กกต.แจง สถานทูตไทยที่มาเลเซียแก้ปัญหาดีสุดแล้ว การลงคะแนนยังเป็นความลับ

กกต. เผย สถานทูตมาเลเซียแก้ปัญหาดีที่สุดแล้ว ยังรักษาสิทธิการลงคะแนนโดยลับตามกฎหมาย มั่นใจรับมือเลือกตั้งล่วงหน้า ‪17 มี.ค.ได้ ‬ ชวนปชช.โหลดแอพฯสมาร์ทโหวตเช็คลำดับใช้สิทธิเพื่อความรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. ชี้แจงถึงปัญหาการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากปัญหาคนไปรอใช้สิทธิจำนวนมากที่มาเลเซีย ว่า ได้ประสานพูดคุยกับสถานทูตไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ว่าทำอย่างไรถึงจะให้คนไทย ที่มารอใช้สิทธิได้ใช้สิทธิโดยเร็ว ซึ่งก็มีการเพิ่มช่องทางการแสดงตน เพิ่มคูหา โดยจำนวนคูหามีเพียงพอ แต่เนื่องจากทางสถานทูตได้มีการจัดให้มีหน่วยลงคะแนนเคลื่อนที่ ทำให้คูหากระจายไปตามหน่วยลงคะแนนเคลื่อนที่ต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาโดยนำกล่องกระดาษมาทำเป็นคูหาเพื่อรองรับกับจำนวนผู้มาขอใช้สิทธิ ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย และก็ต้องชื่นชมว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทำได้ค่อนข้างดี แม้จะมีภาพที่ปรากฏออกมา ทำให้ไม่สบายใจ แต่ก็ยังสามารถคงหลังการเรื่องของการเลือกตั้งโดยตรงและลับไว้ได้ ซึ่งประโยชน์ตรงนี้พี่น้องประชาชน เป็นผู้ได้รับเพราะสามารถมาใช้สิทธิ และเราสามารถรักษาสิทธิการเลือกตั้งโดยตรงและลับของเขาไว้ได้

นายณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของประเทศจีน ที่มีกระแสข่าวว่าบัตรหายนั้น เป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากว่าในขั้นตอนของการลงทะเบียนออนไลน์ เราจะให้ผู้ขอลงทะเบียนกรอกในรายละเอียด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่ติดต่อได้ เพื่อเราจะได้จัดส่ง บัตรเลือกตั้ง เอกสารเกี่ยวกับผู้สมัคร ไปให้กับผู้ที่ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ได้กรอกไว้ แต่ในบางรายพบว่ากรอกไม่ชัดเจน ไปรษณีย์ส่งบัตรไปแล้วก็ถูกตีกลับมา ซึ่งทางสถานกงสุลก็พยายามที่จะหาที่อยู่ของผู้ที่ลงทะเบียน โดยมีการประสานกลับมายังกรมการกงสุลในประเทศไทย เพราะจะมีการเก็บที่อยู่ของผู้ที่ลงทะเบียนดังกล่าวเอาไว้ ซึ่งก็ได้มีการจัดส่งไปให้สถานกงสุลที่ประเทศจีน และสามารถส่งบัตรให้กับผู้ที่ลงทะเบียนได้เรียบร้อย ทั้งนี้รูปแบบการใช้สิทธิของคนไทยในต่างประเทศ ในแต่ละประเทศก็จะเป็นหน้าที่ เป็นอำนาจสิทธิขาดของเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ของประเทศนั้นๆ จะเป็นผู้กำหนด รวมถึงห้วงเวลาในการลงคะแนน วิธีการในการลงคะแนน การจัดสถานที่เลือกตั้ง จัดหน่วยเลือกตั้งเคลื่อนที่ หรือแม้การจัดลงคะแนนทางไปรษณีย์ก็ตาม ดังนั้นความคล่องตัวจึงขึ้นอยู่แต่ละประเทศเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามการตื่นตัวครั้งนี้สะท้อนว่าประชาชนมีความต้องการที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม

เมื่อถามถึงระยะเวลาในการลงคะแนนนอกราชอาณาจักรที่เหลือจะมีปัญหาในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกหรือไม่ เท่าที่ได้รับการประสานในขณะนี้พบว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางรายโทรศัพท์มาที่ประเทศไทย อย่างที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย แจ้งว่าได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิแล้ว แต่ทำไมไม่มีชื่อ ซึ่งผู้ลงทะเบียนได้แคปหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่รับรองการลงทะเบียนส่งมาเป็นหลักฐานยืนยัน ก็ได้ให้ทางกงสุลทำการเพิ่มชื่อ และใช้สิทธิเลือกตั้งเรียบร้อย

นายณัฏฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดในประเทศ ที่จะมีการเปิดให้ลงคะแนน‪ในวันที่ 17 มีนาคม‬นี้ ทางเลขาธิการ กกต. ได้มีการประชุมกับรองเลขาฯ กกต.ทุกคน และจะได้มีการส่งรองเลขาฯ ออกไปตรวจการเตรียมความพร้อมในจังหวัดที่มีผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมาก โดยจะเริ่มออกๆไปตรวจตั้งแต่วันพฤหัสบดี ซึ่งในส่วนของกรุงเทพ ที่เขตบางกะปิ ซึ่งมียอดผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 61,401 คน ทางเลขาธิการ กกต.ก็จะเดินทางไปตรวจความพร้อมด้วยตนเอง และจากการดูแผนการเตรียมการค่อนข้างดี โดยจัดสถานที่ใช้สิทธิ 2 จุด คือโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ และโรงเรียนบ้านบางกะปิ ทั้ง2แห่งจะแบ่งจังหวัดเพื่อกระจายไม่ให้การใช้สิทธิกระจุกอยู่ที่เดียว มีเครื่องคอมพิวเตอร์รองรับ 50 เครื่อง ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ เพื่อความสะดวดรวดเร็ว เมื่อจะไปใช้สิทธิสามารถที่จะตรวจสอบลำดับที่ในบัญชีการใช้สิทธิ สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต เพื่อตรวจสอบ ก่อนเดินทางไปใช้สิทธิได้ รวมทั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ตัวเองมีสิทธิได้ด้วย เมื่อไปถึงยังหน่วยออกเสียงล่วงหน้า และแจ้งลำดับที่การใช้สิทธิต่อกรรมการประจำหน่วยแล้วก็จะได้รับบัตรและซอง เมื่อใช้สิทธิแล้วก็ให้นำบัตรเลือกตั้งใส่ซอง ปิดผนึกและหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อปิดการลงคะแนนแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะทำการคัดแยก ก่อนส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเพื่อรอนับ‪ในวันที่‬ ‪24 มีนาคม‬ ทั้งนี้ เชื่อว่าในการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า‪ในวันที่ 17 มีนาคม‬ จะไม่เกิดปัญหาความแออัดเหมือนในอดีต ที่แต่ละจังหวัดจะกำหนดหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าเพียงแห่งเดียว แต่ในครั้งนี้มีการกำหนดสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ากระจากไปถึง 380 กว่าแห่ง จึงคิดว่าการกระจายคนไปใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งเหล่านี้จะไม่เกิดปัญหา

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพริษฐ์ วัชระสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โวยเรื่องเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ที่แจกให้กับคนไทยในอังกฤษ มีภาพกับชื่อพรรคอยู่คนละแผ่น นายณัฏฐ์ กล่าวว่า การรับรู้ข้อมูลของผู้สมัคร ไม่ได้รับรู้เพียงจากเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายช่องทาง เช่น แอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวตที่แนะนำให้ดาวน์โหลด ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในต่างประเทศ สำหรับเมืองไทยเอกสารแนะนำตัวของผู้สมัครได้จัดส่งไปแล้ว ไม่มีปัญหาดังกล่าว

“ผมเชื่อว่า คนที่จะเลือกผู้สมัครรายนี้ ก็คงไม่ใช่ที่นั่นที่เดียว ทั่วโลกที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่กระจายตัวกันอยู่ เฉพาะในประเทศไทยไม่มีปัญหาในเรื่องนั้น การที่จะสร้างประเด็นข่าว เพื่อให้อยู่ในเนื้อที่ข่าว ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ก็คิดว่าการใช้เพื่อนที่ข่าวเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ควรต้องพึงระวัง” นายณัฎฐ์ กล่าว

มติชนออนไลน์