แฉต่อ! ใบสั่งยุติสอบสวนหาตัวคนยิง สลายชุมนุม 99ศพ อ้างมันชุลมุนวุ่นวาย

เมื่อวานนี้ (6 ธันวาคม 2561) เเหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานอัยการสูงสุด ได้เผยถึงกรณีที่ นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฏหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ(สกสส.) เเละทีมทนายญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 6 ศพ วัดปทุมวราราม ในการสลายชุมปี53 ออกมายืนยันว่าทาง ดีเอสไอ ได้ส่งสำนวนคดีพิเศษ ที่ศาลมีคำสั่ง ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ไปยังอัยการสำนักงานคดีพิเศษแล้วหลายคดีซึ่งรวมถึงสำนวนการวิสามัญฯที่6ศพวัดปทุมฯด้วย ว่า

ก่อนหน้านี้สำนวนคดีที่ศาลมีคำสั่งไต่สวนชันสูตร6ศพวัดปทุมฯ เเล้วได้เคยถูกส่งมาเป็นสำนวนประกอบท้ายสำนวนในคดีที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เเละนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในความผิดฐานร่วมกันก่อ หรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำหรือฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เเต่การส่งมาในขณะนั้นเป็นเพียงสำนวนประกอบเพื่อเอาผิด นายอภิสิทธิ์ เเละนายสุเทพ ซึ่งเป็นสำนวนหลัก

โดยขณะนั้นทางดีเอสไอเเจ้งกับทางอัยการว่ายังไม่สามารถหาตัวผู้ยิงได้ว่าเป็นใคร เเต่ส่งมาเพื่อประกอบสำนวนของอภิสิทธิ์ เเละนายสุเทพ อัยการก็เลยยื่นฟ้องไปโดยเเนบคำสั่งศาลคดี6ศพวัดปทุมฯเเละสำนวนไต่สวนการตายอื่นๆ ไปท้ายฟ้อง โดยที่ยังไม่ได้พูดในเนื้อหาว่าคดีที่ศาลมีคำสั่งไต่สวนการตายมาเเล้วว่าใครเป็นผู้กระทำเนื่องจากทางพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ทำสำนวนมา เป็นเพียงเเต่การเเนบสำนวนไปให้ศาลเห็นว่าอภิสิทธิ์ เเละนายสุเทพเป็นผู้สั่งการเเละใช้ให้มีการกระทำเกิดขึ้น เเต่ต่อมาภายศาลฎีกามีคำสั่งยกฟ้องเนื่องจากเห็นว่าเป็นอำนาจ ปปช.

ในส่วนของสำนวน6ศพวัดปทุมฯภายหลังที่ศาลมีคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพเเล้วมีคำสั่งว่าการตายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร ศาลก็คืนสำนวนมาให้อัยการเพื่อให้อัยการส่งต่อไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา150 ทางอัยการยืนยันว่าทางดีเอสไอยังไม่มีการส่งสำนวนระบุว่าใครเป็นผู้กระทำผิดส่งมายังอัยการสำนักงานคดีพิเศษเเต่อย่างใด

“ส่วนสำนวนไต่สวนศพรายอื่นๆประมาณ 20 กว่าศพ นั้นทางดีเอสไอ ได้มีการส่งสำนวน มายังพนักงานอัยการคดีพิเศษเเล้วจริง เเละสำนวนที่ส่งมาทางดีเอสไอ มีความเห็นว่า ไม่สามารถระบุ หรือ หาตัวผู้กระทำความผิดได้จริง เห็นควรส่งให้อัยการ มีคำสั่งงดสอบสวน ตามความเห็นของดีเอสไอ ซึ่งทางอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวน ที่ศาลมีคำสั่ง ไต่สวนการตาย 20 กว่าศพนั้น เเล้วพบว่า ในเหตุการณ์ที่มีคนตาย มีความชุลมุนวุ่นวาย ในพื้นที่บริเวณ หน้ากระทรวงการศึกษา มีการใช้เเก๊สน้ำตา พอคนสลายไปก็พบศพนอนตาย ทางอัยการ ก็เลยเชื่อเเละ สั่งให้ยุติการสอบสวน เป็นสำนวนมุมดำ”

เมื่อถามว่า สำนวน6ศพวัดปทุมฯเคยมีการขอให้มีการทำสำนวนมุมดำหรือไม่ เเหล่งข่าวระบุว่า เมื่อถามจริงๆ ว่าสำนวนมายังอัยการหรือไม่ พบว่ามีสำนวนมาจริง เเต่ทางอัยการไม่สามารถสั่งสำนวน 6 ศพ ให้เป็นสำนวน ที่ไม่มีตัวผู้กระทำผิดให้ไม่ได้ จึงให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไปทำมาใหม่ เพราะมันยังมีช่องทาง ที่จะสามารถสืบได้ว่า ผู้กระทำเป็นใคร เพราะในคำสั่งไต่สวน ชันสูตรพลิกศพของศาล มีการระบุชัดเจนว่า กระสุนมาจากเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองพันไหน ประจำจุดที่ไหน การที่จะบอกไม่รู้เป็นไปไม่ได้ เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนต้องไปสืบมาว่าเป็นใคร ยศอะไร ใช้อาวุธอะไร ให้สิ้นกะเเสความ จะมาจบง่ายๆตรงนี้ทำไม่ได้ สำนวนเคยมายังอัยการอย่างไม่เป็นทางการ เเต่ถ้ามาอย่างเป็นทางการยังไม่มี