E-DUANG : บทเรียน ระเบิดน้ำมันหมู มาถึง อาหารไทย ที่เคนยา

กาละและเทศะในทางการเมืองมีความสำคัญและมีผลสะเทือนสูงถึงขั้นชี้เป็นชีตาย ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคการเมือง ไม่ว่าจะมองผ่านบุคคล

ทำไมเมื่อมีนักการเมืองคนหนึ่งพูดถึงการใช้น้ำมัน”หมู”ในการเผด็จศึกสงครามในตะวันออกกลาง

จึงกลายเป็นเรื่องอันแหลมคม

นั่นย่อมเป็นเรื่องของกาละ เป็นเรื่องของเทศะ แม้นักการเมืองคนนั้นจะสังกัดพรรคพลังธรรม และได้ชื่อว่าเป็นนักพูดระดับเอ้ของเมืองไทยก็ตาม

กาละและเทศะในการพูดจึงสำคัญ และมีบทบาทเป็นอย่างสูงในทางการเมือง

 

อะไรเป็นปัจจัยทำให้การท่องเที่ยวของไทยต้องเสื่อมทรุดและลดจำนวนลงอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เคยหลั่งไหลกันมาราวกระแสคลื่น

คำตอบรับรู้กันอย่างเป็นเอกภาพว่าเนื่องแต่ “คำพูด” และเป็นคำพูดของบุคคลสำคัญในรัฐบาล

เป็นถึง “รองนายกรัฐมนตรี”

กล่าวตำหนิพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะในห้วงที่ประสบอุบัติเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต ผลก็คือ นักท่องเที่ยว”จีน”หายไปเหมือนถูกเสก

แม้รองนายกรัฐมนตรีอีกคนจะทุ่มทุนถึงขนาดกล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวด้วยภาษาจีน ก็ยังไม่สามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ให้หวนกลับไปเฟื่องฟูเหมือนเดิม

ที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เคยสรุปว่า ก่อนพูดเราเป็นนาย แต่หลังจากพูดแล้ว”คำพูด”เป็นนายจึงแจ่มชัดยิ่ง

ไม่ว่าจะพูดเรื่อง”นักท่องเที่ยว” ไม่ว่าจะพูดเรื่อง”ก่อการร้าย”

บทเรียนจากกรณี “ระเบิดน้ำมันหมู” บทเรียนจากกรณี”ผู้ก่อการร้ายชมชอบอาหารไทย”ที่เคนยา

จึงล้วนแต่เนื่องมาจาก “คำพูด” ทั้งสิ้น

 

หากเป็นชาวบ้านพูดอำ หรือหยอกล้อระหว่างเพื่อนฝูงในวงเหล้า แบบเฒ่าหนู เฒ่าโพล้ง ก็เป็นเรื่องสนุก หัวร่อกันครื้นเครง

แต่หากคนพูดเป็น “ส.ส.” เป็น “นักการเมือง” หรือยิ่งเป็น “รองนายกรัฐมนตรี”

ผลสะเทือนจาก”คำพูด”ยิ่งกว้างไกล ไพศาล