วิเคราะห์ : สายล่อฟ้า-ผ่าตัวเอง ‘3 ปชป.’ ขอโทษ ‘ปู’ กรณี ‘ว.5 โฟร์ซีซั่นส์’

แมลงวันในไร่ส้ม

 

สายล่อฟ้า-ผ่าตัวเอง

‘3 ปชป.’ ขอโทษ ‘ปู’

กรณี ‘ว.5 โฟร์ซีซั่นส์’

 

เป็นข่าวเกรียวกราวในสื่อออนไลน์ และพาดหัวหนังสือพิมพ์ กรณีเฟซบุ๊ก Leky Sopha โพสต์จดหมายเปิดผนึกของนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ 3 คน ยอมรับสำนึกผิด และขอโทษที่กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในทางเสียหายทางเพศ

1 ในนั้น ได้ชื่อว่าเป็นวอลเปเปอร์ของหัวหน้าพรรคด้วย

จดหมายเปิดผนึกระบุว่า ตามที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โจทก์ร่วม ยื่นฟ้องข้าพเจ้าทั้งสามคนคือ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ที่ 1 นายศิริโชค โสภา ที่ 2 และนายเทพไท เสนพงศ์ ที่ 3 เป็นจำเลยต่อศาลอาญาในความผิดฐานหมิ่นประมาท ปรากฏตามคดีหมายเลขดำที่ อ.630/2557 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.2708/2558 โดยวิธีการโฆษณาด้วยการดำเนินรายการสายล่อฟ้า ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่องบลูสกาย

ในขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ แต่ข้าพเจ้านายศิริโชค โสภา กับพวกดังกล่าวได้จัดรายการโดยนำป้ายที่ใช้แขวนหน้าห้องพักของโรงแรม ปรากฏข้อความว่า “เอาอยู่” มานำเสนอในรายการแล้วพูดประกอบว่า “ห้องนี้เอากันอยู่หรือแขกก็เอากันอยู่ อ๊ะๆๆๆๆ และปูโฟร์ซีซั่นส์ ปู ว.5 ปูเอาอยู่ เยอะมากๆ นะฮะ คำกล่าวขานท่านนายกเนี่ย”

ข้อความและการกระทำของข้าพเจ้ากับพวกดังกล่าว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาว่าการกระทำดังกล่าวของข้าพเจ้ากับพวกทั้งสามคนเป็นความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทนางสาวยิ่งลักษณ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ประกอบมาตรา 83 ให้จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 50,000 บาท ขณะนี้ข้าพเจ้ากับพวกได้ฎีกาคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และศาลฎีกาได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 ตุลาคม 2561 เวลา 09.30 นาฬิกา

ข้าพเจ้านายศิริโชค โสภา กับพวกอีกสองคน รวมทั้งข้าพเจ้าด้วยเป็นสามคนเห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่า “ข้อความและการกระทำของพวกข้าพเจ้าดังกล่าว เป็นการหมิ่นประมาทนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และในฐานะส่วนตัวจริง ข้อความและป้ายดังกล่าวที่นำมาประกอบนั้นไม่ถูกต้อง และไม่เป็นความจริง

บัดนี้ ข้าพเจ้ากับพวกรวมสามคนคือนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต จำเลยที่ 1 นายศิริโชค โสภา จำเลยที่ 2 และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 3 ได้สำนึกผิดแล้ว และขออภัยต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้ให้อภัยต่อข้าพเจ้า และได้ยื่นคำร้องขอถอนฎีกาให้กับข้าพเจ้ากับพวก ทำให้ข้าพเจ้ากับพวกหลุดพ้นจากคดีนี้ ข้าพเจ้ากับพวกทั้งสามคนขอขอบคุณ และถือโอกาสนี้แจ้งข่าวให้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป

 

 

หลังจากจดหมายขอโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นข่าวออกไป มีกระแสวิจารณ์ว่า การขอโทษผ่านเฟซบุ๊กไม่น่าเพียงพอ เมื่อเทียบกับความรุนแรงในการกล่าวหาและความเสียหายที่เกิดขึ้น

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการ คอลัมนิสต์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก Sirote Klampaiboon เมื่อ 5 ตุลาคม ว่า “คุณศิริโชค, คุณเทพไท และคุณชวนนท์ ควรกราบขออภัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ที่ถอนฟ้องฎีกาเรื่อง ‘เอาอยู่’ มากกว่าโพสต์ขอโทษในเฟซบุ๊กที่แทบไม่มีคนดู และประชาธิปัตย์ควรต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่าทำลอยนวล

คุณยิ่งลักษณ์เป็นอดีตนายกฯ ที่เผชิญการโจมตี ซึ่งหลายครั้งเป็นข้อกล่าวหาที่ต่ำช้า, เหยียดเพศ และใช้ข้อมูลเท็จมากที่สุดเท่าที่ผู้นำประเทศนี้เคยเจอ และหนึ่งในคนกลุ่มที่มีส่วนสร้างวาทกรรมแบบนี้คือคนจากพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มต่อสู้ทางการเมืองด้วยฝีปาก, คำโกหก, การใส่ความ และการดูหมิ่นเหยียดหยามฝ่ายตรงข้ามทุกคน”

ย้อนกลับไปในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถ้อยคำของศิโรตม์ไม่เกินความจริง

กรณีโฟร์ซีซั่นส์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 จากนั้นกลุ่มการเมืองตรงข้ามได้ละเลงและขยายผล พรรค ปชป.ในฐานะฝ่ายค้านนำเรื่องเข้าสภา และนำไปจัดรายการสถานีบลูสกาย จนกลายเป็นคดีดังกล่าว

นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่เป็นฝ่ายต่อต้านนายทักษิณ เคยโพสต์โยงเอาเรื่อง “สาวเหนือ” ในความหมายเหยียดเพศ มาระบุถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อมาเมื่อนายเอกยุทธถูกคนใกล้ชิดฆ่าชิงทรัพย์ ก็ยังมีความพยายามโยงกลับมาที่อดีตนายกฯ อีก

หรือกรณีการ์ตูนนิสต์แห่งไทยรัฐ ที่โพสต์ “โปรดเข้าใจ กะหรี่ไม่ใช่คนชั่ว กะหรี่แค่ขายตัว แต่หญิงชั่วเร่ขายชาติ” สืบเนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปปราศรัยเรื่องการเมืองที่มองโกเลีย

ในปี 2556 นักการเมืองระดับหัวหน้าพรรค ปชป. ก็ขึ้นเวที “ผ่าความจริง” กล่าวถึง อีโง่ กะหรี่ แรด ฯลฯ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุน

 

หลังจากนายศิริโชคและคณะ โพสต์ข้อความขอโทษได้ระยะหนึ่ง ได้ลบจดหมายขอโทษออก โดยอ้างว่า ไม่ได้ตกลงกันว่าจะต้องโพสต์กี่วัน จนทางพรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า แสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยทั้ง 3 คนว่ามิได้ตั้งใจและสำนึกผิดกับการกระทำของตน แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาว่า มีความผิดแล้วก็ตาม

นายวิม รุ่งวัฒนจินดา สมาชิกพรรคเพื่อไทยระบุว่า การลบข้อความคำสำนึกผิดดังกล่าวยังทำให้หลายฝ่ายมองว่า จำเลยโพสต์ข้อความแบบเสียไม่ได้ เพียงเพื่อต้องการให้อดีตนายกรัฐมนตรีถอนคำร้องฎีกาเท่านั้น ซึ่งผมมองว่าแสดงถึงความไม่จริงใจของจำเลยทั้ง 3 คน

ต่อมานายศิริโชคได้นำจดหมายเปิดผนึกมาโพสต์ใหม่อีกครั้ง โดยระบุว่า จะโพสต์ทิ้งไว้ 7 วัน เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

สื่อต่างๆ รายงานเบื้องหน้าเบื้องหลังของการขอโทษในครั้งนี้

โดยระบุว่า อดีต ส.ส.ปชป.เกรงว่าคดีความที่เกิดขึ้น อาจมีผลต่อการลงสมัคร ส.ส.

จึงมีการประสานงานผ่านทางนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร และตกลงให้ทำจดหมายเปิดผนึกขอโทษดังกล่าว

ที่ผ่านมา การโจมตีทางการเมือง การฟ้องร้องระหว่างพรรคการเมือง และการตกลงประนีประนอมยอมความกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดา

แต่ที่ผ่านมา การโจมตี กล่าวร้าย มักเป็นเรื่องทั่วๆ ไป หรืออาจเป็นคำพูดกล่าวหาที่รุนแรง จนอีกฝ่ายเห็นว่าสร้างความเสียหาย

การกล่าวร้ายโจมตีนายกฯ หญิง ไม่เคยมีมาก่อน เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นสตรีคนแรกที่เป็นนายกฯ แต่การตั้งใจจงใจโจมตีนักการเมืองหญิงด้วยเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับเพศหญิง เป็นแท็กติกที่น่าสังเกต

กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ จึงเห็นว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล 3 คนเท่านั้น แต่องค์กรต้นสังกัดก็น่าจะต้องรับผิดชอบด้วย