แฟ้มข่าว

แจกโบนัสดันเชื่อมั่นครัวเรือน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทยทั่วประเทศ พบว่า ล่าสุดเดือนธันวาคม 2561 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากครัวเรือนไทยบางส่วนมีรายได้เพิ่มขึ้น จากหลายองค์ประกอบ อาทิ ปรับขึ้นค่าจ้าง/เงินเดือน จ่ายเงินโบนัสประจำปี การได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน รวมถึงมาตรการภาครัฐช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยสนับสนุนค่าใช้จ่ายปลายปีอีก 500 บาทต่อคน และราคาสินค้าเกษตรทรงตัวระดับสูง ในส่วนดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนอีก 3 เดือนข้างหน้า ก็ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีความกังวลลดลงต่อประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สิน รวมถึงไตรมาสแรกปี 2562 ยังมีหลายประเด็นที่จะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพ สภาพภูมิอากาศคาดว่าจะร้อนและแห้งแล้งขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนิโญ จะทำให้ปริมาณผลผลิตเกษตรน้อยลง ดึงราคาและรายได้ครัวเรือนเกษตรกรเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจัยกดดันคือราคาสินค้าและบริการคาดปรับสูงขึ้น เช่น ปรับขึ้นค่ารถโดยสารต่างๆ

เร่ง สนข.ทำแผนลดปัญหาจราจร

นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่อเนื่องมีปัญหาเรื่องการจราจรติดขัดรุนแรงมากขึ้น ซึ่งพื้นที่ย่านธุรกิจ (ซีบีดี) ได้รับผลกระทบหนัก หากไม่เตรียมการแก้ไขอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมได้ ดังนั้น สนข.จึงจัดทำแผนเร่งด่วนแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในย่านธุรกิจหลักเร่งด่วนในระยะ 5 ปี ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมอนุมัติงบฯ ให้ สนข.จำนวน 28 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาจัดทำแผนเร่งด่วนเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการจราจรเป็นพื้นที่ย่านธุรกิจหลักบน 5 ถนน คือ หลานหลวง เพชรบบุรีตัดใหม่ รัชดาภิเษก พระราม 4 และกรุงเกษม โดยจะประกาศจัดจ้างเดือนมกราคมนี้ คาดว่าใช้เวลาศึกษา 1 ปี หรือแล้วเสร็จต้นปี 2563 ก่อนเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคม คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) และคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป โดยตั้งเป้าเริ่มโครงการภายในปี 2563 ทั้งนี้ ประเด็นศึกษาและสำรวจ เช่น อุปสรรคต่อการจราจรในพื้นที่ พฤติกรรมการเดินทาง การคาดการณ์สภาพการจราจร เป็นต้น

เอกชนลุ้นเลือกตั้งดันจีดีพี 4.5%

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.ประเมินว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปี 2562 คาดขยายตัวกว่า 4% ส่วนการส่งออกคาดขยายตัว 5% ส่วนเงินเฟ้อคาดอยู่ในกรอบ 0.8-1% จากปี 2561 ขยายตัว 4.3% ซึ่งการเลื่อนเลือกตั้งไม่น่ามีผลมากนักกับเศรษฐกิจไทย ซึ่งนักลงทุนยังเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐยังเดินหน้าได้ โดยเห็นว่าปีนี้เอกชนเห็นว่าการเลือกตั้งที่จะเกิด พระราชพิธีบรมราชาภิเษก การลงทุนในอีอีซีมีต่อเนื่อง น่าจะเป็นผลบวกกับเศรษฐกิจไทย และหากสถานการณ์สงบเรียบร้อย ตั้งรัฐบาลและกระบวนการทุกอย่างโปร่งใส อาจจะเห็นจีดีพีขยายตัว 4.5% ก็ได้

ตุนเงิน 1.7 แสนล้านหนุนวิน จยย.กู้

นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการบรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ขณะนี้ บสย.อยู่ระหว่างการประสานธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) รวมถึงธนาคารรัฐและธนาคารพาณิชย์ จัดทำโครงการรักพี่วิน ซึ่ง บสย.จะเข้าไปช่วยค้ำประกันในการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีจำนวน 1.5 แสนราย โดยเร่งรัดให้ผ่านปฏิบัติการสรุปแนวทางการปล่อยกู้ชัดเจนภายในเดือนมกราคมนี้ โดยปล่อยกู้ทั้งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กลุ่มไลน์แมนแมสเซนเจอร์ (คนส่งเอกสาร) โดย บสย.มีวงเงินค้ำประกัน 1.7 แสนล้านบาท สามารถค้ำประกันปล่อยกู้สูงสุดรายละ 5 หมื่นบาท คาดช่วยลดค่าใช้จ่าย เพราะขณะนี้รถมอเตอร์ไซค์เสียดอกเบี้ยให้กับลีสซิ่งทั่วไปถึง 36% ต่อปี

เก็บแวตอีบิซิเนสส่อแท้ง

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่กำหนดให้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (อีบิซิเนส) ในต่างประเทศที่เข้าทำธุรกิจในไทย ยังอยู่ในการพิจารณาของกฤษฎีกา ตามกำหนดหากจะให้กฎหมายพิจารณาผ่าน สนช.ก่อนเลือกตั้ง ต้องเสนอกฎหมายเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังกำลังติดตามว่าในกรณีเลื่อนวันเลือกตั้งจากเดิมกำหนดไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะสามารถเสนอกฎหมายเข้า สนช.อีกรอบได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังต้องเตรียมแผนสำรองหากกฎหมายไม่สามารถเสนอเข้า สนช.ทันในรัฐบาลชุดนี้ ต้องเร่งเสนอกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลชุดหน้า ยอมรับว่ากฎหมายนี้ใช้เวลาทำมานาน เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ และมีเสียงคัดค้านมาก

เห็นแน่! ตู้เอทีเอ็มสีขาว

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า แผนงานปี 2562 ของสมาคมจะเร่งผลักดันโครงการควบรวมตู้เอทีเอ็ม หรือเอทีเอ็มสีขาว (ไวต์เลเบิลเอทีเอ็ม) คาดว่าจะทยอยเปิดใช้เอทีเอ็มสีขาวได้ภายในปี 2562 หลังจากได้หารือกับธนาคารสมาชิกเกี่ยวกับการดำเนินงานเอทีเอ็มสีขาวใน 2-3 รูปแบบมาระยะหนึ่งแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถสรุปสูตรการแบ่งปันค่าใช้จ่ายและรายได้ของโครงการในเร็วๆ นี้ เพราะแต่ละธนาคารมีความแตกต่างกันทั้งในแง่การลงทุน จำนวนตู้เอทีเอ็ม และทำเลที่ตั้ง ทั้งนี้ การควบรวมตู้เอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ภายใต้โครงการเอทีเอ็มสีขาวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนการบริหารจัดการเอทีเอ็มและเงินสดทั้งระบบลง นอกจากนี้ สมาคมจะขยายระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ผ่านคิวอาร์โค้ดไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยระบบชำระเงินทำได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.ระบบชำระเงินบนมาตรฐานกลาง และ 2.ระบบชำระเงินของแต่ละธนาคารเอง

จี้ผลิตข้าวนิ่มป้อนค้าโลก

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และหัวหน้าโครงการศึกษาพฤติกรรมบริโภคข้าวเฉพาะเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดข้าวไทย กล่าวในการสัมมนาจับเทรนด์ความต้องการข้าวในตลาดโลกว่า ขณะนี้จีนที่เป็นตลาดข้าวหลักและขนาดใหญ่ของไทยเปลี่ยนไปบริโภคข้าวนิ่มและเหนียวในประเทศมากขึ้น รวมถึงประเทศอื่นๆ ก็กำลังนิยม อาจทำให้ข้าวไทยได้รับผลกระทบในระยะยาว ขณะที่ไทยยังไม่สามารถผลิตข้าวนิ่มได้มากพอ

ซึ่งผู้ประกอบการเสนอรัฐขอให้เพิ่มผลผลิตข้าวนิ่มเพื่อทำตลาดต่างประเทศ ออกมาตรการตรวจสอบคุณภาพของข้าวที่เป็นมาตรฐานระดับสากล ส่งเสริมการปลูกข้าวเจ้าพื้นนิ่มแบบออร์แกนิกหรือข้าวอินทรีย์ให้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในอนาคต