วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม เป็นวันสุดท้ายของการประมูลรถยนต์ที่เลอบรอน เจมส์ ขับคันแรกในชีวิต ซึ่งเริ่มประมูลตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยบริษัทที่จัดการประมูลครั้งนี้คือ โกลดิ้น ออคชั่นส์ (Goldin Auctions)

รถยนต์คันแรกในชีวิตของเลอบรอนคือ รถยี่ห้อฮัมเมอร์ (Hummer) รุ่น H2 ซึ่งในปี 2003 แม่ของเลอบรอนกู้เงิน 50,000 ดอลลาร์ หรือ 1,600,000 บาท ซื้อรถคันนี้ให้เลอบรอนเป็นของขวัญวันเกิดอายุครบ 18 ปี ในวันที่ 20 ธันวาคม 2002

ตอนนั้นเลอบรอนยังเป็นนักบาสเกตบอลทีมไฮสกูลอยู่

ปรากฏว่ารถคันนี้กลายเป็นรถที่เป็นข่าวใหญ่โต ต้องมีการสืบสวนกันวุ่น เพราะตามกฎของการเป็นนักกีฬาสมัครเล่นของทีมไฮสกูล นักกีฬาห้ามรับของขวัญมูลค่าเกิน 100 ดอลลาร์ หรือ 3,200 บาทจากคนที่ไม่รู้จัก เพื่อป้องกันนักกีฬาไฮสกูลที่ยังเป็นนักกีฬาสมัครเล่น ใช้ชื่อเสียงการเป็นนักกีฬาของโรงเรียนหาประโยชน์ส่วนตัว หรือเป็นเงินสินบน หรือของขวัญสินบน ให้นักกีฬาไฮสกูลล้มมวยเล่นไม่เต็มฝีมือ

รถยนต์ฮัมเมอร์ ปี 2003 ของเลอบรอน อายุ 15 ปี แต่วิ่งเพียง 45,900 กิโลเมตร

ถ้าตีราคาตามอายุรถ ตลาดรถมือสองให้ประมาณ 18,000 ดอลลาร์ หรือ 580,000 บาท

แต่ราคาที่ชนะการประมูลคราวนี้คาดว่าจะสูงกว่า 50,000 ดอลลาร์ตามที่แม่ของเลอบรอนซื้อมา

ถ้าไม่ใช่รถของเลอบรอน ราคารถคันนี้ไม่มีทางสูงกว่าราคาตอนเป็นรถใหม่ป้ายแดง

เวลาผ่านไปเกือบ 16 ปี ตอนนี้เลอบรอนมีคอลเล็กชั่นซูเปอร์คาร์ยี่ห้อหรูที่คนไทยและคนทั่วโลกฝันอยากจะมี

ไม่ว่าจะเป็น Lamborghini, Ferrari, Bentley หรือ Rolls-Royce

เลอบรอนเพิ่งเซ็นสัญญา 4 ปีกับทีม LA Lakers เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท

ดังนั้น การซื้อรถหรูเป็นเงินหลายร้อยล้านบาทของเขาจึงถือว่าไม่ฟุ่มเฟือยนัก

แต่ยอดนักกีฬาระดับโลกหลายคนก็ไม่ได้ขับรถหรูอย่างที่หลายคนคิด

แดเนียล นอร์ริส (Daniel Norris) นักเบสบอล MLB ทีม Detroit Tigers วัย 25 ปี ตำแหน่งพิตเชอร์ (Pitcher) หรือคนขว้างลูกเบสบอล เป็นนักกีฬาร่ำรวยแต่สมถะ ขับรถเก่าอายุ 40 ปี ที่ราคาไม่กี่แสนบาท

ในปี 2011 ทันทีที่แดเนียลเรียนจบไฮสกูล ทีม Toronto Blue Jays เซ็นสัญญากับเขา มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ หรือ 64 ล้านบาท ซึ่งเมื่อได้เงินมา เขาก็นำไปซื้อรถในฝันตั้งแต่สมัยเด็ก

นั่นคือรถโฟล์กสวาเกน ปี 1978 รุ่นเวสต์ฟาเลีย (Westfalia) ราคา 10,000 ดอลลาร์ หรือ 320,000 บาท

เวลาผ่านไป 7 ปี แดเนียลก็ยังขับรถตู้โฟล์กคันนี้อยู่

รถโฟล์กรุ่นนี้รู้จักกันในชื่อว่า Hippie Van เป็นรถตู้ที่นิยมมากในหมู่ชนชาวฮิปปี้ หรือชาวบุปผาชน ซึ่งเป็นที่นิยมไปทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ 60 โดยชาวฮิปปี้รักอิสระ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ

ฮิปปี้ที่มี Hippie Van ก็กินอยู่หลับนอนในรถตู้นี้ ซึ่งแดเนียลก็ใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอนในรถตู้ของเขาช่วงปิดฤดูกาล ซึ่งตอนนี้ก็เป็นช่วง Off-Season ของเบสบอล MLB

ถามว่าทำไมถึงเลือกใช้ชีวิตบนรถตู้ในช่วง Off-Season ที่ยังไม่มีการแข่งขัน เขาตอบว่า การใช้ชีวิตสมถะบนรถแวนเพียงลำพังนั้นเป็นเหมือนกับการได้พักใจจากความกดดันเวลาแข่งขัน MLB ซึ่งมีคนเฝ้าจับตาตลอดเวลา การได้กินนอนในแวนนั้น ไม่มีใครสนใจ มีอิสระ ขับรถไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากรัฐเทนเนสซี่บ้านเกิดไปจนถึงรัฐฟลอริดาทำให้ได้พักใจ

แดเนียลบอกว่า เขารู้สึกชอบการที่ไม่มีเงินเยอะ เพราะการไม่มีเงินเยอะทำให้เขาระงับความอยากมีอยากได้

ในเมื่อเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่ทำให้แดเนียลมีความสุขเพิ่มขึ้น แล้วอะไรที่เป็นสิ่งมีค่าในชีวิต

เขาตอบว่า การได้ค้นคว้าในสิ่งที่เขารัก การหาความรู้ การมีจิตใจดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (N”Golo Kant?) นักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส กองกลางทีมเชลซี วัย 27 ปี ก็เป็นนักกีฬาสมถะ

ก็องเต้ได้ค่าแรงกว่า 120,000 ปอนด์ หรือ 5 ล้านบาทต่อสัปดาห์ แต่เขายังคงขับรถ Mini-Cooper มือสอง ซื้อมาตั้งแต่สมัยอยู่เลสเตอร์ ซิตี้

คาดว่า Mini-Cooper มือสองของก็องเต้ ราคาไม่กี่แสนบาท เพราะ Mini-Cooper ปี 2015 ป้ายแดงในสมัยนั้นราคา 20,000 ปอนด์ หรือ 840,000 บาท

ก็องเต้บอกว่า เขาไม่ใช่นักสะสมรถ จึงไม่ได้ฝันว่าอยากจะมีอะไรมากมาย ส่วนรถมินิที่ขับนั้น ตอนแรกๆ ก็สนุกในการเรียนรู้การขับพวงมาลัยขวา

อันโตนิโอ้ คอนเต้ (Antonio Conte) อดีตผู้จัดการทีมเชลซี ก็เป็นอีกคนที่ขับรถราคาย่อมเยา

สมัยที่อยู่เชลซี เขาขับรถนิสสัน จู๊ค (Nissan Juke) ซึ่งราคาที่อังกฤษ 15,000 ปอนด์ หรือ 630,000 บาท

คอนเต้ตอนนั้นได้ค่าจ้าง 9 ล้านปอนด์ หรือ 380 ล้านบาทต่อปี บอกว่า ที่ขับรถ Nissan Juke เพราะเป็นความต้องการของภรรยา เนื่องจากรถเล็กนั้นขับง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเริ่มหัดขับรถพวงมาลัยขวา

ซื้อรถใช้งานหลักของบ้าน ต้องให้คนมีอำนาจสูงที่สุดในบ้านตัดสินใจ…เรื่องนี้ผู้ชายฝรั่งและไทยเห็นตรงกัน