วิเคราะห์ การขึ้นนำพรรคของหม่อมเต่า ปรากฎการณ์เขย่าเพื่อไทยให้ตกกระดาน! การกลับมาแน่นอนของ พล.ประยุทธ์

อัษฎางค์ วิเคราะห์ การขึ้นนำพรรคของหม่อมเต่า ปรากฎการณ์เขย่าเพื่อไทยให้ตกกระดาน! การกลับมาแน่นอนของ พล.ประยุทธ์ (ที่ไม่แข็งแรง)

“เป็นเพียงพรรคเล็กๆ ธรรมดาแต่มีความจำเป็นต้องตั้ง เป็นการแบ่งอำนาจเพื่อปันผลประโยชน์ ที่ต้องเลือกหม่อมเต่าขึ้นมาเพราะว่าต้องการคนมีประสิทธิภาพในการต่อรองได้”

“Position ที่วางไว้เขาอาจจะเป็นตัวเชื่อม หรือเป็นตัวช่วยในการเจรจาได้ ส่วนที่ไปคิดว่าจะนำภาพเศรษฐกิจ ผมมองว่าแบบหม่อมเต่าโบราณไปแล้ว สู้สมคิด (จาตุศรีพิทักษ์) ไม่ได้หรอก”

รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิเคราะห์ชื่อหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ไม่ได้เหนือความคาดหมาย และไม่ได้เป็นพรรคใหญ่โตอะไร

รศ.อัษฎางค์กล่าวว่า จากรายชื่อกรรมการบริหารพรรค รปช. ที่เปิดออกมา อย่างที่ผมเคยบอกว่าพรรคก็เป็นเพียงแค่พรรคเล็กๆ ธรรมดา ได้ไม่กี่เสียงหรอก ถึงแม้ว่าจะมีสตางค์แต่เขาก็ต้องทำ ไม่ง่ายเลยนะที่จะไปต่อสู้กับพรรคเดิมในภาคใต้”

“ผมอยากท้าให้ กปปส.ทุกคนที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ลองออกมาอยู่ในพรรคนี้ แล้วดูว่าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชหรือสุราษฎร์ธานีเขาจะเลือกประชาธิปัตย์หรือเลือกพรรคนี้ ภาคใต้ยังไงคนก็เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เขาไม่ได้ดูชื่อของสุเทพ เขาดูพรรค แม้ว่าอดีตสุเทพเขาอาจจะเคยบอกว่ามีคนร่วมกับเขาเป็นล้าน แล้วตอนนี้ล่ะ?”

“ณ วันนี้ ผมมองว่าฝ่ายรัฐบาลปัจจุบัน น่าจะรวมเสียงได้ 376 แน่นอน ส่วนคนที่จะเป็นนายกฯ ต้องดูสัญญาณจากแม่ทัพบกและฐานอำนาจเดิมว่าถึงวันนั้นจะยังคิดเหมือนเดิมหรือไม่?”

ปชป.เป็นก๊กที่สาม?

“การเมืองไม่มีหรอกครับก๊กที่สาม ความเป็นไปได้ของคุณสุเทพในการจับมือกับพรรคเก่าของตัวเองที่เดินออกมา มีความเป็นไปได้สูง แต่เหตุที่ยังดูท่าทีเหมือนยังกั๊กอยู่ เพราะว่ากระแสประชาธิปไตยค่อนข้างแรง กลัวลงสนามแล้วจะได้น้อยลง หากพรรคใหญ่อย่างเขาประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์เต็มที่ ก็จะเสียคะแนนไป แต่ยังไงผมเชื่อว่าน่าจะมีโอกาสร่วมกันได้แน่นอน พอเลือกตั้งแล้วก็จะมีข้อตกลงร่วมกัน แม้ท่าทีปัจจุบันยังพยายามวิจารณ์ทหารก็ตาม”

“ฐานของ คสช. เราต้องวิเคราะห์ให้ดีว่าเขาต้องอาศัยคนอื่น การจะได้เสียงมา ก็ต้องอาศัยแนวร่วม ถ้าพรรคไหนไปประกาศออกตัวเร็วก็ไม่ได้ ซึ่งการต่อรองทั้งหมดจะเกิดขึ้นทันทีในคืนเลือกตั้งหลังปิดหีบ”

“และคุณต้องไม่ลืมว่าประชาธิปัตย์คือเครื่องมือเดิมของ คสช. ที่ใช้พิฆาตทักษิณ เขาเป็นพันธมิตรกัน”

ปฏิกิริยาทักษิณยังดูมั่นใจ (ในความกลัว)

“เราคิดว่าเราเป็นทักษิณ ชินวัตร เราลองเอาใจเราไปใส่.0เขา เขากลัวแน่นอน เขาอยากกลับบ้าน เขาต่อสู้อยู่ข้างนอกต้องพยายามทำให้ตัวเองดูมี Power แน่นอน คำว่าพรรคเพื่อไทยยังใช้ได้ในหลายๆ จังหวัด ซึ่งคนเขาพยายามเฝ้าดูว่าเพื่อไทยจะจัดระเบียบตัวเองอย่างไร ทำไมเงียบ อาจเป็นเพราะว่าการถูก คสช.หรือข้อกฎหมายต่างๆ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และตัวเองก็มีคดีความเสี่ยงอยู่ในหลายเรื่อง ในมือมีหลายคดี มีหลายเรื่องที่สามารถถูกเล่นงานได้”

“ยิ่งถ้าทำให้คุณตกจากกระดานการเมืองได้ยิ่งดี แต่อย่าลืมว่าคุณทักษิณเขามีข้อมูล คงมีการรายงานว่าจะได้เก้าอี้ประมาณเท่าไหร่ ทักษิณเองมีบริษัทใหญ่ๆ เยอะ บริษัทเหล่านั้นอาจจะให้มหาวิทยาลัยทำโพลเงียบๆ ก็ได้ ไม่งั้นจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเขามีเยอะ”

“คสช. ก็เช่นกัน ต้องรู้ความเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ ต้องรู้จุดอ่อนของตัวเอง”

ฉะนั้น คุณทักษิณต้องพยายามแสดงออก เช่น เรื่องการดูด ส.ส. (ซึ่งมันมีมานานแล้ว) มันไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ ผมคิดว่าเรื่องนี้จะน่าตกใจก็ต่อเมื่อนักการเมืองดันปฏิเสธขึ้นมา ว่าไม่เอาแล้ว ขอหยุดวงจรอุบาทว์นี้

ถึงวันนั้นจะยังมีพรรคเพื่อไทยหรือไม่? คำให้สัมภาษณ์ที่สั่นสะเทือน!

คําให้สัมภาษณ์หรือคำตอบของหม่อมเต่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ที่ว่าถึงวันนั้น (เลือกตั้ง) จะยังมีพรรคเพื่อไทยหรือไม่? นั่นคือการมองการเมืองจากด้านในของผู้มีอำนาจเป็นวงใน ที่รู้แล้วว่าครั้งนี้จะทำอย่างไรให้พรรคเพื่อไทยตกจากกระดานการเมืองได้ (เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน) อย่าลืมว่าผู้มีอำนาจมีทั้งมาตรา 44 และยังมีข้อหาคดีความที่จ่อพรรคเพื่อไทยทำให้ต้องเงียบ แต่เตรียมตัวให้พร้อม คดีที่ค้างอยู่อีกหลายคดีอาจจะถูกจับมาเล่น ชนิดที่เรียกว่าเอาอยู่หมัด อนาคตใหม่ก็เช่นเดียวกัน อาจจะโดนคล้ายๆ กัน ฝ่ายผู้มีอำนาจเขามองพรรคนี้เป็นพันธมิตรของเพื่อไทย

“ถ้าผมเป็นพรรคเพื่อไทย ก็ต้องรู้แล้วว่าเรามีแผลหรือจุดอ่อนตรงไหน การดำเนินการเคลื่อนไหวที่ทำอยู่ ณ วันนี้ต้องไม่ให้มีใครรู้ เช่น อาจจะมีพรรคพันธมิตรอยู่อีก 3 พรรค ประกอบกับวันนี้พรรคเพื่อไทยเองก็ยังไม่กล้าประกาศตัวหัวหน้าว่าจะเอาใครเป็นผู้นำด้วย”

เหมือน คสช. เหนือกว่าทุกอย่าง แต่ทำไมยังไม่ปล่อยให้เลือกตั้ง?

“การเมืองที่เราจะเห็นจากนี้คือเผด็จการในคราบประชาธิปไตย กลุ่มผู้มีอำนาจไม่ต้องการให้เสียของเหมือน 2549 ก็ไปวางกลไกในรัฐธรรมมนูญ มียุทธศาสตร์ชาติ แต่วันนี้ผู้มีอำนาจยังไม่กล้าที่จะปล่อยมือ เพราะถ้าประกาศวันเลือกตั้ง แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะชนะแน่ๆ หรือเสียงยังได้น้อยไป เมื่อเข้าไปอยู่ในสภา งบประมาณอาจจะไม่ผ่าน การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ฉลุย”

“ทีนี้พอประกาศวันเลือกตั้งไป กระแสมันจะแรงนะ ผมอยากให้จับตาช่วง 60 วันก่อนเลือกตั้งว่าการตัดสินใจของผู้มีอำนาจจะทำอะไรในช่วงนั้น ต้องดูให้ดีว่า ถ้าตัดสินใจแบบหนึ่งจะเกิดผลกระทบอย่างไร ยังจะเอาเปรียบหรือคงความอยุติธรรมในการต่อสู้อีกหรือไม่ ต้องคิดให้ดี”

“พรรคเพื่อไทยหรืออนาคตใหม่ยังไงก็ไม่มีทางได้เป็นรัฐบาลเพราะด้วยกติกาที่เราเห็นๆ อยู่ ฉะนั้น คุณต้องควรคิดเป็นฝ่ายค้านที่แข็งแกร่งและรอโอกาสในครั้งต่อไป คุณต้องชกตั้งแต่ยกแรกที่มีโอกาสในสภา ผมเชื่อว่าทั้งสองพรรคจะมี ส.ส. จำนวนมากพอที่จะเล่นงานได้”

“โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมา ตอนนี้ผมคิดว่าเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่การมาครั้งหน้าเป็นการกลับมาแบบไม่แข็งแรงอย่างแน่นอนในการดำเนินกิจการในระบอบประชาธิปไตย คนที่จะมาร่วมรัฐบาลก็จะเริ่มร้องขอ จัดสรรปันส่วนผลประโยชน์ เขาจะแย่แล้วปวดหัวมากกว่านี้ เพราะนักการเมืองยังไงไม่เปลี่ยน ยังเดินหน้าก็คิดต่อรองทุกเรื่อง”

รศ.อัษฎางค์กล่าวทิ้งท้ายถึง คสช. ว่าแค่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ผมให้สอบตกอย่างมาก เพราะว่าถ้าคุณมีอำนาจขนาดนี้ คุณสามารถพลิกโฉมประเทศไทยได้เลยนะ แค่ทุจริตคอร์รัปชั่นให้ลืมไปได้เลย มีแต่การโฆษณาชวนเชื่อ มันล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง