วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สามีภรรยาชาวอุดรธานีถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ชุดใหญ่ ได้เงินรางวัล 90 ล้านบาท

ก่อนหน้าไม่ถึงเดือน ที่อเมริกา มีคนถูกล็อตเตอรี่เมกะ มิลเลียนส์ (Mega Millions) ได้เงินรางวัล 1,600 ล้านดอลลาร์ หรือ 52,900 ล้านบาท

ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคนโชคดีคนนี้เป็นใคร ทราบแต่ว่าเป็นคนรัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งตามกฎหมายของรัฐนี้ ผู้ถูกรางวัลล็อตเตอรี่เมกะ มิลเลียนส์ ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวให้สาธารณชนเห็นเป็นที่อิจฉา

คาดว่าผู้ถูกรางวัลครั้งนี้คงไม่เลือกรับเงินเต็มจำนวน 52,900 ล้านบาท เพราะต้องรับเป็นงวดๆ นานถึง 29 ปี

เขาคงเลือกแบบลัมป์ ซัม (Lump sum) คือรับครั้งเดียวหมดเลย ซึ่งเมื่อหักภาษีแล้วจะเหลือ 904 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 29,900 ล้านบาท

เงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ แม้แต่ฟลอยด์ เมย์เวตเธอร์ จูเนียร์ ยังอดใจไม่ไหวที่จะซื้อล็อตเตอรี่เมกะ มิลเลียนส์ ซึ่งมีปาปารัซซี่ถ่ายภาพฟลอยด์ถือล็อตเตอรี่ปึกใหญ่ในมือออกจากปั๊มน้ำมันที่ขายล็อตเตอรี่ ในลอสแองเจลลิส

ตามข่าว ฟลอยด์ซื้อล็อตเตอรี่เป็นเงิน 2,000 ดอลลาร์ หรือ 66,000 บาท

เมื่อภาพฟลอยด์ซื้อล็อตเตอรี่ปึกใหญ่ถูกเผยแพร่ คนก็รุมวิจารณ์ว่า ฟลอยด์เป็นนักกีฬามหาเศรษฐี ไม่ควรซื้อล็อตเตอรี่ ถือเป็นการแย่งโอกาสร่ำรวยจากชาวบ้านฐานะธรรมดาที่ฝันจะถูกล็อตเตอรี่ แม้โอกาสที่จะถูกรางวัลแจ๊กพ็อตล็อตเตอรี่เมกะ มิลเลี่ยนส์ มีเพียง 1 ใน 302 ล้านก็ตามที

จากการประเมินของนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ฟลอยด์มีทรัพย์สินประมาณ 765 ล้านดอลลาร์ หรือ 25,300 ล้านบาท

ซึ่งคนที่หมั่นไส้ฟลอยด์ก็เขียนกระแหนะกระแหนว่า เงินหมดแล้วหรือยังไงถึงต้องมาซื้อล็อตเตอรี่

ว่าไปแล้ว นักกีฬากับคนถูกล็อตเตอรี่ มีสิ่งที่เหมือนกันก็คือ ใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาลที่ได้มาจนหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Lottery Winner Syndrome

จากสถิติในอเมริกาพบว่า 75% ของคนที่ถูกล็อตเตอรี่ได้เงินมหาศาล หมดตัวภายในเวลา 5 ปี

เช่นเดียวกับ 78% ของนักอเมริกันฟุตบอล NFL ที่หมดตัวภายใน 2 ปีหลังจากรีไทร์

ส่วนนักบาสเกตบอล NBA 60% หมดตัวภายใน 5 ปี หลังจากเลิกเล่น

คนที่ไม่ถูกล็อตเตอรี่ก็อย่าเสียดาย เพราะการถูกล็อตเตอรี่ไม่ได้นำความสุขล้นเหลือมาให้อย่างที่คนส่วนใหญ่คิด

จากการศึกษาของ University of California, Santa Barbara ในปี 2008 ทำการศึกษากลุ่มผู้ที่ถูกรางวัลล็อตเตอรี่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งโดยเฉลี่ยจำนวนเงินรางวัลที่ถูกล็อตเตอรี่ประมาณเงิน 8 เท่าของเงินเดือนตัวเอง พบว่าไม่ได้ทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว โดยทำการสำรวจระดับความสุขหลังจากถูกล็อตเตอรี่ได้ 6 เดือน

แต่การได้เงินเดือนประจำจากน้ำพักน้ำแรงกลับทำให้มีความสุขมากกว่าเมื่อเทียบกับเงินก้อนที่ได้จากการถูกล็อตเตอรี่

นักจิตวิทยาอธิบายว่า การถูกรางวัลล็อตเตอรี่ทำให้เรามีความสุขเพียงประเดี๋ยวประด๋าว สุขสั้นๆ ที่สามารถจ่ายเงินที่เป็นหนี้หรือช้อปปิ้งซื้อของที่ตัวเองอยากได้ แต่ไม่สามารถทำให้เรามีความสุขในระยะยาว เพราะสมองมนุษย์นั้นมักจะจำเรื่องทางลบมากกว่าเรื่องทางบวก

บทสนทนาของมนุษย์เรานั้น 70% เป็นเรื่องของการบ่น ดังนั้น สมองจะคิดถึงปัญหาที่เข้ามาในชีวิตมากกว่าความดีใจจากการถูกล็อตเตอรี่

จริงอยู่ เงินเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต แต่ความสุขนั้นอยู่ที่ใจ

หากใจรู้จักพอ ก็ไม่ต้องเสียเวลาภาวนาขอให้ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1