ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 มกราคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ล้านนาคำเมือง |
ผู้เขียน | ชมรมฮักตั๋วเมือง สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
เผยแพร่ |
อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า “ดอกจ๊ะมั่ง”
ดอกจ๊ะมั่ง หรือ ดอกชะมั่ง คือดอกเล็บมือนาง
ดอกเล็บมือนางมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Combretum indicum (L.) Defilipps
คนล้านนาจำนวนหนึ่งไม่นิยมปลูกดอกชะมั่งไว้ในบริเวณบ้าน โดยถือว่าเป็นไม้อัปมงคลเช่นเดียวกับคนไทยโบราณทั่วไป
ต่อเรื่องนี้คนล้านนามีตำนานเรื่องพระนางจามเทวีกับขุนหลวงวิรังคะเล่าสืบต่อกันมาว่า
ขุนหลวงวิรังคะปกครองชนเผ่าลัวะอยู่เชิงดอยสุเทพ ได้ข่าวกิตติศัพท์ความงามของพระนางจามเทวีที่มาครองเมืองหริภุญชัย ก็อยากได้นางเป็นมเหสี จึงส่งทูตไปขอนางอภิเษกหลายครั้ง
ครั้นนางจะปฏิเสธด้วยเห็นว่าขุนหลวงวิรังคะเป็น “คนป่า” ไม่มีความศิวิไลซ์ แต่ก็ยังเกรงกองกำลังของลัวะ แถมขุนหลวงวิรังคะยังขึ้นชื่อในเรื่องอิทธิฤทธิ์ด้วยมีคาถาอาคมแกร่งกล้า นางจึงออกอุบายให้ขุนหลวงวิรังคะพุ่งเสน่าหรืออาวุธคล้ายหอกจากดอยสุเทพให้ไปตกยังกลางเมืองหริภุญชัย ถ้าทำได้นางจึงจะยอมอภิเษกด้วย
เมื่อฝ่ายชายรับคำท้า ทีนี้นางก็เพียรทอนทำลายอาคมของขุนหลวงวิรังคะเพื่อไม่ให้ทำการสำเร็จ
นางคงทำหลายวิธี ที่เล่าๆ กันมามีตั้งแต่ เจียนหมากพลูให้โดยเอาหางพลูป้ายของลับของนาง เอาตีนซิ่นมาเย็บเป็นหมวกให้สวม และที่เกี่ยวข้องกับดอกชะมั่งคือ นางเอาดอกชะมั่งไปสัมผัสกับประจำเดือนส่งไปให้ขุนหลวงวิรังคะทัดหู บางกระแสก็ว่านางเอาดอกชะมั่งที่เปื้อนเลือดเสียบแซมประดับไปกับหมวก
ผลก็คือ อาคมของขุนหลวงวิรังคะถูกทำลาย หรือถูก “ข่ม” จนไร้ฤทธิ์เดช ไม่สามารถพุ่งเสน่าไปตกถึงเมืองหริภุญชัยได้ เสน่าที่พุ่งออกไปตกแค่เชิงดอยสุเทพเท่านั้น
ตั้งแต่นั้นมาดอกชะมั่งป่าที่เคยมีกลีบสีขาวล้วน ก็กลายเป็นมีสีชมพูและสีแดงปน เหมือนกับถูกเอาไปคลุกเคล้ากับสีแดงของประจำเดือน
ดังนั้น จึงมีคนล้านนาไม่น้อยนิยมปลูกดอกชะมั่งเป็นซุ้มไว้ที่หน้าบ้าน เอาไว้ “ข่ม” หรือทำลายศัตรูที่อาจจะมีอาคมแก่กล้า หากคนผู้นั้นได้ลอดซุ้มไม้ชะมั่งเข้ามาถึงในบ้าน อาคมจะอ่อนพลังลงและไม่อาจทำร้ายคนในบ้านได้
การปลูกดอกชะมั่งหน้าบ้านจึงถือเป็นการป้องกันศัตรูของคนล้านนาวิธีหนึ่ง
“กาพย์เจี้ยจามเทวี และวิรังคะ” ของอาจารย์ไกรศรี นิมมานเหมินท์ เขียนเอาไว้บทหนึ่งว่า
อันว่า ดอกชะมั่ง ก่อนเกรอะกรัง สีมั่นคง
ขาวสะอาด งามดำรง อะคร้าวเคื้อ ก่องประไพ
ถูกย้อม ให้เปื้อนเปรอะ แดงเลอะเทอะ เปลี่ยนสีใหม่
แต่นั้น ชะมั่งไพร เปลี่ยนสีขาว สลับแดง