อนุสรณ์ ติปยานนท์ : รักอันเดียวดาย

รัก/หลง/เมือง (4)

With cities, it is as with dreams : everything imaginable can be dreamed, but even the most unexpected dream is a rebus that conceals a desire or, its reverse, a fear. Cities, like dreams, are made of desires and fears, even if the thread of their discourse is secret, their rules are absurd, their perspectives deceitful, and everything conceals something else.

Italo Calvino (Invisible Cities)

 

นับแต่นาทีแรกที่เข้าสู่ถ้ำจำลอง เขารู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่ลดลงอย่างฉับพลัน

จากความร้อนอบอ้าวภายนอก เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกภายใน ภายในถ้ำจำลองนั้นมีดวงไฟติดอยู่ตามผนังทำให้เห็นทุกอย่างได้พอควรแม้จะไม่ชัดแจ้งนักก็ตาม

เขาเดินตามแสงไฟไปเรื่อยๆ ลึกเข้าไป ลึกเข้าไป เขาไม่คิดว่าถ้ำแห่งนี้จะมีขนาดใหญ่

แต่เขาคิดผิด ดูเหมือนถ้ำจำลองแห่งนี้จะหลอกลวงสายตานับแต่แรกเห็น

ข้างในของถ้ำนั้นลึกและลับเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้

กระนั้นเขาก็ไร้ความหวาดกลัว เขาจำได้ถึงการละเล่นซ่อนหาในวัยเด็กที่เขามักเล่นร่วมกับเพื่อนวัยเดียวกัน ในขณะที่เพื่อนของเขาสนใจหลบซ่อนตามมุมอาคาร ข้างโอ่ง ใต้บันได

เขากลับเลือกตู้เสื้อผ้าหรือตู้ใบใหญ่เป็นที่เร้นกาย

เขาไม่กลัวความมืด ความมืดเป็นเพื่อนเขา

เขาไม่กลัวสถานที่คับแคบ สถานที่คับแคบคือมิตรของเขา

การได้กลับสู่ถ้ำแห่งนี้เป็นดังการกลับบ้านครั้งที่สอง

เป็นการกลับบ้านที่คุ้นเคยและมากด้วยมิตรสหายที่จากกันมาแสนนาน

 

สิ้นสุดทางเดินอันอับชื้นและมีกลิ่นที่ไม่แตกต่างจากกองดินในฤดูฝน เขาพบกับพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์หนึ่งที่ประดิษฐานอยู่บนแท่นสูงจากพื้นเล็กน้อย

มีกระถางธูปทองเหลืองตั้งอยู่เบื้องหน้า

พระพุทธรูปองค์นั้นที่เอนกายทอดยาวขวางทางเดิน

เบื้องหลังพระพุทธรูปมีภาพเขียนบนผนังเป็นรูปภาพของเหล่าเทพยดาชุมนุมรายล้อมอยู่โดยรอบ

เขาก้มลงกับพื้นที่เบื้องหน้าพระพุทธรูป กราบเบญจางคประดิษฐ์อย่างช้าๆ เป็นจำนวนสามครั้ง

น่าแปลกที่เขายังจดจำการกราบเช่นนี้ได้แม้ว่าจะพลัดพรากจากบ้านเกิดไปนานมากก็ตามที

เขากราบแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อใดกัน เขาทบทวน ในงานบอกลาพ่อกับแม่สินะ ตอนนั้นเขาก็ประหลาดใจกับตนเองด้วยความรู้สึกนี้เช่นกัน

แต่ครั้งนั้นเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เขาไม่ได้ทบทวนตนเองมากเท่าครั้งนี้

มากเท่ากับการต้องอยู่เบื้องหน้าพระพุทธรูปประจำวันเกิดของเขาโดยลำพัง

เขานั่งนิ่งอยู่ที่นั่น จุดธูป เพ่งมองควันธูปลอยอ้อยอิ่งในแสงไฟวับแวม เขาตัดสินใจแล้วว่านี่คือสถานที่แรกที่เขาจะพาเธอมา

ในพื้นที่เล็กจ้อย สับสนดังเขาวงกตเช่นนี้ เขาจะได้ใกล้ชิดเธอ เคียงข้างกันในขณะเพ่งมองพระพุทธรูป เขาจะเล่าให้เธอฟังว่าปางไสยาสน์นั้นมีที่มาเช่นไร และเพราะเหตุใดกันเล่าจึงเป็นปางที่สำคัญประจำวันอังคาร

เขาจะเล่าเรื่องราวเหล่านี้อย่างช้าๆ แต่งแต้มรายละเอียดตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เพื่อให้เธอเพลิดเพลิน

หลังจากนั้นเขาจะขยับขยายเรื่องราวให้ตื่นเต้นขึ้น

พาเธอย้อนกลับไปในอดีต ไปยังสมัยพุทธกาล

พาเธอผ่านตัวละครสำคัญอย่างพระอานนท์ พระสารีบุตร พระมหากัสสปะ

พาเธอผ่านเขาคิชฌกูฏ ป่าอิสิปตนฤคทายวัน พาเธอผ่านปริพาชก พวกทิฆัมพร เขาเป็นนักเล่าเรื่องชั้นดีโดยเฉพาะในชาดกทั้งหลาย

เขาเติบโตมากับลุงและป้าที่ภายในบ้านเต็มไปด้วยหนังสือด้านพุทธศาสนา เขาอ่านหนังสือเหล่านั้นแทนเพื่อนในยามค่ำคืนรอบแล้วรอบเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่าจนขึ้นใจ

และเขาจะเรียบเรียงสิ่งที่อยู่ในความทรงจำของเขาออกมาเพื่อให้เธอได้รับฟัง

 

ทําไมเขาจึงคิดถึงเธอมากมายเช่นนี้

เขาเองก็แปลกใจ

ทำไมเขาจึงคาดหวังจะทำหลายสิ่งเพื่อเธอ

เขาเองก็แปลกใจ

เขาอยู่ในโลกที่มีแต่ตนเองเป็นสมาชิกผู้เดียวดายนานไปกระนั้นหรือ จนเกิดการไขว่คว้าใครบางคนอย่างรุนแรง หรือเป็นเพราะเธอที่เขาปักใจเชื่อว่าจะกำจัดความเดียวดายเหล่านั้นได้

เขายังไม่เคยเอ่ยปากสนทนากับเธอ เขายังไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเธอ

ทว่าเขากลับมีหลายสิ่งมากมายที่อยากมอบให้เธอ ที่อยากแบ่งปันกับเธอ

เขาครุ่นคิดเรื่องเหล่านี้จนควันธูปเบื้องหน้าพระพุทธรูปเบาบางและดับลงในที่สุด

เขากลับออกมาจากถ้ำจำลอง เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดเขาไม่อาจล่วงรู้ได้

ชายคนขับเรือเฝ้ารอเขาด้วยความกระวนกระวาย เศษเถ้าบุหรี่เบื้องหน้าเขาเป็นหลักฐานพยานชั้นดี

เขากล่าวขอโทษที่ปล่อยให้รอ

แต่ชายคนขับเรือตัดบท “ผมเป็นห่วงคุณ เกรงว่าจะเกิดอันตราย เหมือนไม่มีใครเข้าไปในดินแดนแบบนั้นเนิ่นนานแล้ว คุณปลอดภัย ทุกอย่างเหมือนเดิม เราเดินทางกันต่อเถอะ”

เรือแล่นเข้าไปในคลองย่อย ลัดเลาะเลี้ยวไป เขาเพิ่งพบว่าเมืองแห่งนี้มีด้านอันซ่อนเร้นที่จะเห็นได้จากทางลำคลองเท่านั้น รังกล้วยไม้ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกล้วยไม้หลากชนิด ร้านอาหารพื้นบ้านที่จะเดินทางมาถึงได้เฉพาะทางเรือ

โรงหล่อพระพุทธรูปที่ยังคงใช้ฟืนและถ่านแบบดั้งเดิม

โรงเรียนประชาบาลที่เงียบเหงาและมีที่ผูกเรือให้สำหรับนักเรียนและผู้ปกครอง ภาพแปลกตาเหล่านี้เสริมสร้างกำลังใจในการบุกเบิกหาดินแดนใหม่ที่เขาจะพาเธอมาเยือน เขาจดรายละเอียด ตำแหน่งแห่งที่ของสถานที่เหล่านั้นลงในสมุด

จัดลำดับมันและกำหนดวันเวลาที่เขาจะเอื้อนเอ่ยพาเธอเข้าสู่การผจญภัย

 

คืนวันอาทิตย์เขานอนลืมตา จ้องดูฝ้าเพดานเก่าที่สีของมันไม่เท่ากันอีกต่อไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าเขาควรแต่งตัวเช่นไร

พรุ่งนี้เช้าเขาควรเริ่มต้นบทสนทนากับเธอแบบไหน

เขาควรทักทายเธออย่างเป็นธรรมชาติ หรือเขาควรทักทายเธอแบบมันเป็นอุบัติเหตุ เดินเข้าไปหาเธอ แนะนำตัวต่อเธอ บอกเธอว่าเขาเฝ้ามองเธอมานานเพียงใด หรือเดินชนเธอ กล่าวขอโทษ และบอกว่าเขาเพิ่งเดินทางกลับมายังเมืองหลวงแห่งนี้ เงียบเหงา ปราศจากเพื่อน และเธอจะยินดีเป็นเพื่อนกับเขาได้หรือไม่ บทสนทนาแบบใดกันที่จริงใจ

บทสนทนาแบบใดกันที่จะพาให้เขาและเธอใกล้ชิดกันกว่านี้

เขาขบคิดถึงฉากและเหตุการณ์เช่นนั้นจนรุ่งเช้า

และเมื่อเขาหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เตรียมไว้ขึ้นสวม เขาจึงพบว่าตนเองยังมิได้นอนหลับลงแม้นาทีเดียว

เขาไปถึงสถานีแต่เช้าตรู่ เวลาเดียวกันกับที่ร้านค้าแรกในสถานีใต้ดินแห่งนั้นเปิดประตูทำการ

กลิ่นกาแฟที่ถูกบดใหม่หอมลอยละล่องออกมาจากในร้าน เขาเดินเข้าไปที่เก้าอี้ตัวแรก วางกระเป๋าสะพายลงกับโต๊ะ สั่งกาแฟจากเคาน์เตอร์

เด็กสาวที่ทำหน้าที่เพียงลำพังในร้านจดรายการเครื่องดื่มของเขาอย่างตั้งใจ “สักครู่นะคะ น้ำยังไม่ร้อนพอ” เขารับคำ ยิ้มให้เธอ

อากาศเช้านี้สดชื่น ระหว่างทางที่เขาถีบจักรยานมามีร่องรอยของน้ำฝนบนถนน

เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าฝนตกลงมาเมื่อคืนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้หลับลงแม้เพียงนาทีในคืนก่อน

แต่เขากลับไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกเลย

 

กาแฟมาถึงในที่สุด รสชาติพอดี ความร้อนพอดี เขาจิบมัน สายตามองไปด้านนอก ผู้คนที่พร้อมจะออกเดินทางพากันมายืนรอที่สถานีแล้ว แต่สำหรับเธอผู้นั้น ยังไม่ถึงเวลา อีกราวหนึ่งชั่วโมง เธอน่าจะปรากฏตัว

เขาพลิกสมุดบันทึกขึ้น ท่องจำบทสนทนาที่ตั้งใจไว้ ในที่สุดเขาเลือกการทักทายเธอแบบเป็นธรรมชาติ เขาจะเดินตรงไปหาเธอ เอ่ยกับเธออย่างสุภาพว่า นับแต่เขาได้เห็นเธอเป็นครั้งแรก เขาก็ปรารถนาที่จะเป็นเพื่อนกับเธอ

และไม่ว่าด้วยสาเหตุใด เขาตัดสินใจแล้วที่จะบอกเธอ เขายอมรับว่ามันอาจฟังดูแปลกประหลาด ชวนฉงนใจ แต่ขอให้เธอเชื่อว่าเขาไม่มีประสงค์ร้ายใดเลย เขาต้องการเป็นเพื่อนกับเธอ เขาผู้มีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวและลำพังในเมืองนี้

หนึ่งชั่วโมงถัดมา เธอปรากฏตัวในชุดสีฟ้าอ่อนเย็นตา เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน

กระโปรงสีฟ้าที่มีน้ำหนักสีเข้มกว่าเสื้อ เข็มขัดเส้นเล็กสีน้ำตาล

เธอปรากฏตัวอย่างแจ่มใส ไม่มีท่าทีเร่งรีบ ไหล่ของเธอสะพายกระเป๋าสีดำ

ในมือข้างหนึ่งของเธอหอบซองใส่คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก

ส่วนมืออีกข้างหนึ่งนั้นเกาะกุมอยู่กับแขนของชายผู้หนึ่ง

เธอปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับชายผู้หนึ่ง ชายที่เธอเกาะกุมแขนของเขาไว้อย่างมั่นคง