เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 14 ที่ร้องคัฟเวอร์เพลงลงยูทูบ ก่อนจะเดินสายเข้ารับการแคสติ้งเพื่อคัดเลือกตัวถ่ายทำงานโฆษณา และการเดินแบบ ก่อนมุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์ จะเป็นที่รู้จักไปทั่วกับงานแสดงในซีรี่ส์ดัง “Ugly Duckling รักนะเป็ดโง่”

มุกซึ่งเข้าวงการมาได้ราว 5 ปี บอกว่าเธอรู้สึกสนุกและมีความสุขกับงานที่ทำมาตลอด

รวมถึงเรื่องล่าสุดที่กำลังออกอากาศ “มารร้ายคู่หมายรัก” ที่กำลังแพร่ภาพทางช่องวัน

โดยเรื่องนี้ตัวละครที่เธอรับจะโตขึ้นและสู้คนมากขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆ

ทั้งนี้ กับบท “กล้วย” ใน “มารร้ายฯ” ที่เธอสวมบทเป็นดาราคนดังที่รู้สึกเกลียดแรกพบ ตั้งแต่ได้สบตาคุณหมอสุดหล่อ เป็นบทที่มุกบอกว่า “ยากค่ะ”

“เพราะต้องเล่นเป็นดาราที่เกินกว่ามุก วรนิษฐ์เป็น” ว่าพลางหัวเราะ

ตอนเล่นจึงนึกถึงนักแสดงรุ่นพี่ๆ ที่น่าจะเจอเรื่องเครียดๆ จากข่าวมามาก จึงต้องระมัดระวังตัวมาก มาปรับใช้ในการแสดง

เรื่องของข่าวที่เหล่าดารารุ่นพี่ๆ เจอนั้น ในชีวิตจริงเธอใช่จะรอด อย่างล่าสุดก็เรื่องถูกจับตาว่า ขณะที่พ่อป่วยหนัก ทำไมเธอกลับไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อน

ซึ่งมุกเล่าว่า พ่อป่วยเป็นเบาหวานมานาน ภายหลังยังพบว่ามีอาการเส้นเลือดหัวใจตีบและตัน ซึ่งเธอและคนอื่นในครอบครัวพยายามดูแลอย่างดีมาตลอด

พอเจอคอมเมนต์แบบนี้เข้าจึงรู้สึกแย่ อธิบายเพิ่มด้วยว่า ตอนถูกตำหนินั้น พ่อรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูจริง แต่การเข้าเยี่ยมทำได้ราวๆ 5 นาที ช่วงเช้าครั้งหนึ่งและช่วงเย็นครั้งหนึ่ง

ซึ่งแน่นอนในห้วงเวลานั้นทุกคนรู้สึกเครียด หากก็ต้องพยายามหาวิธีสร้างความสุขเพื่อผ่อนคลาย

แล้วก็กลายเป็นเหตุให้โดนตำหนิ

“เราไม่สามารถอยู่ห้องไอซียูกับคุณพ่อได้อยู่แล้ว และพ่อก็อยู่ในมือคุณหมอ เราไม่ควรพากันดาวน์ลงไปอย่างนี้ และคุณพ่อก็ต้องอยากให้เราแฮปปี้” มุกบอก

บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้พอมีข่าว เธอจะเก็บความเครียดไว้กับตัวคนเดียว มาช่วงหลังๆ นี่ละ แต่เปิดความรู้สึกสู่ภายนอก บอกว่าไม่โอเค ผ่านช่องทางต่างๆ ที่มีอยู่ ทำให้พบว่ามีคนเข้าใจและให้กำลังใจเต็มไปหมด

ขณะเดียวกันก็ทำให้ได้อ้อมกอดของครอบครัว ซึ่งช่วยเพิ่มพลังให้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นจากพ่อ แม่ และเมฆ จิรกิตติ์ พี่ชาย ที่มีคนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นแฟน

สําหรับแฟนตัวจริง มุกที่แม้จะยอมรับว่าเป็นคนขี้เหงา แต่ในวัย 22 ปีวันนี้ก็ยังไม่มีใคร แม้ตอนเด็กๆ คิดจะแต่งงานตอนอายุ 25 เพราะไม่อยากเจอปัญหาเหมือนแม่ที่แต่งตอนอายุ 30 แล้วประสบปัญหามีลูกยากก็เถอะ แถมยังว่ายิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ เธอก็ยังคิดเยอะมากขึ้นไปเท่านั้นในเรื่องของความสัมพันธ์ต่างๆ

“จึงยิ่งยากที่จะหาใครมาแมตช์กับเรา”

มุกซึ่งปกติเป็นคนเปิดเผย พูดคุยเก่ง เข้ากับคนง่าย บอกด้วยว่าลึกๆ แล้วเธอไม่ชอบให้ใครมาจีบ

“ไม่ชอบเลย คืออย่างน้อยต้องเป็นเพื่อนกัน เคยทำงานด้วยกัน หรือต้องรู้จักกัน”

ด้วยเชื่อว่า คนเราต้องรู้จักกันก่อน ถึงจะชอบกันได้

“ไม่ใช่ชอบกันที่ภายนอก”

ทุกวันนี้นอกจากงานแสดง มุกยังทำธุรกิจหลายอย่าง ไมว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า SOS ที่มีอยู่ 9 สาขา กับ SENSE ที่ย่านสยามสแควร์

นอกจากนั้นยังมีร้านกาแฟ 1416 memo cafe ที่เอกมัย มีโรงเรียนสอนภาษาแอทคิงสตั้นtm อีก 2 สาขา

ซึ่งแน่นอนว่าเป็นงานที่หนัก แต่เธอมีความสุขมาก เนื่องจากสามารถมีรายได้มาให้ครอบครัว ครอบครัวที่มีแผนจะซื้อบ้านใหม่ 1 หลัง คอนโดมิเนียมอีก 2 แห่ง และรถอีก 2 คัน

“มีหลายอย่างมากที่เราซื้อ แล้วคนถามว่าเอาเงินมาจากไหน ดาราคนอื่นยังไม่เว่อร์วังขนาดนี้ มีใครเลี้ยง นั่นแล้วแต่ความคิดของคุณ แต่สำหรับมุก มุกไม่มีแบรนด์เนมเลยสักอย่าง มุกไม่ได้ว่าคนที่มีนะ เพราะคนชอบกระเป๋าเขาก็ซื้อกระเป๋า แต่เราชอบบ้าน ชอบรถ เลยเอาเงินทั้งหมดไปไว้ตรงนั้น”

แม้จะมีงานแสดง มีธุรกิจ และมีเงินแล้วขนาดนี้ หากมุกซึ่งกำลังเรียนชั้นปีที่ 5 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กลับว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งเลยสักนิด ที่คิดและยึดมั่นมีเพียงความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

“คิดว่ามันก็เป็นโชคด้วย แต่โชคคงช่วยได้ไม่กี่ครั้งในชีวิต ทุกอย่างได้ด้วยความพยายาม”

จริงๆ