วันที่ 20 ธันวาคม 2561 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคการเมืองอื่นๆ รวม 5 พรรค ได้ร่วมเสวนาหาทางออก เรื่อง วิสัยทัศน์นักการเมืองรุ่นใหม่กับอนาคตพาณิชยนาวีไทย ซึ่งปัญหาที่พบเห็น ในปัจจุบันคือ อาชีพคนเรือไทยเป็นแรงงานล้นตลาด สาเหตุเนื่องมาจากกองเรือพาณิชย์ไทยมีปริมาณไม่เพียงพอ กับคนเรือไทย แต่ในทิศทางตรงกันข้ามตลาดแรงงานสากลกลับมีแนวโน้มขาดตลาด และจากการที่ประเทศไทย ขาดการทำข้อตกลงระหว่างรัฐต่อรัฐ จึงทำให้หลายประเทศไม่ยอมรับใบประกอบวิชาชีพของคนเรือไทย ตลอดจน เรือที่ผลิตในประเทศไทยและใช้จดทะเบียนในประเทศไทย ไม่สามารถให้บริการในประเทศส่วนใหญ่ในโลกได้ ทำให้คนไทยต้องไปผลิตเรือและใช้ธงของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะสามารถวิ่งได้ทั่วโลก ทำให้ประเทศไทยขาด รายได้ปีละหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งจากงานวิจัยเรื่องกำลังคนในอุตสาหกรรมเดินเรือโลกของปี ค.ศ.2015 โดย Baltic and International Maritime Council: BIMCO และInternational Chamber of Shipping: ICS พบว่ามีการขาดแคลนบุคลากร ระดับนายประจำเรือ มากถึง 16,500 คน และคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2025 จะขาดเพิ่มมากขึ้นถึง 147,000 คน

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เนื่องจากพรบ.ส่งเสริมพาณิชยนาวี พ.ศ. 2521 มีความล้าสมัย ไม่ครอบคลุม กิจการพาณิชยนาวีทั้งหมด รวมทั้งไม่ได้กล่าวถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อ คนที่อยู่ในธุรกิจพาณิชยนาวี และรายได้ของประเทศที่ขาดหายไปหลายหมื่นล้านต่อปี โดยในช่วงระยะเวลาหลายปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เสียโอกาสให้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาก จนกลายเป็นอีกจุดอ่อนหนึ่งของประเทศ

“ดังนั้นรัฐจึงควรเร่งแก้ไข พรบ.ดังกล่าวให้มีความทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดสากลให้มากขึ้น ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิดความเสมอภาคในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านกฎหมาย เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจการพาณิชยนาวีสามารถต่อสู้ในเวทีสากลได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดยจะสร้างความร่วมมือกับ ประเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาและคว้าโอกาสในโลกยุคใหม่ ต่อยอดให้ประเทศไทยในส่วนของการต่อเรือและพัฒนา บุคลากรคนประจำเรือไทย จนสามารถไปปฏิบัติงานและแข่งขันกับกองเรือพาณิชย์ในระดับสากลได้” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว