ทราย เจริญปุระ : ร่วงทะลุ “ฝัน” พันชั้น

มันเริ่มจากแสง

แสงสว่างจ้าที่ผ่านมาถึงประสาทรับรู้ที่ดวงตาของคุณ

และทั้งๆ ที่หลับใหล แต่ภายในคุณตื่นแล้ว

ตื่น เกร็งตัวรอ กลั้นหายใจ นับเวลาอยู่เงียบๆ

หนึ่ง

สอง

สาม

สี่

ข้างนอก, สายฟ้าฟาดเปรี้ยงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น

เผ่าพันธุ์จากตระกูลดุนยาตกตายไปอีกหนึ่งคน

“ญินเพศเมียที่เรียกว่าญินเนียหรือญินนรียิ่งลี้ลับกว่า ทั้งแยบยลและเข้าใจยากยิ่งกว่าด้วยเป็นเงาสตรีที่เกิดจากควันไร้ไฟ มีทั้งญินนรีโหดเหี้ยมและญินนรีเปี่ยมรัก แต่นางญินเนียทั้งสองแบบอาจเป็นตัวเดียวกัน วิญญาณโหดเหี้ยมอาจบรรเทาได้ด้วยความรัก หรือวิญญาณเปี่ยมรักอาจถูกกระทำจนโหดร้ายเกรี้ยวกราดเกินที่มนุษย์ปุถุชนจะเข้าใจได้”*

คุณรู้จักสะพานข้ามญะฮันนัมไหม?

ญะฮันนัมคือนรกในความเชื่อหนึ่ง สะพานนั้นเป็นสะพานที่ชาวมุสลิมทุกคนต้องข้ามเพื่อไปสวรรค์ มันแคบกว่าในแมงมุม

และบางยิ่งกว่าคมดาบ

คนดีข้ามไปอย่างรวดเร็วและได้รางวัล แต่คนเลวลื่นตกลงไปในไฟแห่งนรก

แต่ไฟนรกนั้นก็มีช่องว่าง

และบางทีญินก็อาจเป็นเรื่องขำๆ ของพระผู้สร้าง

เงาวิญญาณเคลื่อนกายไร้สุ้มเสียงสมความหมายของชื่อเรียกที่แปลว่าปกปิด

แฝงร่างรวมกายอยู่รอบตัวเรา

ประทานพรและสาปแช่งแก่มนุษย์

สองปี แปดเดือน กับยี่สิบแปดคืนคือห้วงเวลาหนึ่งราตรีที่ถูกถักทอด้วยเรื่องเล่าที่เริ่มจากการลอยตัวของมิสเตอร์เจอโรนีโม ในเช้าวันพุธหลังพายุใหญ่และฟ้าแลบแปลบปลาบยามค่ำคืน

นี่คือเรื่องจากอดีต จากยุคไกลโพ้น จนบางครั้งยังถกเถียงกันว่าควรเรียกว่าประวัติศาสตร์หรือเทวตำนาน หญิงร่ำรวยกับสวนกว้าง ศิวนาฏราชใส่รองเท้าผ้าใบในเมืองนิวยอร์ก

ตัวมิสเตอร์เจอโรนีโมและเหล่าญาติพี่น้องไร้ติ่งหูต่างไม่เคยนึกฝันถึงโลกแห่ง “ความเป็นจริง” อันผิดแผกแปลกเพี้ยนอีกใบหนึ่งอันเป็นต้นกำเนิดของพลังพิเศษแฝงเร้นในตะวัน แต่จำต้องร่วมต่อสู้กับอาเพศพิสดารไร้เหตุผลในสงครามข้ามโลกระยะพันหนึ่งราตรี

หนังสือพาเราร่วงทะลุฝันพันชั้น เรื่องราวเริ่ม จบ วกวนกลืนกินตัวเอง แตะไต่ไล่ไปตามขอบความจริงและภาพลวงตา

ความฝันคือการเปิดเผยเรื่องปกปิดที่รบกวนจิตใจ

จิตใต้สำนึก ความเห็นแก่ตัว ความหวัง สัญญาและคำโกหก

เราล้วนเป็นเมล็ดพันธุ์จากต้นแบบผู้ขี้ขลาด ฉลาดแกมโกง หวั่นไหว ไม่สมบูรณ์แบบ กลุ่มชายและหญิงผู้เหลือทิ้งอยู่หน้าถ้ำ กลัวฟ้าฝนและเขี้ยวเล็บของสัตว์ป่าเกินกว่าจะเป็นผู้ล่า

เสพสมและขยายเผ่าพันธุ์กันอีก จากรุ่น สู่รุ่น สร้างบ้านเมือง ไหว้สารูปเคารพ พัฒนาและถอยหลังไปพร้อมกัน

“…เขายอมรับความคิดที่ว่า หากยังเชื่อมโยงกับเส้นทางแห่งอดีต เขาอาจไม่เคยพบหนทางหนึ่งเดียวสู่ความสุขอันแท้จริงได้อย่างไรกัน บางทีเขาอาจจินตนาการให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแบบอินเดียของเขา บางทีเธออาจรักเขาที่นั่นเช่นกัน เธอจะเดินถนนและได้พบเขาที่นี่ และรักเขาเหมือนเดิม แม้ว่าเขาจะเป็นคนแบบที่เขาไม่เคยได้เป็น บางทีเธออาจรักเขาแบบนั้นด้วย ราฟาเอล ไฮโรนิมุส มาเนเซส เด็กชายผู้หายสาบสูญ เด็กชายที่ชายคนหนึ่งสูญเสียไป

ข้านึกว่าจะชอบ เด็กหญิงตัวเล็กที่มีแววตาของญินเนียพูดด้วยท่าทางงุนงง ข้าฟังหัวใจเจ้าและได้ยินความเศร้าโศกของเจ้าเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้าทิ้งไว้เบื้องหลัง และข้าคิดว่านี่คือของขวัญต้อนรับ

เอาคืนไป เขาพูดพลางสำลักน้ำตา”*

ตื่นใจเหมือนเห็นโสนน้อยเรือนงามทาอายแชโดว์ประกายระยับบนเปลือกตาและเกิดมาพร้อมบ้านทรงกล่องแบบโมเดิร์น สังข์ทองพ่นกราฟฟิตี้ลงบนเปลือกหอย และร้องขอซุปหัวหอมฝรั่งเศสแทนแกงฟักสลักเรื่อง

หนึ่งพันราตรี

หนึ่งพันราตรี

ถ้าเพียง 24 ชั่วโมงชีวิตเรายังอาจเปลี่ยนแปรไปได้ในทุกวินาที

พันหนึ่งราตรียิ่งเพิ่มความปั่นป่วนทวีคูณ

“สองปี แปดเดือน กับยี่สิบแปดคืน” (Two Years Eight Months & Twenty-Eight Nights) เขียนโดย Salman Rushdie แปลโดย สุนันทา วรรณสินธ์ เบล ฉบับพิมพ์ครั้งแรก โดยสำนักพิมพ์มติชน, ตุลาคม 2561

*ข้อความจากในหนังสือ