E-DUANG : เมื่อ จาตุรนต์ ฉายแสง ขยับ รอยยิ้ม ไทยรักษาชาติ แย้ม

พลันที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทย พลันที่มีข่าวว่า นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จะเป็นอีกคนหนึ่ง ซึ่งยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทย

ความแจ่มชัดในเชิง “หมากกล”ทางการเมืองก็เริ่มเผยแสดงให้เป็นที่ปรากฏ

เป็นความขัดแย้ง เป็นความแตกแยก อย่างนั้นหรือ

ภาพที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง จะเดินทางไปอำลาคณะผู้บริ หารแห่งพรรคเพื่อไทยในวันที่ 19 พฤศจิกายน จะฉายสะท้อนให้เห็น

ทุกอย่างเป็นเหมือนกับการไปของ นายสุธรรม แสงประทุม เหมือนการไปของ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล

มิได้ขัดแย้ง มิได้แตกแยก

 

ถามว่า นายสุธรรม แสงประทุม ขัดแย้งกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย อย่างนั้นหรือ

ตอบได้เลยว่า เป็นไปไม่ได้

ยิ่ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ยิ่งเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่จะขัดแย้ง หรือแตกแยกกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย

ความจริงภาพของพรรคไทยรักษาชาติแจ่มชัดตั้งแต่ต้น

แจ่มชัดเมื่อเห็น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ไปร่วมในการแถลงเปิดตัวหัวหน้าพรรคคือ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เลขาธิการ พรรคคือ นายมิตติ ติยะไพรัช

ยิ่งเห็น น.ส.สุณี เหลืองวิจิตร นั่งเรียงเคียงกับ นายวิม รุ่งวัฒนกุล ยิ่งเป็นคำตอบ

ทั้งนี้แทบไม่ต้องกล่าวถึงบุตรชาย นายพายัพ ชินวัตร

เหมือนกับพรรคไทยรักษาชาติจะได้รับการวางตัวเป็นพรรคคนรุ่นใหม่และเน้นไปยังส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งๆที่ความจริงวางตัวครบถ้วน สมบูรณ์

ไม่ว่า ส.ส.เขต ไม่ว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

อุบัติแห่งพรรคไทยรักษาชาติเพิ่มความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเมื่อมีคนอย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เข้าไปร่วม

ไม่ว่าจะเรียกว่าเป็นกลยุทธ์”แตกแบงก์พัน” ไม่ว่าจะเรียกว่าเป็นกลยุทธ์ “แยกกันเดิน”ล้วนมิได้มาจากความขัดแย้ง แตกแยก หากแต่มาจากความรู้เท่าทัน”รัฐธรรมนูญ”

แต่ทั้งหมดนี้คือ “ยุทธวิธี”เพื่อบรรลุ”ยุทธศาสตร์”ใหญ่