มองบ้านมองเมือง/ ปริญญา ตรีน้อยใส/ที่พักแรม

มองบ้านมองเมือง  / ปริญญา ตรีน้อยใส

ที่พักแรม

พาไปมองทอสคานีต่อเนื่องมาหลายฉบับ แต่ก็ยังมีเรื่องให้มองอีก ฉบับนี้จะพาไปมองที่พักแรม ที่ไม่ใช่โรงแรมอย่างที่พบเห็นทั่วไป
คงเป็นเพราะกระแสการท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ ที่ชมชอบกับความเป็นอิสระ ไม่อยากมีเพื่อนร่วมเดินทางมากมายหลายสิบคน ไม่อยากมีตารางเวลาท่องเที่ยวแน่นอนและซ้ำซาก โดยเฉพาะการปลุกในตอนเช้าตรู่ รับประทานทานอาหารเช้าอย่างรีบเร่ง เพื่อจะออกเดินทางให้ได้ตามเวลา ไม่อยากรับประทานอาหารจีนหรืออาหารพื้นถิ่นที่ไร้รสชาติและรายการอาหารซ้ำกันทุกวัน
คงเป็นเพราะเทคโนโลยีการสื่อสาร และอภิมหาคลังข้อมูล ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวแบบอิสระ ไร้มัคคุเทศก์และบริษัทท่องเที่ยว ทำได้ง่ายขึ้น บริการรถเช่าหลากหลายรูปแบบ ราคา และขนาดรถ ข้อมูล เส้นทาง ป้ายสัญญาณ เป็นสากลรับรู้ได้ง่าย แผนที่ของกูเกิล และระบบนำทาง GPS ทำให้ไปได้ทุกจุดหมาย แม้ไม่คุ้นทาง โดยไม่ต้องถามใคร มีแอพพ์ให้ค้นหารายการอาหารและร้านอาหารยอดนิยม
การจองที่พักผ่าน AIRBNB เอื้อให้เลือกทำเล ราคา และสภาพห้องพักได้ตามใจ
การท่องเที่ยวทอสคานาคราวนี้ ขอให้คนรุ่นใหม่จัดการ นอกจากจะสนุกสนานตื่นเต้นแล้ว ยังได้ไปมองสถานที่ต่างๆ ที่ไม่เคยเยือนมาก่อน
และได้ประสบการณ์ใหม่มากมาย โดยเฉพาะที่พักแรม

คืนแรก ที่พักแรมเป็นบ้านริมผา อยู่ในหมู่บ้านมรดกโลก มานาโรลา Manalora ห้องพักชั้นบนสุดที่เจ้าของแบ่งให้เช่า จึงมองข้ามหลังคาบ้านหลังอื่น เห็นภาพมุมกว้าง ทั้งทะเล หุบเขา และหมู่บ้าน
ตอนที่เดินทางไปถึง ก็แค่แวะไปร้านสะดวกซื้อเล็กๆ ประจำหมู่บ้าน แจ้งเรื่องการเข้าพัก ทุกอย่างก็เรียบร้อย มีคนพาไปเปิดห้องพัก ที่ต้องปีนบันไดหลายขั้นหลายตอนกว่าจะถึง
ห้องที่พักมีสองห้องนอน ครัวที่รวมโต๊ะรับประทานอาหาร โถงพักผ่อน และเฉลียงดาดฟ้า แต่ละห้องมีระเบียงเล็กๆ ให้ออกไปชื่นชมธรรมชาติและหมู่บ้าน
สภาพห้อง เตียงนอน สิ่งตกแต่ง ล้วนเป็นแบบบ้านๆ ฝรั่ง ไม่หรูหราแต่ก็สวยงาม ไม่ครบครันแต่ก็สะดวกสบาย
ที่สำคัญบรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีเครื่องครัว เตาไฟ และถ้วยชามพร้อม
การปรุงอาหารเช้า อาหารว่าง และอาหารดึก จึงทำได้ตลอดเวลา
ถ้าไปพักหลายวัน คงมีการจ่ายตลาด ซื้อพืชผักผลไม้มาปรุงให้ถูกปาก ถูกใจ สนุกสนาน และประหยัดเงินในกระเป๋า
เข้าใจว่า เจ้าของบ้านคงพักอยู่ชั้นล่างๆ เพียงแค่ยกชั้นบนสุด วิวสวยสุด ให้พักค้างแรม
ผู้เขียนเลยรู้สึกอุ่นใจ แม้อยู่ไกลบ้าน แต่รู้ว่าถ้ามีปัญหาใดๆ คงมีคนช่วยแน่นอน

คืนที่สอง ยิ่งสนุก เพราะได้นอนบ้านชาวนาอิตาเลียน ที่สร้างอยู่โดดเดี่ยวและโดดเด่นกลางทุ่ง
แม้จะอยู่ไกลจากหมู่บ้าน แต่ก็หาได้ไม่ยาก เพราะจะไปไหนก็เห็นบ้านหลังนี้
ตอนไปถึงไม่พบใคร ต้องใช้โทรศัพท์ตามหาเจ้าของ ที่กำลังทำนาอยู่กลางทุ่ง
ตัวบ้านหลังใหญ่ แบบชนบทอิตาเลียน แบ่งเป็นห้องพักได้ถึงหกห้อง แต่ละห้องประกอบด้วย ห้องนอน ห้องน้ำ ที่นั่งเล่น ที่เตรียมอาหาร และที่รับประทานอาหาร
เจ้าของบ้านไม่ได้อยู่หรือนอนด้วย หากกลับไปนอนในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกล เพียงแค่แวะเวียนมาเวลาที่ผู้เช่าห้องมาถึง และมาเตรียมอาหารเช้าแบบชาวนา ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยนมเนย ขนมปัง ผลไม้ ที่มีอยู่มากมายในพื้นที่
ทุกอย่างสด อร่อยกว่าสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านอาหารในเมือง
สองพี่น้องเจ้าของบ้านขยันขันแข็ง ทั้งดูแลคนพักแรม ทั้งดูแลนาข้าวสาลีของพ่อ ที่กว้างใหญ่กว่าสองร้อยไร่
บ้านพักแห่งนี้สงบเงียบ ปราศจากผู้คน และสวยงาม ไม่ว่าจะมองออกไปหรือมองกลับมา เพราะพื้นที่หมู่บ้าน ซานคิริโก ดอร์ซา San Quirico d’Orcia และบริเวณใกล้เคียงในแคว้นทอสคานา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านภูมิทัศน์วัฒนธรรม

คืนที่สาม ที่พักแรมอยู่นอกเมืองเก่า ซานมิจิญาโน San Migignano ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเช่นกัน ไปครั้งนี้ จึงมีโอกาสชื่นชมความงาม ทั้งจากในเมืองและจากนอกเมือง และทั้งวันทั้งคืน เพราะจากหน้าต่างห้องพัก จะมองเห็นทัศนียภาพเมืองเก่าบนเนินเขาไกลออกไป
ตัวอาคารเป็นบ้านสองชั้นหลังใหญ่ แบ่งกั้นห้องตั้งแต่ชั้นล่าง ชั้นบน และชั้นใต้หลังคา ได้รวมสิบห้อง รอบๆ บ้านเป็นสวนผลไม้ ที่ต่อเนื่องไปกับสวนผลไม้ ไร่องุ่น และนาข้าวสาลี บรรยากาศจึงร่มรื่น สวยงาม
เจ้าของบ้านลงทุนทำสระน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก ที่ดูเป็นเรื่องธรรมดาของพวกเราที่มาจากเมืองร้อน แต่ดูเป็นที่ชื่นชอบยิ่งนักของพวกฝรั่งที่มาจากเมืองหนาว พวกเขาคงอยากแช่น้ำและนอนอาบแดด มองเมืองเก่าให้เต็มตา
เจ้าของสถานที่เป็นคู่ผัวเมียที่ยังหนุ่มและสาว มีลูกสาวตัวเล็กๆ น่ารัก คอยทักทายรับแขก
ฝ่ายชายรับภาระติดต่อ รับลงทะเบียน รวมทั้งขับรถรับส่งและให้ข้อมูลกับผู้มาพัก
ฝ่ายหญิงรับภาระเตรียมอาหารเช้าแบบชาวบ้านอิตาเลียน เหมือนเตรียมให้กับครอบครัว ระหว่างวันก็คอยดูแลลูก ดูแลผู้มาพักไปพร้อมๆ กัน
การพักค้างคืนทั้งสามแห่ง สามรูปแบบ ในหมู่บ้าน กลางทุ่ง และนอกเมืองเก่า แม้บรรยากาศจะแตกต่าง แต่ความสะดวกสบาย ความสวยงามนั้น ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
ทุกแห่งล้วนสร้างความประทับใจ ที่สำคัญ ทำให้เห็นว่าการพักแรมในโรงแรมทั่วไป ที่มีห้องพักจำนวนมาก เรียงรายสองข้างทางเดิน มีรายการอาหารเช้าเหมือนกันทุกแห่ง มีพนักงานบริการหลายคน แต่ทุกคนทำตามหน้าที่ ไร้ความรู้สึกใด
แม้จะได้มาตรฐานอเมริกัน แต่ไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น และไม่ประทับใจ