‘ซูจี’ โดนอีก! แอมเนสตี้ ถอดรางวัลทูตแห่งมโนธรรม เหตุวางเฉยวิกฤตละเมิดสิทธิฯโรฮิงญา

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเพื่อต่อต้านการประหารชีวิตและปกป้องสิทธิมนุษยชน ได้ทำการถอดรางวัลทูตแห่งมโนธรรม ซึ่งเป็นรางวัลสุงสุดด้านสิทธิมนุษยชนจากนางอองซาน ซูจี มุขมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศพม่า จากจุดยืนที่เมินเฉยแทนที่จะหยุดยั้งวิกฤตล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวโรฮิงญาจนเกิดการลี้ภัยครั้งใหญ่เพื่อหนีการกวาดล้างจากกองทัพพม่าเมื่อปีที่แล้ว

โดยแอมเนสตี้ แถลงว่า นางซูจีล้มเหลวในการพูดถึงประเด็นโรฮิงญาออกมา พร้อมกับออกมาปกป้องกองทัพจากความรับผิดชอบต่อการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา นับเป็นการทรยศต่อสำนึกที่ครั้งหนึ่งนางเคยยืนหยัดอย่างน่าละอายที่สุด

แอมเนสตี้ยังระบุอีกว่า นางซูจีไม่แม้แต่ประณามกองทัพในการกระทำอันล่วงละเมิดในช่วงความขัดแย้งระหว่างกองทัพกับกลุ่มติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยในทางเหนือของพม่า และรัฐบาลพม่ายังปิดกั้นไม่ให้องค์กรมนุษยธรรมระหว่างประเทศเข้าพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม

ด้านนายคูมี ไนโด เลขาธิการแอมเนสตี้ได้เขียนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า องค์กรทำการถอนรางวัลคืนเพราะ กังวลอย่างสุดซึ้งว่านางซูจีไม่ใช่สัญลักษณ์แห่งความหวัง ความกล้าหาญและการปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างไม่ลดละอีกแล้ว อีกทั้งรัฐบาลพม่ายังล้มเหลวในการยุติการปราบปรามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

ขณะที่ นายซอว์ เทย์ โฆษกรัฐบาลพม่า ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของสหรัฐฯ ทำการยึดรางวัลคืนจากนางซูจี และยังมีอีกหลายรางวัลที่ยึดคืนจากเธอ รวมถึงรางวัลเสรีภาพแห่งเมืองดับลินและออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษต่อกรณีโรฮิงญา และล่าสุดเมื่อกันยายนที่ผ่านมา รัฐสภามีมติถอดนางซูจีออกจากการเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ ยกเว้นรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ยึดรางวัลคืน แต่ทางมูลนิธิผู้มอบรางวัลโนเบลกล่าวว่าจะไม่ทำเช่นนั้น

ทั้งนี้ รางวัลทูตแห่งมโนธรรมของแอมเนสตี้ นางซูจีได้รางวัลเมื่อปี 2009 ในช่วงที่นางยังคงถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านพักในนครย่างกุ้งจากการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงรัฐบาลทหารของพม่าปกครองประเทศ