ขอบคุณข้อมูลจาก | วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย ฉบับวันที่ 23 ต.ค. - 29 ต.ค. 2558 |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
ความจริงในห้วงแห่งความโกลาหลเมื่อลี้มกโช้วปรากฏเงาร่างขึ้นบริเวณทะเลสาบน่ำโอ้ว นอกเมืองเกียเฮง
ไม่เพียงแต่กัวติ่งอักจะมาเยือนพร้อมกับก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง
หากที่สำคัญ อาวเอี้ยงฮง ยังเอาศีรษะเดินต่างเท้าป้วนเปี้ยนอยู่ หากที่สำคัญ อึ้งเอี๊ยะซือ ยังซุ่มมาพร้อมกับอาภรณ์ชุดเขียวอย่างเงียบๆ
เพียงแต่อาวเอี้ยงฮงเท่านั้นที่ได้สนทนากับเอี้ยก่วย
เป็นห้วงเวลาที่มันเห็นบนพื้นมีเข็มเงินแวววาวทิ้งกระจัดกระจายอยู่ 10 กว่าเล่ม ตัวเข็มสลักเสลาลวดลายจัดสร้างด้วยความประณีตจึงก้มลงเก็บขึ้นมาทีละเล่มกำไว้ในมือซ้าย พลันเห็นที่ข้างเข็มเงินมีตะขาบใหญ่ตัวหนึ่งนอนหงายท้องตายอยู่จึงรู้สึกว่าน่าสนุกสนาน
ก้มศีรษะลงเพ่งพิจารณาเห็นบนพื้นมีมดตายเกลื่อน ห่างไปหลายก้าวยังมีมดจำนวนมากคืบคลานเป็นขบวน ดังนั้น ใช้เข็มเงินเล่มหนึ่งสะกดเขี่ยอยู่หลายครา
มดหลายตัวนั้นกลายเป็นวงหลายรอบก็หงายท้องนอนตาย
มันยินดียิ่งเห็นว่านำเข็มเหล่านี้ไปจับยุงแมลงนับว่าประเสริฐยิ่ง ทันใดมือซ้ายชาวูบคล้ายเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่วค่อยตื่นตัวขึ้นมา
“บนเข็มมีพิษเราถืออยู่ในมือไยมิใช่อันตรายยิ่ง”
เป็นบทสรุปของเอี้ยก่วย เป็นบทสรุปเพราะถูกยาพิษจากเข็มเงินของลี้มกโช้ว เป็นประสบการณ์เลวร้ายในห้วงแห่งวัยเยาว์
รีบเหมือนโยนเข็มเงินทิ้งเห็นที่ใจกลางฝ่ามือ 2 ข้างล้วนเป็นสีดำ โดยเฉพาะฝ่ามือซ้ายดำเข้มประดุจหมึก สร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึง ถูมือกับต้นขาโดยแรง
อาการชาแผ่ลุกลามทีละน้อย ชั่วครู่ก็ชาด้านถึงข้อพับแขน
มันเมื่อเยาว์วัยเคยถูกอสรพิษฉกกัดแทบเสียชีวิต ตอนนั้น ตำแหน่งที่ถูกกัดก็อาการชาด้าน เช่นนี้ทราบว่าอาการคับขันอันตรายอดร้องไห้โฮออกมามิได้ พลันได้ยินที่ด้านหลังบังเกิดสุ้มเสียงหนึ่ง
“เด็กน้อย ทราบความร้ายกาจแล้วกระมัง” สุ้มเสียงแกร่งกร้าวระคายหูคล้ายชอนไชขึ้นจากใต้ดิน มันรีบหันขวับไปอดใจหายวาบมิได้เมื่อแลเห็นบุคคลประหลาดผู้หนึ่งใช้ศีรษะยันพื้น 2 เท้าประกบแนบชิดชี้ชันขึ้นฟ้า
ถอยกายไปหลายก้าวร้องว่า “ท่าน ท่านเป็นใคร”
บุคคลประหลาดนั้นใช้ 2 มือยันพื้นร่างพุ่งทะลวงขึ้น กระโดดขึ้นสูง 3 เชียะแล้วทิ้งตัวลง ณ เบื้องหน้ามัน “เรา เราเป็นใคร เราทราบว่าเราเป็นใครก็ประเสริฐ”
ได้ยินดังนั้นยิ่งตื่นตระหนกกว่าเดิม ทุ่มเทฝีเท้าวิ่งตะบึง ได้ยินที่ด้านหลังบังเกิดเสียงต๊ก ต๊ก ต๊ก ดังกังวาน เมื่อเหลียวหน้ามองยิ่งแตกตื่นจนขวัญกระเจิดกระเจิง ที่แท้บุคคลประหลาดนั้นใช้มือต่างเท้า 2 มือถือหินข้างละก้อนเดินห้อยหัวกลับด้วยความรวดเร็วยิ่ง
ห่างจากด้านหลังของมันเพียงไม่กี่เชียะ
มันเปลี่ยนทิศทางหลายครั้งคราบุคคลประหลาดนั้นยิ่งคุกคามยิ่งประชิดใกล้ ดังนั้น ยื่นมือออกหมายผลักไสหาคาดไม่ว่าข้อแขนชาด้านไม่เชื่อฟังคำสั่งตั้งแต่แรก
สร้างความร้อนรุ่มจนหลั่งเหงื่อชุ่มโชก ไม่ทราบจะทำประการใดดี 2 เท้าพลันอ่อนระทวย กระแทกนั่งลงกับพื้น บุคคลประหลาดนั้นกล่าวว่า
“เจ้ายิ่งวิ่งเตลิดเปิดเปิงพิษบนร่างกายยิ่งกำเริบเร็วขึ้น”
ได้ยินเช่นนั้นมันพลันบังเกิดไหวพริบปฏิภาณ งอร่างคุกเข่าลงกับพื้นร้องขึ้นว่า “ขอเล่ากงโปรดช่วยชีวิตข้าพเจ้า”
บุคคลประหลาดนั้นสั่นศีรษะ “ยากช่วยเหลือ ยากช่วยเหลือ”
“ท่านมีความสามารถยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ต้องช่วยเหลือข้าพเจ้าได้อย่างแน่นอน”
“เจ้าทราบได้อย่างไรว่าเรามีความสามารถยิ่งใหญ่”
น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นจุดประกายความหวังให้กับมันโดยอัตโนมัติ จึงรีบกล่าว “ท่านตีลังกาเดินยังวิ่งเร็วถึงเพียงนี้ ทั่วทั้งแผ่นดินไม่มีบุคคลที่ 2 เท่าเทียมท่านได้”
จุดสำคัญอยู่ตรงประโยค “ทั่วทั้งแผ่นดินไม่มีบุคคลที่ 2 เท่าเทียมท่านได้” จี้ตรงเข้าหัวใจของบุคคลประหลาดนั้น พลันส่งเสียงหัวร่อฮา ฮา สะท้านถึงยอดไม้ใบหญ้าโดยรอบ
นี่เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างผู้อาวุโสอาวเอี้ยงฮง เจ้าของฉายาพิษประจิม กับ เด็กหนุ่มไร้ญาติขาดมิตร เอี้ยก่วย เมื่อห้อยหัวกลับเห็นโฉมหน้าอีกฝ่ายชัดตา
เห็นบุคคลผู้นี้เบ้าตาลึกกลวง จมูกงองุ้ม ไว้เคราสั้นขาวโพลน ทุกเส้นชี้ชันตรงแน่วปานเส้นลวด
“กงกงอันประเสริฐ โปรดช่วยเหลือข้าพเจ้า” มันวิงวอน ร้องขอ