เปิดปูมคุกคดีความมั่นคง “มทบ.11” ก่อนย้ายที่ใหม่ ภายใต้ชื่อ “เรือนจำชั่วคราวแขวงทุ่งสองห้อง”

วันที่ 29 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่อง กำหนดอาณาเขตเรือนจำชั่วคราวแขวงทุ่งสองห้อง ตามที่กระทรวงยุติธรรมได้มีคำสั่งที่ 314 /2558 ลงวันที่ 8 กันยายนพ.ศ.2558 กำหนดอาณาเขตเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ขึ้นในพื้นที่พัน.ร.มทบ.11 ถนนพระรามที่5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เนื้อที่1ไร่ เพื่อใช้เป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องขังคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ และคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่อง โดยให้สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นั้น

เนื่องจาก พัน.ร.มทบ.11 ได้ย้ายไปเปิดทำการที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 31 ประกอบมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ยกเลิกคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 314/2558 ลงวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558 และกำหนดอาณาเขตเรือนจำชั่วคราวใหม่ ในพื้นที่ พัน.ร.มทบ.11 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร (พื้นที่เดิมเคยเป็นที่ตั้งกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ หรือกองพันทหารเสือ ถนนแจ้งวัฒนะ) เนื้อที่ 1 ไร่ 12.64 ตารางวา เรียกชื่อว่า “เรือนจำชั่วคราวแขวงทุ่งสองห้อง” มีอาณาเขตตามผนที่ แนบท้ายประกาศ เพื่อควบคุมผู้ต้องขังคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ และคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่องโดยให้สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

สำหรับเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรีให้มีฐานะเป็นเรือนจำชั่วคราวไปจนกว่าจะดำเนินการย้ายผู้ต้องขังแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2562

สำหรับเรือนจำชั่วเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ได้ประกาศเป็นเรือนจำชั่วคราว เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2558 ซึ่งมีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในขณะนั้น ได้ออกประกาศคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 314/2558 กําหนดเรือนจําชั่วคราว ขึ้นในพื้นที่ พัน.ร.มทบ.11 ถนนพระรามที่ 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 1 ไร่ เรียกชื่อว่า “เรือนจําชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี”

ทั้งนี้ เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี เคยถูกใช้คุมขังและสอบสวนผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคง ไม่ว่ากรณี 8 แอดมินเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” คดีมาตรา 112 หรือความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และคดีความมั่นคง เช่น นายอาเด็ม คาราแด๊ก นายมีไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาคดีระเบิดราชประสงค์ และคดีสำคัญถูกนำตัวไปคุมขังยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำที่ตั้งในค่ายทหาร ตามข้อมูลของโครงการข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชนหรือไอลอว์ระบุว่า มาตรการการรักษาความปลอดภัยภายในเรือนจำมทบ. 11 ก็ดูจะเข้มข้นกว่าในอดีต ทนายที่ไปพบลูกความคดีระเบิดราชประสงค์ใน มทบ.11 เล่าว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะคุมตัวผู้ต้องขังมาพบในสภาพปิดตา ใส่กุญแจมือและเท้า และมีทหารพร้อมอาวุธครบมือ 4-5 นาย คุมมาด้วย ซึ่งจากการสำรวจเรือนจำในกรณีอื่นข้างต้น ไม่พบว่าการควบคุมมีความเข้มข้นถึงขนาดนี้ ในกรณีของการปิดตา เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเพราะผู้ต้องขังถูกคุมตัวในค่ายทหาร เจ้าหน้าที่จึงไม่ต้องการให้จำเลยรับรู้สภาพโครงสร้างในที่คุมขัง ด้วยเหตุผลด้าน “ความมั่นคง”

ไม่เพียงเท่านี้ เรือนจำแห่งนี้ตกเป็นข่าวเมื่อปลายปี 2558 โดยมีรายงานว่า พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา และนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง หมอดูชื่อดัง ซึ่งเป็นตกผู้ต้องหาความผิดมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขัง ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตยังคงเป็นปริศนา

อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือนจำ มทบ.11 แขวงถนนนครไชยศรีได้ ที่นี่