กรองกระแส / ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ บทบาท สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทัพหลวง เพื่อไทย

กรองกระแส

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

บทบาท สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

ทัพหลวง เพื่อไทย

 

ไม่ว่าการปรากฏนามคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ว่าการปรากฏนามนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในฐานะ 2 ใน 3 ของผู้อยู่ในรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย

ทรงความหมาย

ไม่เพียงทรงความหมายถึงความต่อเนื่องและยึดโยงระหว่างพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน กับพรรคเพื่อไทย

หากยังเน้นในเรื่องความต่อเนื่องของ “เพศสภาพ”

เพราะว่ารัฐบาลของพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อมาอยู่ในมือของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เท่ากับสามารถเชื่อมร้อยระหว่างกันและกันได้อย่างนุ่มนวลและเด่นชัด

ยิ่งกว่านั้น เมื่อมีนามของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รวมอยู่ด้วยก็เท่ากับชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์กับรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเป็นหนึ่งเดียว

ชะตากรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างไร

ชะตากรรมอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประสบในห้วงก่อนและหลังรัฐประหารย่อมเป็นชะตากรรมเดียวกันกับที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประสบ

เท่ากับเป็นการฟื้น “อดีต” ก่อนก้าวเดินไปสู่ “อนาคต”

 

ชะตากรรมยิ่งลักษณ์

ชะตากรรมชัชชาติ

 

พลันที่นามของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปรากฏขึ้น จำนวนไม่น้อยนึกถึงสมญา “บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” กระนั้น ภาพลักษณ์ที่จำหลักอย่างหนักแน่นก็คือ ภาพลักษณ์ที่มีส่วนอย่างสำคัญในการจัดวางโครงสร้างพื้นฐานให้กับระบบคมนาคม

บ้างอาจฝังจำอยู่กับโครงการ “รถไฟความเร็วสูง” ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง คือความพยายามที่จะนำเอา “ระบบราง” เข้ามาแทนที่ “ระบบถนน”

ชะตากรรมของ “ระบบราง” เป็นอย่างไร ชะตากรรมของ “รถไฟความเร็วสูง” เป็นอย่างไร

บรรยากาศทางการเมืองก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 จะลอยขึ้นมาสูงเด่นเวลาที่ผ่านมา 4 ปีเศษจะยิ่งทำให้สังคมได้มองและรับรู้ข้อเท็จจริงอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นว่า ความล้มเหลวจากความพยายามที่จะนำ “ระบบราง” เข้ามาพัฒนาประเทศประสบชะตากรรมอะไรบ้าง

มีพรรคการเมืองใดที่แสดงบทบาทในการเป็นตัวขวางการพัฒนา รัฐประหารมีผลอย่างไรทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างน่าเศร้า

เมื่อเห็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็จะเข้าใจ เป็นความเข้าใจต่อระบบทางความคิด ระบบทางการเมืองที่ดำรงอยู่อย่างฝังลึกในสังคมไทยและแสดงบทบาทเป็นตัวขวางการพัฒนา ก้าวไปข้างหน้า

ผลสะเทือนจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จึงลึกซึ้ง

 

ภาพชัชชาติ สิทธิพันธุ์

เทคโนแครต คนรุ่นใหม่

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีพื้นฐานความเป็นนักวิชาการทางด้านวิศวกรรม เขาประสานความรู้ของเขาไม่เพียงแต่ในทางธุรกิจ หากแต่ยังในทางการเมือง

ในทางธุรกิจทำให้เขามิอาจหยุดนิ่ง พึงพอใจในความสำเร็จเฉพาะหน้า

ในทางการเมืองทำให้ได้เรียนรู้ความขัดแย้ง แตกแยก การต่อสู้ช่วงชิงที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในสังคม ขณะเดียวกัน เมื่อนำเอาอุดมการณ์และความเป็นจริงประสานด้วยกัน สิ่งยึดโยงอย่างสำคัญก็คือการยึดกุมบทบาทและความหมายของประเทศว่าอยู่ที่ “ประชาชน”

ความตระหนักในนโยบายที่สร้างความสำเร็จอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค อย่างกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่ถือเอา “ประชาชน” เป็นเป้าหมายและเป็นศูนย์กลาง ทำให้การแปรนามธรรมทางนโยบายให้กลายเป็นรูปธรรมทางการปฏิบัติ

คำถามอยู่ที่ว่าพรรคเพื่อไทยจะนำเอาแร่ยูเรเนียมภายในทรัพยากรบุคคลอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้แปรเป็นเทคโนโลยีที่ทรงความหมายได้อย่างไรในทางการเมือง

ขณะเดียวกัน จะประสานความสำเร็จในกาลอดีตไม่ว่าของพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าของพรรคพลังประชาชน ไม่ว่าของพรรคเพื่อไทย ให้กลายมาเป็นความสำเร็จของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ได้อย่างไร

ตรงนี้ย่อมอยู่ที่การสะท้อนศักยภาพของการนำและศักยภาพของการบริหารจัดการอย่างเป็นทีมได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

เพื่อไทย เพื่อเธอ

สุดารัตน์ ชัชชาติ

 

การแปรเปลี่ยนพรรคเพื่อไทยจากยุคของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นยุคของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นจังหวะก้าวที่สำคัญเป็นอย่างมากไม่เพียงแต่ต่อพรรคเพื่อไทย

หากยังสำคัญต่อขบวนแถวแห่งพรรคประชาธิปไตยโดยองค์รวม

เพราะมีความเด่นชัดอย่างยิ่งว่า พรรคเพื่อไทยอยู่ในฐานะเป็นทัพหลวง แวดล้อมอยู่โดยพรรคประชาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ

และมีพรรคอนาคตใหม่เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดอย่างที่สุด

     ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพันธมิตรแห่งแนวร่วมในการต่อสู้กับ คสช. และพรรคอันเป็นเครือข่ายของ คสช.อย่างทรงพลังที่สุด