นพ.กำจร ตติยกวี อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เปิดเผยถึงกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์(มรร.) และนายกสภามหาวิทยาลัยทุกแห่ง ขณะดียวกันกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิของ มรร.ลาออกจากตำแหน่งแล้ว จำนวน 2 ราย คือ นายสมบัติ นพรัก คณบดีวิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา น.ท.สุมิตร สุวรรณ รองคณบดีผ่ายบริหาร คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ และกรรมการสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ขณะที่กรรมการสภาที่เหลืออีก 9 ราย เตรียมจะลาออกก่อนวันที่ 31 มกราคม 2562 หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้กรรมการสภายื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.  ว่า ส่วนตัวขอดูแนวทางแก้ไขจากป.ป.ช.ก่อน แต่หากวิธีการแก้ปัญหามีความแข็งตัวมากเกินไป ก็อาจพิจารณาลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้การลาออกไม่ใช่กลัวการตรวจสอบ แต่เพราะไม่อยากวุ่นวาย ขณะที่ตำแหน่งกรรมการสภา ไม่ใช่ตำแหน่งผู้บริหาร และไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐดังนั้น จึงอาจต้องมาตีความในบางเรื่องกันใหม่

“การลาออก คงต้องพิจารณาผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยด้วย แต่ถ้าป.ป.ช.ไม่ขยับหรือยังมีการแก้ไขปัญหาที่แข็งตัวเกินไปก็อาจจะพิจารณาลาออก ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยแน่นอน โดยเฉพาะกรรมการที่มาจากภาคเอกชนที่เข้ามาช่วยทำงาน ส่วนทางกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เอกชนเข้ามาช่วยพัฒนาด้านการศึกษา แต่ประกาศป.ป.ช.ฉบับนี้กลับผลักเอกชนออกไป” นพ.กำจรกล่าว

ด้านนายสมบัติ กล่าวว่า ตนเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย 3 แห่ง แต่ลาออกไปก่อนเพียง 1 แห่งคือ ที่มรร.มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เหตุเพราะกรรมการสภามรร.ทุกคนได้มีการหารือกันแล้ว และนายกสภาแสดงความชัดเจนที่จะลาออก ส่วนอีก 2 แห่ง คือมหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)กำแพงเพชร และมรภ.อุตรดิตถ์ ยังอยู่ระหว่างตัดสินใจ เพราะกรรมการสภาทั้ง 2 แห่ง นายกสภาขอให้รอก่อน เพราะมีการขยายเวลาแล้ว จึงรอดูท่าทีของป.ป.ช. ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้กลัวเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สิน เพราะมีสมบัติไม่มากอยู่แล้ว แต่กลัวว่าจะหลุด หรือหลงลืมอาจจะทำให้ผิดกฎหมายได้ โดยไม่ตั้งใจ

นายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. กล่าวว่า ตนเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กรรมการสภามหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) และกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า ยังไม่ได้ตัดสินใจแต่มีแนวโน้มว่าจะลาออกทั้ง 3 แห่ง เพราะไม่อยากยุ่งยาก เนื่องจากเรื่องทรัพย์สินทั้งหมดภรรยาตนเป็นผู้ดูแล ประกอบกับอายุมากแล้วอาจหลงลืมได้จึงไม่อยากเสี่ยง ทั้งนี้หากป.ป.ช.ยืนยันเช่นเดิม คิดว่ากรรมการสภาหลายแห่งคงลาออก และเป็นผลเสียต่ออุดมศึกษาแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของสถาบันพระปกเกล้า มีกรรมการสภาสถาบันเตรียมลาออกแล้ว 3 ราย โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า มีข่าวว่าจะลาออกด้วยเช่นกัน