เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่ากระแสกดดันให้”เลื่อน”การเลือกตั้ง ไม่ว่ากระแสกดดันให้มีการสอบ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โดยป.ป.ช.ดำเนินไปในลักษณะที่โบราณสรุปอย่างรวบรัดว่า
“ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน”
ในที่สุดชาวบ้านก็รับรู้กันว่า ใครกันแน่ที่ “ไม่พร้อม” ที่จะเข้าสู่ กระบวนการของ “การเลือกตั้ง”
เพราะไม่เพียงแต่การเลือกตั้งจะต้องพ่ายแพ้
หากที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะ”การเลือกตั้ง”นั้นเองจะนำไปสู่การจบเกม
ที่สำคัญคือแพ้ให้แก่คนอย่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
จึงต้องออกอาการจะเล่นงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จึงต้องออกอากาศอยากให้”เลื่อน”การเลือกตั้ง
ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของคสช.ในเดือนมกราคม 2562 แตก ต่างอย่างสิ้นเชิงไปจากสถานการณ์หลั้งรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษ ภาคม 2557
เพราะ ณ วันนี้ อย่างน้อยก็มี “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560″ประกาศและบังคับใช้อยู่
จะดีจะเลวอย่างไรก็ยังเป็น “รัฐธรรมนูญ”
ยิ่งกว่านั้น เมื่อพรป.อันเกี่ยวกับการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้สมบูรณ์ครบถ้วน นั่นหมายถึงจะต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ ภายในกำหนด 150 วันตามรัฐธรรมนูญ
ข้อเสนอในเรื่องจะ “เลื่อน”วันเลือกตั้งออกไปจากที่เคยประกาศไว้เป็นสัญญาประชาคมจึงกลายเป็นเรื่องแปลกแยก
ความหงุดหงิด ไม่พอใจจึงบังเกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นในต่างจังหวัด กระแสแห่งความหงุดหงิดกำลังแพร่ลามเหมือนกับเป็นโรคระบาดอย่างใหม่
เป็นผลมาจากการรอคอยตั้งแต่เมื่อต้นปี 2557
สภาพที่เพียงคสช.และรัฐบาลกดดัน”กกต.”ให้เลื่อนวันเลือกตั้งไป จากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แล้วชาวบ้านเกิดความหงุดหงิดย่อมเป็น สัญญาณอันแจ้งชัดยิ่งทางการเมือง
สะท้อนว่ากระแสเรียกร้องต้องการ”การเลือกตั้ง”ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 เป็นเรื่องจริง
เพราะนี่คือสัญญาณแห่ง”ประชาธิปไตย”อันเด่นชัด สะท้อนความเรียกร้องต้องการของ”ประชาชน“