เอกชนห่วงพิษบาทแข็ง ฉุดส่งออกเหลือ3% เตรียมหารือพณ.หาทางออก

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธาน (ฝ่ายเอกชน) ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมการค้า ธุรกิจบริการและการลงทุนในต่างประเทศ (D4) ภายใต้คณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ฝ่ายภาคเอกชน และประธานบริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ คณะทำงานฯจะร่วมประชุมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือและทบทวนปัจจัยบวกและลบที่มีผลต่อการส่งออกปี 2562 โดยเฉพาะประเด็นค่าเงินบาทแข็งค่า ที่กำลังเป็นอุปสรรคต่อการรับคำสั่งซื้อและส่งออกของไทยในขณะนี้ ทั้งนี้ ภาคเอกชน ประเมินผลกระทบจากค่าบาทแข็งไว้ 2 ช่วง คือ ระยะสั้น คงต้องปล่อยไปตามกลไก แม้เอกชนจะได้กำไรลดลงจากทอนเป็นเงินบาทได้ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรจะเสียหายได้มาก แต่นำเข้าได้อานิสงส์ ทั้งวัตถุดิบ เครื่องจักร และสินค้าทุน

นายสนั่น กล่าวว่า ส่วนระยะยาว หากบาทแข็งหลุด 30 บาทต่อดอลล์ จะเสียหายต่อส่งออกอย่างมาก ตอนนี้ก็กำลังเตรียมข้อมูลเพื่อเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้หารือกับธปท.มาตลอด และเร็วเกินไปที่จะเข้าไปแทรกแซงเพราะความผ้นผวนค่าเงินค่อนข้างเร็วมากในช่วงนี้ หลายประเทศเริ่มแข็งค่ากว่าบาทไทย อย่างอินโดนีเซีย ที่ต้องระมัดระวังคือการคุมราคาขายล่วงหน้า หากบริหารจัดการไม่ดีอาจขาดทุน ส่วนการจะขึ้นราคานั้นคงทำได้ยาก เพราะตลาดค้าโลกแข่งขันสูง และการสนับสนุนให้ประกันความเสี่ยง ดูเหมือนจะเป็นปัญหาไม่คล่องตัวของกลุ่มเอสเอ็มอี เป็นเรื่องที่รัฐคงต้องเข้าไปดูแลเรื่องต้นทุนและสภาพคล่องต่อไป

” บาทแข็งและปัจจัยสงครามการค้าโลกปีนี้เชื่อว่ายังมีอยู่มาก จะเป็นส่วนทำให้ตัวเลขส่งออกทั้งปี 2562 ไม่ถึง 8% ตามที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ และเอกชนเชื่อว่าน่าจะโตได้ 3-4% ก็น่าพอใจแล้ว เหมือนปีก่อนเอกชนก็มองแค่ 5% ทั้งๆที่รัฐมอง 8% ส่วนตัวเลขชัดเจนจะเป็นเท่าไหร่ต้องรอผลการหารือกับกระทรวงพาณิชย์ในสัปดาห์หน้าก่อน ” นายสนั่น กล่าว

มติชนออนไลน์