนสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เคยมี เธอจะต้องเข้มแข็งและหยัดยืนให้ได้ ก็แค่ชาย-หญิงคู่หนึ่งทำความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิต เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะเลือกทำอย่างนั้น แต่เป็นชะตากรรมของเธอที่ต้องรับไว้เพียงลำพัง

เธอเคยพูดกับแม่ว่า “แนนไม่อยากเป็นผู้หญิงที่ทำผิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แล้วถูกตราหน้าไปตลอดชีวิต”

แม่เธอโต้ว่า “แกก็แค่เด็กใจแตก เรียนไม่จบ ไปชอบผู้ชายอายุมากกว่า ทำอะไรไม่รู้จักคิด”

แนนไม่ตอบ เดินหนีเข้าห้อง กอดลูกนอนร้องไห้

ความสัมพันธ์ของแนนกับแม่ไม่ค่อยดีนัก ตั้งแต่เธอท้องในวัยเรียน ทันทีที่รู้ แม่ให้แนนไปทำแท้ง เพราะหล่อนมองเห็นปัญหาที่จะตามมาข้างหน้า แต่เธอยืนยันเก็บเด็กไว้แม้ไม่มีพ่อก็ตาม แล้วแม่ก็ต้องแบกรับภาระในการเลี้ยงดูหลานที่บ้านนอก

คืนหนึ่งแนนเจอพี่โก้ในผับแถวถนนนราธิวาสฯ ซึ่งเธอไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้พูดคุยกัน แลกเบอร์กัน แล้วเขาก็ชวนแนนมาทำงานที่ร้าน พี่โก้เป็นหุ้นส่วนร้าน Singha Club เขาหว่านล้อมเธอโดยพูดตัวเลขว่างานนี้รายได้ดี รับเงินเป็นดอลลาร์สิงคโปร์ ทางร้านออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน ค่าทำพาสปอร์ต ค่าเดินทาง และพ็อกเก็ตมันนี่จำนวนหนึ่ง เมื่อทำงานได้แต่ละเดือนจะหักไปบางส่วน

เธอคิดอยู่นานสองนาน ในที่สุด ไหนๆ ก็ไหนๆ เธอไม่เหลือใครอีกแล้วจึงตัดสินใจทำงานนี้ แนนตั้งใจว่าปีนี้จะทำตัวเองให้มีความสุข อะไรที่เป็นทุกข์จะตัดทิ้งไป อย่าไปเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ใช่ เธอต้องหาเงินให้ได้มากๆ เพื่อลูก เธอพอพูดภาษาอังกฤษได้บ้างด้วยรูปประโยคง่ายๆ หน้าที่ของเธอคือคลอเคลียให้ผู้ชายอุ่นใจ อาศัยทักษะความเป็นหญิงร้อยเล่มเกวียน แขกมาเที่ยวไม่ต้องการอะไรมากมาย นอกจากเนื้อสาวอุ่นๆ โดยเฉพาะสาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้หญิงบ้านเขาซึ่งเย็นชาและน่าเบื่อ ไม่มีสาวสิงคโปร์แท้ๆ มาทำงานกลางคืนหรอก ประเทศนายหน้าอย่างนี้ไม่มีใครขัดสนอับจนเรื่องเงินทอง สาวบริการต้องอิมพอร์ตจากต่างประเทศเท่านั้น

แนนลาออกจากร้านสปา ให้เหตุผลว่าอาชีพนี้ทำให้เธอรู้สึกเกลียดตัวเอง ไม่บอกว่าจะไปทำงานเมืองนอก หลังเคลียร์เงินเสร็จ เธอพบว่าถูกโกงไปบางส่วน นายทุนก็คือนายทุน นักทำนาบนหลังคน ช่างเถอะ, ถือเสียว่าให้ทาน

ระหว่างทำเรื่องไปต่างประเทศ วันหนึ่งในห้องเช่าอันเงียบเหงา แนนกำลังกรอกเอกสาร เธอนั่งเหลาดินสอกับกบเหลา พยายามไม่ให้เปลือกของดินสอขาดออกจากกัน และให้ได้ความยาวมากที่สุด สะท้อนสภาวะความโดดเดี่ยวและเหม่อลอยของเธอ แนนเคยคิดว่าโลกปัจจุบันเคลื่อนที่เร็วเกินไปจนเธอตามไม่ทัน หรืออีกอย่างหนึ่งเธอขี้เกียจตาม เธอยังคงเจตนาทำตัวเรื่อยเฉื่อย ไม่ปรับตัว กลัวมันจะได้ใจ เพื่อแสดงความไม่แยแสและกลั่นแกล้งโลก ตั้งแต่พบพี่โก้ ทำให้เธอเปลี่ยนความคิด จะไม่หมกมุ่นกับความผิดหวังซ้ำซาก เธอจะเอาชนะโลกให้ได้

แนนเคยอ่านในเน็ต เขาเขียนว่า อย่าหมกมุ่นกับเรื่องอะไรมากเกินไปเดี๋ยวจะกลายเป็นภาพหลอนที่ย้อนมาทำลายตัวเอง เป็นภาพหลอนที่ตอกย้ำจนคิดว่าเป็นเรื่องจริง เธอหวังว่าพายุอันโหดร้ายจะพัดผ่านไป แนนยังคงนั่งในห้อง ภายนอกฝนตกยินเสียงซู่สาดซ่า ฟ้าร้องคำราม จิตใจร้อนรน เมื่อชีวิตตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ เธอต้องการใครสักคนที่คล้ายกันมาปลอบโยน พรุ่งนี้ต้องพร้อมเดินทางสายใหม่ ถึงวันนี้จะไร้งาน-ไร้เงิน-ไร้คนรัก เธอสงสัยว่ามีมนุษย์คนใดจะทานทนสิ่งเหล่านี้ได้

ก่อนเดินทาง แนนตั้งใจเปลี่ยนทรงผม จากผมยาวเป็นตัดสั้น หวังเริ่มต้นใหม่ เผื่อชีวิตหรืออะไรๆ จะดีขึ้น อีกสาเหตุหนึ่ง เพราะเธอเห็นรูปในเฟซบุ๊กของผัวเก่า ซึ่งถ่ายคู่กันระหว่างเขากับผู้หญิงคนใหม่ ทั้งคู่ดูร่าเริงมีความสุข น่าแปลกที่ทั้งแนนและเขาเลิกกันแล้วแต่ยังเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก เหมือนกับว่าไม่มีใครลบใคร

เพราะต่างคนอยากเห็นความเคลื่อนไหวของกันและกัน

จากหนึ่งอาทิตย์กลายเป็นสองอาทิตย์ และจากนั้นกลายเป็นเดือน แนนเริ่มคุ้นชินกับสถานที่และสภาพแวดล้อมใหม่ๆ มากขึ้น จากก่อนหน้ารู้สึกตื่นเต้น ประหม่า แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ความแปลกหน้าอีกต่อไป วันเวลาและประสบการณ์ทำให้เธอเปลี่ยน เธอต้องเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดในงานกลางคืน-งานสีเทาคาวโลกีย์นี้ การเป็นเพื่อนดื่มคือชื่ออย่างทางการ แท้แล้วผู้ชายมาเที่ยวหวังปลดเปลื้องอารมณ์ตัวเอง การพูดคุยโดยใช้มือนำทาง ลูกค้าบางคนพยายามจับหน้าอกหรือล้วงลึก เธอป้องกันตัวสุดกำลัง แต่ต้องไม่ทำให้แขกรู้สึกไม่ดี เดี๋ยวจะเสียลูกค้าไม่มาอีก เธอต้องงัดกลยุทธ์ที่เพื่อนร่วมงานสอน เธอให้เหตุผลว่าที่ทำงานนี้เพราะจำเป็น ไม่ใช่งานที่เธอรัก ให้นึกถึงหน้าลูกเข้าไว้

แนนตั้งใจว่าจะไม่ออฟกับแขก อย่างที่เคยพูดตอนพี่โก้ชวนทำ แม้จะมีรายได้มากกว่า เธอทำแต่งานนั่งดริ๊งก์เท่านั้น มีเสียงนินทาให้ได้ยินว่าเธอเป็นคนหวงตัว แต่เธอไม่สนใจ ชีวิตเป็นของเธอ เธอจะลิขิตเอง…แต่สุดท้ายเมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้เธอต้องออกไปนอนและรองรับอารมณ์แขกหลากหลาย เหตุการณ์นั้นกำลังจะเกิดขึ้นโดยที่เธอคาดไม่ถึง

มีความโกลาหลวุ่นวายในคืนสิ้นเดือน เมื่อฟ้าสาวไทยเพื่อนใหม่ของแนนตบกับสาวตากาล็อกเพราะแย่งลูกค้า ทั้งคู่ถึงกับเสียเลือด จนพี่โก้ต้องรีบมาเคลียร์เพราะกลัวเรื่องถึงตำรวจ หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันจะลุกลามใหญ่โต ไม่ใช่แค่การทะเลาะวิวาทธรรมดา อาจไปถึงตรวจค้นเรื่องแรงงานต่าวด้าวลักลอบเข้าเมือง เขารีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ คืนนี้พิเศษจะให้ส่วนลดกับแขก 20% พี่โก้ต้องปกป้องชื่อเสียงของร้าน เพราะกลัวร้านคู่แข่งเอามาเป็นประเด็นโจมตีทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก และสองสาวคนก่อเรื่องถูกเรียกไปพบที่ห้องเมเนเจอร์ ทั้งสองถูกทัณฑ์บนไปตามกฎ

วันถัดมาฟ้าและแนนได้หยุดพร้อมกัน สาวไทยนั่งดื่มปรับทุกข์-สุข โดยมีแอลกอฮอล์เป็นตัวช่วยในห้องพัก

ฟ้าพูดหลังแก้วเบียร์ “แหม พูดแล้วเจ็บใจ อีนั่นบังอาจมาแย่งลูกค้าประจำชั้น เผลอเข้าห้องน้ำหน่อยไม่ได้ ทั้งๆ ที่เค้าโทรมาบุ๊กชั้น มันดันบอกว่าชั้นไปกับแขกแล้ว” ฟ้าเป็นคนหนึ่งที่รับทำพิเศษ

คำพูดหล่อนยังพรั่งพรูตามปริมาณขวดเบียร์ “คนพรรค์อย่างเราจะมีใครมาสนใจ? นอกจากพวกลูกค้าหื่นกาม พวกเราก็แค่คนต่ำต้อย ไร้การศึกษาคนหนึ่ง จะมีผู้ชายดีๆ ที่ไหนเอาทำเมีย” และยังบอกอีกว่า “พวกแขกส่วนมากดื่มกินอย่างไร้สติและมีเซ็กซ์อย่างคลุ้มคลั่ง เห็นผู้หญิงเป็นเครื่องปลดปล่อยอารมณ์ ต้องระวังให้ดีนะแนน”

แนนพยักหน้ารับ ก่อนกระดกเบียร์อึกหนึ่ง เธอบอกตัวเอง จงเข้มแข็งในความต่ำต้อย สู้ๆ เพื่อตัวเรา และคนที่รักทุกคน เธอคิดในใจนิ่งๆ รอเก็บเงินได้สักก้อนจะเลิกทำอาชีพนี้ แล้วเอาทุนไปเปิดร้านขายน้ำเล็กๆ หวังว่าวันนั้นคงอยู่ไม่ไกล

ชีวิตเวียนวนซ้ำๆ เหมือนเช่นทุกวัน…ตื่นตอนบ่าย อาบน้ำ กินอาหารง่ายๆ ไม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาไหนกับใครเขา นอกจากซื้อของใช้จำเป็นตามร้านใกล้ที่พัก เกาะเซนโตซ่าที่เขาว่าสวยยังไม่เคยไป มีวันหยุดหนึ่งวันต่ออาทิตย์ก็ไม่อยากไปไหน มีแต่อยากนอน อีกอย่างคือกลัว ตม.สิงคโปร์จับส่งกลับไทย เพราะเธอเข้าเมืองผิดกฎหมาย ใช้วีซ่าท่องเที่ยวเท่านั้น

แนนมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นทะเลสิงคโปร์รางๆ ผ่านผ้าม่านสีอ่อนเนื้อบางลายดอกไม้ที่พลิกพลิ้วเป็นจังหวะตามสายลม ซึ่งกำลังบรรเลงร่วมกับสายฝนเม็ดเล็กที่โปรยปรายฟองฝอยกระทบบานเกล็ดที่เปิดไว้เพียงน้อย เธอคิดถึงตอนอยู่กรุงเทพฯ วันหยุดได้นอนบิดขี้เกียจบนเตียงในยามเช้าที่อากาศแสนสบาย ฟังเพลงรักเพราะๆ ที่ชอบ หรือคุยโทรศัพท์กับลูก แค่ได้ยินเสียเธอก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ วันนี้เธอตั้งใจกินมื้อบ่ายภายใต้สายฝนพรำ

เย็นวันนั้นแนนได้รับโทรศัพท์จากแม่ที่เมืองไทย บอกว่าพี่ชายถูกจับข้อหายาบ้า เหตุการณ์คือมีคนจ้างรถเขาไปต่างจังหวัด เจอด่านตรวจค้น สองผัวเมียที่ว่าจ้างเป็นเอเย่นต์ค้ายา พี่ชายเลยติดร่างแหตกเป็นผู้ต้องหาไปด้วย เพราะรถเก๋งที่ขับเป็นรถส่วนตัว ไม่ใช่รถรับจ้าง แม่ต้องกู้เงินห้าแสน เป็นค่าประกันตัวและค่าทนายความสู้คดี แม่บอกว่าเธอต้องช่วยพี่ชาย นี่คือหน้าที่ของน้องสาว เพราะตอนเป็นเด็กพี่ออกจากโรงเรียนมาทำงานรับจ้างส่งเสียเธอให้ได้เรียนหนังสือ นี่คือการโยนความรับผิดชอบมาให้เธอเต็มๆ แนนคิดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ มาอีกแล้วเจ้าปัญหา มาอีกแล้วเจ้าอุปสรรค ทำไมชีวิตฉันต้องเจออะไรอย่างนี้ตลอดเวลา

ในที่สุดแนนยอมผิดคำพูด-ผิดความตั้งใจ เพราะต้องหาเงินใช้หนี้นอกระบบตามคำสั่งแม่ ในโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี มันมีราคาที่ต้องจ่าย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ในเมื่อความรัก-ความหวัง-พังทลายไปหมดสิ้น ยังหลงเหลืออะไรให้ภูมิใจ

แนนต้องใช้สมบัติที่มีติดตัวผ่องถ่ายเป็นตัวเงิน ชีวิตกลางคืน-ชีวิตอันโสมม ทำให้เธอต้องเจอผู้ชายหลายประเภท หนุ่มบางคนมาเที่ยวกับเพื่อน แต่ก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์ ใช้นิ้วสไลด์ไปมา ไม่สนใจคนรอบข้างมากกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กในมือ แนนคิดว่าไม่มีประโยชน์เลยกับการมาเสียเงินสังสรรค์สนุกสนาน แล้วหลบมุมนั่งคุยหรือจ้องโทรศัพท์คนเดียว แต่เขาอาจมีปัญหาบางอย่างก็ได้ แนนแย้งตัวเอง ดูๆ ไปเขาก็เป็นคนน่ารัก อาจจะน่ารักที่สุดในบรรดาแขกที่เธอนั่งด้วย เขามาหาเธอบ่อยๆ ในระยะหลัง เขาชื่อจัสติน ทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ กำลังมีปัญหากับแฟนชาติไหนเธอไม่ใส่ใจจำ หน้าที่ของเธอคือ ดื่ม ฟัง และยิ้ม

คืนหนึ่งเขามาคนเดียวแล้วบอกมาม่าเรียกเธอนั่ง เขาซื้อดื่มไม่อั้น โน้มคอเธอหอมแก้ม…แผ่วเบา โอบกอดเธอในวงแขน…แผ่วเบา ประโยคหนึ่งที่ทำให้เธอประทับใจ เขาพูดว่า “บางครั้งการห่างกัน เพื่อจะรู้ว่าความคิดถึงนั้นสำคัญ” และกระซิบข้างหู คืนนี้จะออฟเธอไปข้างนอก บอกว่าไปฟังเพลงเบาๆ คุยกันสบายๆ สิงคโปร์มีอะไรหลายอย่างที่เธอยังไม่รู้ ไม่เห็น

คืนหนึ่ง-คือคืนนี้ ที่แนนตัดสินใจออกไปกับแขกเป็นวันแรก และโชคดีเหลือเกินที่เป็นเขา หวังว่าเขาจะเป็นคนดีเหมือนรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ทำกับเธอรุนแรง และหวังว่าเธอคงไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่คิดไปเอง เขาจะยังไงกับใครก็ช่าง ขอให้เขาดีกับเธอก็พอแล้ว ชีวิตคนทำงานบริการยังต้องการอะไรมากไปกว่านี้

เวลาผ่าน…แต่ราตรียังเยาว์ จัสตินเมา แต่ขยันพูดตัดพ้อน้อยใจแนน ที่เมื่อก่อนเขาเฝ้าตามตื๊อแต่เธอปฏิเสธการออกไป “มีอะไร” กับเขา “จริงสินะ ทำไมยูต้องมาชอบไอด้วย ด้วยเหตุผลอะไร? ในเมื่อมีผู้ชายมากมายหรือเกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ มารุมชอบ มารุมรักยู แทะโลมพูดจาเกี้ยวในเชิงชู้สาวให้ยูหลงเคลิ้ม ให้ตกหลุมพรางที่พวกเขาต่างขุดล่อด้วยคำพูดหวานหู เสนอเงินมากมายให้ยูไปนอนด้วย หรือเสนอตัวรับเลี้ยงเป็นเมียเก็บ”

เขายังพูดต่อไป เสียงดังและใช้คำแรงขึ้นๆ แนนพยายามมองโลกในแง่ดี มองคนเมาในมุมของคนเมา ในยามไม่มีสติมักจะพูดมาก ก้าวร้าว มองโลกในแง่ร้าย ลืมตัว มีความต้องการ สับสน เพื่อจะตื่นวันรุ่งขึ้น ทบทวนและเจ็บปวดรวดร้าวกับคำพูดตัวเองที่เพ้อพร่ำออกมาในคืนผ่าน คงใช่, มนุษย์ทุกคนต่างมีด้านมืดของตัวเอง เธอเช่นกัน

หลังประตูห้องของโรงแรมปิดลง แนนได้พบว่าสิ่งที่คิดกับความจริงช่างแตกต่างกัน นี่เป็นคืนที่เธอไม่ลืมไปตลอดชีวิต

แนนรู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้…