SearchSri : เฟด VS นาดาล แมตช์ในฝันที่อาจไม่มีอีกแล้ว

การแข่งขันเทนนิสรายการใหญ่ระดับมาสเตอร์ส 1000 ในศึก “อินเดียนเวลส์ มาสเตอร์ส” เมื่อกลางเดือนมีนาคม ลงเอยแบบขัดใจแฟนสักหลาดรุ่นใหญ่เล็กๆ ไม่ใช่แค่เพราะ “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” อดีตมือ 1 ของโลกชาวสวิส พลาดแชมป์ที่ 101 ในการเล่นเทนนิสอาชีพของตัวเองอย่างเดียว

แต่ยังเป็นเพราะแฟนๆ อดดูเกม “ดรีมแมตช์” สุดคลาสสิคระหว่างเฟเดอเรอร์กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “ราฟาเอล นาดาล” นั่นเอง

เนื่องด้วยนาดาลจำเป็นต้องถอนตัวจากการแข่งขันก่อนรอบตัดเชือกกับเฟเดอเรอร์จะเริ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่าตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศกับ “คาเรน คาชานอฟ” ก่อนหน้านั้น

ด้วยอายุอานามของทั้งคู่ (เฟด 37 นาดาล 32) แฟนๆ ย่อมรู้ดีว่าเหลือเวลาอีกไม่มากนักที่ทั้ง 2 คนนี้จะได้ดวลแร็กเก็ตกันในการแข่งขันแบบจริงจัง ไม่ใช่แค่เริ่มนับถอยหลังสู่การแขวนไม้อย่างเดียว แต่ยังมีอุปสรรคอื่น อย่างเช่นอาการบาดเจ็บ หรือฟอร์มการเล่นที่ไม่เฉียบคมเหมือนก่อนซึ่งอาจทำให้คนใดคนหนึ่งตกรอบเร็วจนพลาดโอกาสเจอกันในรอบลึกๆ ได้

กรณีล่าสุดของนาดาลยิ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับแฟนๆ พอสมควร เนื่องจากเป็นการบาดเจ็บซ้ำที่หัวเข่าซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังของราชาคอร์ตดินชาวสเปนมายาวนาน และทำให้เขาพลาดโอกาสลงสนามเป็นระยะเวลายาวๆ มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

ถึงขั้นที่นักข่าวต้องถามความเห็นของเฟเดอเรอร์ว่า แมตช์รอบตัดเชือกอินเดียนเวลส์ 2019 อาจจะเป็นแมตช์สุดท้าย (ซึ่งไม่เกิดขึ้น) ระหว่างเขากับนาดาลหรือไม่? โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาแข่งขันกันต้องย้อนหลังไปถึงปี 2017 เลยทีเดียว

 

ตํานานสักหลาดชาวสวิสได้แต่หวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น เนื่องจากทั้งคู่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันมายาวนาน และมีแมตช์แห่งความทรงจำมากมายตลอดการเล่นเทนนิสอาชีพ ขณะที่นาดาลก็หวังว่าตัวเองจะหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาแข่งขันเทนนิสระดับสูงได้โดยไว ก่อนจะตัดพ้อเล็กๆ ว่ารู้สึกเหมือนตัวเอง “เสียเปรียบ” คู่แข่งคนอื่นๆ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาบาดเจ็บมากมายขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงหนึ่งซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้คือ สไตล์การเล่นของนาดาลเองที่เน้นการโต้บอลที่เส้นเบสไลน์ การวิ่งไล่ลูกอย่างสมบุกสมบันแทบทุกช็อต เป็นการเพิ่มภาระให้กับร่างกายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบริเวณหัวเข่าที่ต้องรับน้ำหนักของร่างกาย ทำให้เกิดปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังในบริเวณดังกล่าว

ด้านเฟเดอเรอร์มีสไตล์ที่ต่างออกไป มักจะเน้นเกมบุก ปิดแต้มให้เร็ว และไม่ฝืนร่างกายเล่นแต่ละช็อต ทุกอย่างปล่อยไปตามธรรมชาติ เขาจึงยังสามารถรักษาสภาพร่างกายให้เล่นเทนนิสได้สูสีกับนักหวดรุ่นน้อง แม้จะอายุปาเข้าไป 37 ปีแล้ว แม้ว่าการเคลื่อนที่หรือปฏิกิริยาตอบสนองอาจจะไม่รวดเร็วเท่ากับสมัยยังหนุ่มๆ ก็ตาม

สถิติการพบกันระหว่าง 2 คนนี้อยู่ที่ 38 นัด นาดาลเก็บชัยได้เหนือกว่า รวม 23 นัด ขณะที่เฟเดอเรอร์ชนะ 15 นัด

แต่โดยมากแมตช์ที่เฟดแพ้มักจะเป็นบนคอร์ตดินซึ่งเป็นงานถนัดของนาดาล และสถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด นักหวดสวิสเป็นฝ่ายคว้าชัยทั้งสิ้น

 

เส้นทางของนาดาลหลังจากนี้ต้องจับตาดูว่าเขาจะตัดสินใจเลือกลงหรือไม่ลงแข่งขันรายการไหนบ้าง เดี๋ยวจะถึงฤดูกาลคอร์ตดินซึ่งเป็นพื้นผิวที่ถนัด นาดาลอาจตัดสินใจลงแข่งเพื่อลุ้นแชมป์แกรนด์สแลม “เฟรนช์ โอเพ่น” ที่เขาเป็นเจ้าของสถิติแชมป์สูงสุด 11 สมัย แต่กับฮาร์ดคอร์ตและคอร์ตหญ้าซึ่งลูกเด้งเร็วกว่านั้น อาจเป็นภาระหนักสำหรับหัวเข่ามากจนเกินไป

อย่างปีที่แล้ว มีอีเวนต์ฮาร์ดคอร์ต 17 รายการ นาดาลถอนตัวก่อนแข่งถึง 11 รายการ ถอนตัวระหว่างแข่งอีก 3 รายการ และลงเล่นจริงจังเพียง 3 รายการเท่านั้น

หรือกรณีเลวร้าย ถ้าอาการเจ็บเข่าของนาดาลหนักเกินไป ก็อาจทำให้พลาดฤดูกาลคอร์ตดินบางรายการได้เช่นกัน โดยนาดาลอาจจำเป็นต้องเลือกพักในระยะยาวเพื่อถนอมร่างกายก่อนกลับมาแข่งขันใหม่ในสภาพที่พร้อมเต็มที่แล้วเท่านั้น

ส่วนเฟเดอเรอร์เอง ปีที่แล้วถอนตัวไม่ร่วมแข่งขันฤดูกาลคอร์ตดินเพื่อไปลุ้นคอร์ตหญ้ากับฮาร์ดคอร์ตที่เจ้าตัวถนัดมากกว่า เนื่องด้วยคอร์ตดินบอลเด้งช้า ไม่เหมาะกับการเล่นสไตล์บุกที่เขาถนัด และเจ้าตัวก็คงไม่พร้อมจะวิ่งไล่ลูกเพื่อโต้บอลยาวๆ กับคู่แข่งบนคอร์ตดินเท่าไรด้วย

เหตุผลจากทั้ง 2 ฝั่งข้างต้นทำให้โอกาสที่เฟเดอเรอร์และนาดาลจะโคจรมาพบกันในแมตช์สำคัญๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการระดับแกรนด์สแลมยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ หรือโอกาสนั้นอาจจะล่วงเลยไปอย่างที่หลายคนกลัวแล้วก็เป็นได้

ซึ่งถ้านั่นเป็นบทสรุปของการดวลกันระหว่างคู่นี้จริง ก็คงเป็นเรื่องน่าผิดหวังสำหรับแฟนๆ ไม่น้อย