วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย / เสถียร จันทิมาธร/กลยุทธ์ ล่อเสือจากถ้ำ (155)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย / เสถียร จันทิมาธร

กลยุทธ์ ล่อเสือจากถ้ำ (155)

ข้อเสนอของจิวแป๊ะทงสร้างความประหลาดใจให้กับเอี้ยก่วยเป็นอย่างสูง เหตุผลมิได้มีอะไรสลับซับซ้อน เป็นเรื่องที่สามารถคาดเดาได้อยู่แล้ว
นั่นก็คือ
“เฮียตี๋อันประเสริฐ เราไหนเลยคาดเอาเพลงฝ่ามือที่หลงเหลืออีก 13 ท่าได้ ขอให้เจ้าแสดงเมตตาจิต ทำบุญ สร้างกุศล บ่งบอกให้เราฟัง เจ้าต้องการร่ำเรียนวิชาฝีมือใดเรายินดีสอนให้แก่เจ้า”
เพียงแต่อยากรู้ เพียงแต่อยากเข้าใจ
“ท่านต้องการร่ำเรียนเพลงฝ่ามือของข้าพเจ้าชุดนี้ก็ไม่ยากเย็น ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้ท่านสอนวิชาฝีมือให้ เพียงแต่หลังจากที่ท่านเรียนรู้ต้องติดตามข้าพเจ้าไปพบกับเอ็งโกวสักครา”
“ต่อให้เจ้าตัดศีรษะเรา เราก็ไม่ขอพบนาง” เป็นความเด็ดขาดจากจิวแป๊ะทง
“อย่างนั้นผู้เยาว์ขออำลา”
ยังมิทันที่เอี้ยก่วยจะขยับขับเคลื่อนจากไป จิวแป๊ะทงไขว้สลับ 2 มือกระโดดปราดออกไปขวางทาง จากนั้นต่อยหมัดออก
พร้อมกับยิ้มประจบกับกล่าว “เฮียตี๋อันประเสริฐ เจ้าร่ายรำกระบวนท่าออกเถอะ”
เด่นชัดว่าจิวแป๊ะทงไม่ต้องการไปพบเอ็งโกว เพียงแต่ต้องการรู้วิชาฝีมือเพื่อสนองตัณหาลึกๆ ของตนเอง

เอี้ยก่วยยกมือปัดป่ายใช้ออกด้วยวิชาฝีมือสำนักช้วนจิน จิวแป๊ะทงพลิกแพลงเพลงหมัดติดต่อกัน เอี้ยก่วยก็ยังคงใช้เพลงฝ่ามือสำนักช้วนจินอยู่ ประสานกับวิชาฝีมืออันบันทึกในคัมภีร์นพยม
ในความนึกคิดของเอี้ยก่วย
“หากคิดโค่นจิวแป๊ะทงให้พ่ายแพ้ ความจริงไม่ง่ายดาย แต่หากคิดป้องกันตัวเฒ่าทารกก็มิอาจทำอย่างไรเราได้”
ไม่ว่าเฒ่าทารกจิวแป๊ะทงจงใจเผยพิรุธอย่างไร จงใจแสดงความอ่อนแอเพียงไหน เอี้ยก่วยยังคงไม่หลงกล ไม่ยอมสำแดงกระบวนท่าใหม่ในเพลงฝ่ามือ “กำสรดวิญญาณสลาย” ออก บางครั้งครากลับดัดแปลงกระบวนท่า “เนื้อเต้นใจสะท้าน”, “วิตกทุกข์ร้อนเกินเหตุ”, “เสกสรรปั้นเรื่องราว”, “ยืดเย้อชวนรำคาญ” ใช้ออก
ยิ่งทำให้จิวแป๊ะทงคันที่หัวใจเพราะยากที่จะเกา
ทั้ง 2 ต่อสู้กับเกือบครึ่งชั่วยาม จิวแป๊ะทงจะอย่างไรอายุสูงวัย เลือดลมเสื่อมโทรมอย่างแช่มช้า กำลังภายในไม่เทียบเท่ากับตอนแรกที่ต่อสู้ ทราบว่ายากที่จะหลอกล่อให้เอี้ยก่วยใช้ “เพลงฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย” ออกอีก
พลันผลัก 2 มือ หยิบยืมพลังพุ่งถอยไปด้านหลังพลางกล่าว
“แล้วกันไปเถอะ เราขอโขกศีรษะคำนับเจ้า 8 ครั้ง กราบเจ้าเป็นอาจารย์ เจ้าคงยินยอมสอนให้แก่เราแล้วกระมั้ง เอี้ยก่วยซือแป๋ ศิษย์จิวแป๊ะทงขอคำนับ”
กล่าวพลางคุกเข่าลง

เห็นเช่นนั้นเอี้ยก่วยลอบหัวร่อในใจ คิดไม่ถึงว่าในโลกนี้กลับมีคนงมงายวิชาฝีมือถึงเพียงนี้ รีบยื่นมือประคองเฒ่าทารกจิวแป๊ะทงขึ้นอย่างอ่อนโยน
“ที่ไหนเลยกล้ารับได้”
จากนั้นจึงกล่าว “ชื่อของ 13 กระบวนท่าที่เหลือใน ‘ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย’ ข้าพเจ้าสามารถบอกต่อท่าน”
สร้างความยินดีให้กับจิวแป๊ะทงอย่างยิ่งยวด
“เฮียตี๋อันประเสริฐ เฮียตี๋อันประเสริฐ” เปล่งคำยกย่องออกมาอย่างสุดหัวใจให้กับเอี้ยก่วย ณ เบื้องหน้า
แม้ก๊วยเซียงจะทักท้วง “ท่านอย่าได้สอนแก่เขา”
แต่เอี้ยก่วยทราบดีว่า จิวแป๊ะทงเป็น “ผู้งมงายวิชาบู๊” ยิ่งหากได้ยินชื่อกระบวนท่าทั้ง 13 กระบวนท่า ยิ่งไม่สามารถต่อต้านขัดขืน ต้องรบเร้าให้สำแดงกระบวนท่าออกมา ดังนั้น ยิ้มเล็กน้อยกล่าวกับก๊วยเซียงออกมาว่า
“เพียงรับฟังชื่อกระบวนท่า หาเป็นไรไม่”
“ใช่แล้ว เพียงรับฟังชื่อกระบวนท่า หาเป็นไรไม่” จิวแป๊ะทงทวนคำของเอี้ยก่วย “โกวเนี้ยน้อยใจคับแคบนัก”
หารู้ไม่ว่าเอี้ยก่วยกำลังขุดบ่อล่อให้ปลาจิวแป๊ะทงหลงเข้าไป

การสัประยุทธ์ระหว่างเอี้ยก่วยกับจิวแป๊ะทงมิได้เป็นการสัประยุทธ์ระหว่างปกปักษ์ ที่ต้องการเอาชนะ ที่ต้องการพิฆาตเข่นฆ่าระหว่างกัน
ตรงกันข้าม เป็นการสัประยุทธ์ระหว่างมิตร
อย่าว่าแต่เอี้ยก่วยมีจิตใจรักชอบพอกับจิวแป๊ะทงอยู่แล้วโดยพื้นฐาน แม้กระทั่งเอ็งโกวก็มีจิตใจรักชอบพอกับจิวแป๊ะทงอย่างแนบแน่นยาวนาน เพียงแต่จิวแป๊ะทงรู้ว่าตนเองไม่ถูกต้องจึงหลบลี้หนีหน้าเท่านั้นเอง
ความขัดแย้งครั้งนี้จึงเป็นความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ระหว่างพวกฝ่ายเดียวกัน