ฟ้า พูลวรลักษณ์ : มนุษย์ควรมีสิทธิฆ่าตัวตายไหม ?

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๙)

มนุษย์ควรมีสิทธิฆ่าตัวตายไหม

ฉันคิดว่ามี

วันหนึ่ง ฉันอยากเห็นรัฐสร้างสถานที่ให้ประชากรของเขาเป็นสถานที่สะอาด สวยงาม เหมือนโรงพยาบาลชั้นหนึ่ง

แต่ทว่าที่นี่ คือที่ดับจิต

คนที่สมควรฆ่าตัวตาย เช่น

๑ คนที่ได้รับความทุกข์ทรมานมาก

๒ คนที่ถึงกาลอันสมควร

๓ คนหัวใจแหลกสลาย

คนที่ได้รับความทุกข์ทรมานมาก เช่น คนป่วยหนัก เป็นโรคที่รักษาไม่หาย คนที่กำลังมีแต่จะแย่ลง คนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ อยู่ไปรังแต่จะเป็นภาระของคนที่รักเขา

ฉันไม่ได้หมายความว่า คนป่วยเหล่านี้ ควรตายหมด แต่หมายความว่า มนุษย์ควรมีสิทธิในการเลือก หากเขาต้องการตาย รัฐควรอนุญาตให้เขาไป

แต่หากเขายังอยากสู้ต่อ เขาก็มีสิทธิเช่นกัน อันนี้เป็นที่เข้าใจกัน

คนที่ถึงกาลอันสมควร เช่น คนที่แก่มากแล้ว หรือคนที่คิดว่าเขามีชีวิตอยู่นานเพียงพอแล้ว ครบอายุขัยของตัวเองแล้ว

คนเราควรมีอายุถึงเท่าไร เราไม่อาจกำหนดตายตัวได้ เจ้าตัวเป็นคนตัดสินใจ

การฆ่าตัวตาย ที่จริงแล้ว เป็นสิทธิแห่งการรู้ตัวอย่างถึงที่สุด เพราะสิ่งนี้มีค่าสูงสุดในชีวิต

คนโบราณรังเกียจการฆ่าตัวตายเป็นอันมาก หลายศาสนาประณามไว้รุนแรงมาก ถึงขนาดขู่ไว้เลยว่า คนฆ่าตัวตายจะตกนรก ขุมที่ลึกที่สุด ลึกยิ่งกว่าขุมนรกของคนชั่วร้ายใดๆ เสียอีก

การคาดโทษรุนแรง ผิดเหตุผลเช่นนี้ แสดงออกให้เห็นว่า คนโบราณถือสาเรื่องนี้ และต้องขู่ให้หนักที่สุด เท่าที่จะทำได้

แม้ว่าจะมีบ้าง บางลัทธิ บางศาสนา ที่ให้สิทธิในการฆ่าตัวตาย เช่น ลัทธิเชน เขาถือว่าการดับจิตโดยเจตนา เป็นการกระทำที่สูงส่ง เป็นพิธีกรรมสุดท้าย

เราจะลืมศาสนาโบราณเหล่านี้ให้หมด เพราะเราเป็นคนสมัยใหม่ ที่คิดถึงสิ่งต่างๆ ด้วยเหตุผล เพียงแต่บางครั้ง เราต้องถอนอคติที่ยึดครองจิตใจของเรามาช้านาน เหมือนบรรพบุรุษของเรา ไม่ต้องการให้เราเข้าไปในป่านี้ พวกเขาก็จะขู่ว่า หากเข้าไป จะถูกอสุรกายจับกิน สอนเราอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง นานจนนับวันไม่ได้ เราถูกสอนตั้งแต่เด็ก จนกลัว ไม่กล้าเข้าป่านี้ แม้มันจะอยู่ใกล้บ้านของเรา แม้ในหนึ่งชีวิตนี้ เราจะไม่เคยเจออสุรกายตัวนี้เลย

ความกลัวที่ถูกปลูกฝัง ลึก

คนจำนวนมากมีอายุยืนยาว แต่ทว่า ในวัยชราของเขานั้น หากเขาตายก่อนสักสองสามปีน่าจะดีกว่า อาจจะดีกว่ามาก คือเขาจะตายในวันที่จิตใจยังแจ่มใส ชัดเจน เหมือนฟ้าใกล้จะมืด แต่ยังไม่มืดสนิท

เขาสามารถสั่งลาคนใกล้ชิดได้ เป็นการลาจากที่ซึ้งยิ่งนัก

พ่อที่ลาจาก สามารถจัดการเรื่องราวในหนหลังได้ดี เช่น เขาสามารถจะขออะไรจากลูกๆ ได้ เป็นการขอครั้งสุดท้าย แน่ละ ลูกจะทำหรือไม่ก็ได้ แต่โอกาสที่เขาจะทำนั้น สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะคำขอของคนใกล้ตาย มีพลังยิ่งนัก มันดื่มลึกในจิต

เช่น พี่น้องคู่นี้ทะเลาะกัน เกลียดกัน ไม่ยอมคุยกัน ฯลฯ พ่ออาจขอให้พวกเขาคืนดีกันเสีย ให้อภัยต่อกัน นี้คือการขอก่อนตาย

หรือลูกคนนี้มีพฤติกรรมขวางโลก ไม่ยอมมีครอบครัว พ่ออาจคิดว่า ลูกควรมีครอบครัว เขาก็อาจขอสิ่งนี้ เป็นการขอครั้งสุดท้าย

นี้ไม่ใช่การบังคับ เพราะเรื่องแบบนี้บังคับกันไม่ได้ และลูกก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม แต่ทว่า คำขอก่อนตายนี้ มีพลังยิ่ง มันจะทำให้ลูกคิดหนัก และอาจตัดสินใจปฏิบัติตาม

ยิ่งกว่านั้น พ่อที่ลาจาก สามารถจัดการปัญหาเรื่องมรดกได้อย่างหมดจด ในโลกนี้ มีหลายครอบครัวที่พ่อตายจากไปในอาการหมดสติ ไม่รู้ตัว อาจจะป่วยหนัก เรื้อรัง จนเราก็ไม่แน่ใจว่า สมองของเขายังปกติไหม วันนั้น อาจเกิดปัญหาเรื่องมรดก เกิดการฟ้องร้องกันใหญ่โต การกล่าวหากัน ว่าคดโกง ว่าทำพินัยกรรมปลอม

แต่หากพ่อลาจาก ทุกอย่างจะชัดเจน เพราะคนในครอบครัวจะได้คุยกันก่อน

ที่จริง มันคือการยอมรับความจริงเรียบง่ายว่าชีวิตเกิดมาแล้วต้องตาย เราล้วนมีเวลาจำกัด หากเราไม่ไปวันนี้ ก็ต้องไปในอีกสองสามปีข้างหน้า หากเรามองลึกลงไป เราก็ไม่มีความจำเป็นต้องหวงแหน ใฝ่หาสองสามปีนั้น ซึ่งอาจเป็นยุคที่เจ็บปวด ยุคที่สมองเริ่มเสื่อม ไม่รู้สึกตัว หรือรู้สึกตัว แต่ไม่สมบูรณ์อีกแล้ว

กาลเวลาอันสมควร เป็นนามธรรม แต่ทว่า มันสามารถรู้สึกได้

อยู่ที่เราจะยอมรับหรือไม่เท่านั้น

แต่อย่างที่ฉันบอก นี่ไม่ใช่การบังคับ หากมีคนที่อยากอยู่ต่อให้นานที่สุด หวงชีวิตเหลือเกิน แม้ขอให้มีชีวิตต่ออีกสักวันก็เอา ก็เป็นสิทธิของเขา เขาอาจเห็นว่า ความทุกข์เป็นสิ่งน่าสนใจ น่าศึกษา

คนที่หัวใจแหลกสลาย คนกลุ่มนี้จะมีปัญหาหน่อย เพราะว่า หากหัวใจของเขาแหลกสลายแล้ว เขาอาจจะทนรอคอยไม่ได้ เพราะขั้นตอนของการได้รับสิทธิฆ่าตัวตายนั้น แม้จะรวดเร็วปานใด ก็ต้องกินเวลาอยู่บ้าง เช่น อาจต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์

หนึ่งสัปดาห์ ไม่นานเลย

ขั้นตอนในการเดินเรื่อง ในการผ่านการสัมภาษณ์ การตรวจร่างกาย การหาพยาน การพูดคุยของญาติมิตร ฯลฯ แน่ละ คนที่เดินเข้ามาขอสิทธิในการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่จะได้ในพริบตา ไม่ใช่ได้ในสิบนาที

แต่ขั้นตอนเหล่านั้น ก็ต้องไม่นานจนเกินไป และท้ายที่สุด เราจะถือว่า ทุกชีวิตมีสิทธิในการตาย หากเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว จะมีเหตุผลหรือไร้เหตุผลก็ช่าง แต่การพูดคุย การสัมภาษณ์ ก็ยังจำเป็น เพราะคนบางคน ที่จริงยังไม่อยากตาย

แต่หากเขาอยากตายจริงๆ เขาก็มีเหตุผลเพียงพอแล้ว แม้ว่าคนอื่นจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม

นี้คือความลึกซึ้งของสิทธิในการตาย

คนที่หัวใจแหลกสลาย จะมีสติ ต้องการเหตุผล อย่างนั้นหรือ พวกเขาอาจไม่มีความอดทนอย่างนั้น พวกเขาต้องการตายในทันที ถ้าเช่นนั้น สิทธิในการฆ่าตัวตายก็ช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้ พวกเขาอาจจะกระโดดตึกตายในวินาทีนี้

คนเราที่จะฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่จะผ่านกระบวนการอยากตายก่อน ก่อนจะสิ้นหวังร้อยเปอร์เซ็นต์ น่าจะสิ้นหวังเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ก่อน ในห้วงเวลานั้น ที่พวกเขาน่าจะใช้สิทธิในการฆ่าตัวตาย

สิทธินี้ดี เพราะไม่เช่นนั้น พวกเขาก็อาจจะฆ่าตัวตายเอง ซึ่งหากมนุษย์เราจะทำจริง ก็ไม่มีใครห้ามได้ เพียงแต่มันเป็นความตายที่น่าทุเรศ และสร้างปัญหาให้คนอื่น

การกระโดดน้ำตาย ผูกคอตาย กระโดดตึกตาย นอนให้รถไฟทับ กระโดดให้จระเข้กิน โดดให้เสือกิน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความตายที่น่าสมเพช

ผิดกับการใช้สิทธิในการฆ่าตัวตาย มนุษย์จะตายอย่างไม่ทรมาน อาจจะใช้ยาเพียงหนึ่งเข็ม หรือสองเข็ม แต่ไม่เจ็บปวด และเมื่อตายแล้ว รัฐจะจัดการศพของเขาให้ด้วย หากเขาไร้ญาติมิตร เขาจะตายในห้องนอนที่สะอาด สวยงาม และมีเสียงดนตรีไพเราะ

เขาจะเลือกตายในวันเวลาที่เขาเห็นควร

ฉันถามตัวเอง ว่าฉันมีความเห็นเช่นนี้ เพราะทุกวันนี้ประชากรกำลังล้นโลกหรือ คำตอบคือไม่ใช่ เพราะแม้ประชากรของโลกจะมีน้อย ฉันก็ยังเห็นว่า มนุษย์ควรมีสิทธิในการตาย สิ่งนี้ควรจัดเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์

มันมีผลต่างต่อจิตของเรา เราจะมีชีวิตที่สงบนิ่งขึ้น และวางแผนการได้ดีขึ้น คือเราจะรู้ตัว

เพราะหากมนุษย์มีสิทธิในการฆ่าตัวตายจริง ต่อให้ได้รับความนิยม มีคนใช้สิทธินี้เป็นแสน ก็ไม่สะเทือนจำนวนประชากรของโลกอยู่ดี แต่ทำให้ชีวิตไม่ติดยึดกับชีวิตมากเกินไป

๑๐

แต่คำสอนโบราณ ที่ฉันเองก็ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ก็ยังมีอยู่ ในวูบที่ฉันต้องตัดสินใจว่าจะไปละ มันมีอาการเสียววูบ มีความหวาดหวั่น เพราะฉันกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในป่า ที่บรรพบุรุษของฉันสอนฉันมาตลอด ว่ามีอสุรกาย อารมณ์นี้ต้องเกิดขึ้นแน่ เด็กรุ่นหลังที่เกิดในยุคสมัยที่มีอีกค่านิยมหนึ่ง อาจไม่มีความรู้สึกนี้ แต่ฉันยังมี

แต่หากคนที่ฆ่าตัวตาย ต้องตกนรกขุมที่ลึกที่สุดจริง ก็ไม่เป็นไร ฉันจะไปรวมแก๊งกับโสกราติส