จตุพร จี้ รัฐบาลต้องชัดเจน จะเป็นผู้เล่นหรือกรรมการ อย่าเล่นควบ จะสร้างวิกฤต

“จตุพร” บอก รบ. ต้องชัดเจน เล่นการเมือง หรือ เป็นกรรมการ อย่าเล่นควบ จะเกิดวิกฤต แนะศึกษา ประวัติศาสตร์การเมือง รบ.ไหนใช้อำนาจ จะแพ้เลือกตั้ง เผยวาทะ “แม้ว-บิ๊กป้อม” แลกคนละหมัด ถือว่าจบ วอนสร้างบรรยากาศที่ดี

เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึง การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร ว่าถือเป็นปรากฏการณ์ทางการเมือง ในฐานะตนเคยเป็นนักการเมืองมาก่อน มองว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรหรือพรรคการเมืองใดก็ตามเป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่งเท่านั้น แต่ต้องให้ทุกพรรคการเมืองเดินเหมือนกัน ก็น่าจะจบ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่กันไป ไม่มีอะไรน่ากลัวอะไร

เมื่อถามว่า ความเป็นปึกแผ่นของพรรคเพื่อไทยหลังโดนพลังดูด นายจตุพร กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในสถานะเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยเพราะกฎหมายห้ามไว้แต่มองว่ายังไม่ใช่เวลารณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แล้วเชื่อว่าประชาชนมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว และทั้งหมดก็ควรเคารพการตัดสินใจของประชาชน เมื่อถึงเวลารณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประชาชนก็จะเป็นคนตัดสินเองอยากให้ฟังความกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ชอบและไม่ชอบ ปรากฏการณ์ทางการเมืองถ้าใครเห็นไม่มีอะไรน่าวิตกเป็นเพียงภาพมายาที่อาจจะเขย่าขวัญสำหรับคนที่ตกใจแต่คนในแวดวงการเมืองจะมองเป็นเรื่องปกติ ถือเป็นสีสันทางการเมือง

นายจตุพร กล่าวว่า ในส่วนของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ก็ยังสับสนว่าพรรคการเมืองจะฟัง กกต. หรือต้องฟังองค์กรอื่นและมีการแสดงความคิดเห็นแทน กกต. ส่วนตัวเห็นว่าคนที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการต้องไม่ทำหน้าที่เป็นผู้เล่น หากกรรมการเป็นผู้ยิงประตูด้วยบ้านเมืองจะยุ่งในวันข้างหน้า ดังนั้นถ้าปรารถนาจะเป็นผู้เล่น ต้องลาออกจากการเป็นกรรมการ อย่าบอกว่าตัวเองเป็นกรรมการควบตำแหน่งผู้เล่น เพราะจะสร้างวิกฤติชาติ อย่างไรก็ตามอยากให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์การเมือง ว่ารัฐบาลรักษาการใดใช้อำนาจมากในเวลาเลือกตั้งแพ้ทุกครั้งไปเพราะฉะนั้นรัฐบาลที่ฉลาดจะไม่ใช้อำนาจระหว่างหาเสียงเลือกตั้งเพราะคนไทยเป็นคนดื้อเงียบยิ่งไปกดขี่ก็จะคิดต่อสู้แต่ไม่แสดงออก

นายจตุพร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกกังวลกรณีที่รัฐบาลลงพื้นที่ในพื้นที่ที่กลุ่มสามมิตรเคยไปมาก่อน เพราะรัฐบาลทำหน้าที่ของรัฐบาล แต่วันหนึ่งเมื่อกลายเป็นผู้เล่น รัฐบาลจะเสียความชอบธรรม ส่วนกลุ่มสามมิตรถือเป็นสีสัน เป็นปรากฏการณ์ทางการเมือง

นายจตุพร กล่าวถึงการโต้ตอบระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ถือว่าหายกันแลกกันคนละหมัด แฟร์ๆกัน เมื่อพล.อ.ประวิตร พูดถึง อดีตนายกทักษิณ ท่านก็ต้องพูดถึง พล.อ.ประวิตร คนละหมัดถือว่าจบกันไปลูกผู้ชายทั้งนั้น ก็เหลือแต่กองเชียร์ แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศทางการเมืองทุกฝ่ายควรจะอดทนและเสียสละความรู้สึกส่วนตัวและให้ประเทศเดินสู่การเลือกตั้งให้ได้ เมื่อการเลือกตั้งถูกตั้งเงื่อนไขด้วยความสงบ ว่าถ้าไม่มีความสงบจะไม่มีการเลือกตั้ง ดังนั้นคนที่ต้องการเลือกตั้งต้องอดทนและเสียสละเพื่อให้เกิดความสงบ อะไรที่ทำให้เกิดความไม่สงบก็ต้องละเว้น