ผบก.ปปป.เผยเอาผิด 7 จนท.กรมศุลฯ-สรรพสามิตรับรองเอกสารเท็จโกงภาษีน้ำมัน

เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เป็นประธานการประชุมแผนปราบโกงภาษีน้ำมัน ประชุมร่วมกับ 7 หน่วยงานทั้ง ป.ป.ช.,ปปท., ปปง., สตง. กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร และ กองทัพภาคที่1 เพื่อประชุมวางแผนในการปราบปรามการโกงภาษีน้ำมัน หลังพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็นกระทำความผิดด้วย ทำให้ประเทศเสียหายหลักล้านบาท

พล.ต.ต.กมล เปิดเผย การสืบสวนของชุดปราบปรามการดระทำผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิง (ปนม.ตร.)พบว่าบริษัทซีผู้ค้าน้ำมันแห่งหนึ่ง ทำเรื่องขอซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมันตามมาตรา7 ที่มีสิทธิ์ขอยกเว้นหรือคืนภาษีตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต2560 ในจังหวัดชลบุรี อ้างว่านำไปขายต่อให้ บริษัทเวียงมิง ในประเทศเมียนมา จากนั้นบริษัทซีผู้ค้ามอบหมายให้บริษัทขนส่งไปรับน้ำมัน ที่โรงกลั่นเพื่อขนไปส่งที่ชายแดนเมียนมา จังหวัดตาก แต่บริษัทขนส่งกลับแวะขายให้ปั๊มน้ำมันที่จังหวัดพิษณุโลกจำนวน 32,000 ลิตร ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ส่วนน้ำมันที่เหลือ ก็ส่งให้ชายแดนอำเภอเเม่สอด การสืบสวนพบทำมาแล้ว 36 ครั้ง แต่พบหลักฐานยืนยันการกระทำผิด 10 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท เบื้องต้นมีผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีไปแล้วไปแล้วกับผู้ต้องหา4ราย ศาลได้ตัดสินตามความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ร่วมกันลักลอบขายสินค้าที่ยังไม่ได้เสียภาษี ในพ.ศ.2557

แต่ขณะที่การสืบสวนพบว่าในขั้นตอนการทำเอกสารต้องมีใบรับรองบันทึกร่วมตรวจก่อนนำน้ำมันออกจากโรงกลั่น รวมทั้งรับรองว่าน้ำมันถูกส่งออกครบจำนวน โดยต้องมีเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต และศุลกากร ลงนามรับรอง ชุดสืบสวนจึงเชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่อาจมีส่วนรู้เห็น และจากเอกสารทั้ง10เที่ยวที่พบความผิดมีเจ้าหน้าที่ลงนาม ชุดปนม.ตร.จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดข้าราชการที่ ปปป. เมื่อวันที่ 17 กันยายน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รัฐที่ลงนามใบรับรองจำนวน10ครั้ง แบ่งเป็น กรมสรรพสามิต 3 คน เจ้าหน้าที่ศุลกากร 4 คน ซึ่งทาง ปปป.จะสอบสวนมาทั้งหมดจะเข้าข่ายความผิด มาตรา 162 เป็นการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จและ ความผิดมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือไม่ โดยหลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 6 จุด ทั่วประเทศ ในวันที่ 29 กันยายนต่อไป