อัยการส่งฟ้องผู้ชุมนุมอยากเลือกตั้ง 38 ราย ชุด UN62 ชุมนุม 4 ปี คสช.

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี พนักงานอัยการศาลแขวงดุสิตนัดส่งตัวฟ้องผู้ต้องหา กลุ่มผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง ชุด UN62 จำนวน 38 คน ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 ชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต, ผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ, พ.ร.บ.จราจรทางบก และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, 216 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เมื่อสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก จากกรณีผู้ต้องหาเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21-22 พฤษภาคม 2561 เพื่อเรียกร้องการเลือกตั้งและต่อต้าน คสช.เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปี คสช.ที่บริเวณหน้า ม.ธรรมศาสตร์ และหน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

โดยวันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 38 คนเดินทางมาศาลตามนัดในการยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล ทั้งนี้ ทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมดโดยไม่มีหลักทรัพย์ต่อศาลด้วย ศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งหมดโดยไม่มีหลักประกัน โดยศาลนัดตรวจพยานหลักฐานต่อไปในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ เวลา 9.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเเกนนำ ในการชุมนุม อาทิเช่น นายรังสิมันต์ โรม” อายุ 25 ปี , นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว เสรีธิวัฒน์ อายุ 26 ปี กลุ่มนักกิจกรรมนักศึกษา พร้อมพวกซึ่งเป็นแกนนำและผู้ชุมนุม “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” 15 คน ถูกเเยกดำเนินคดี ที่ศาลอาญา ในความผิด ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือ มิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2) (3), ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้าหรือมีหน้าที่สั่งการ ตามมาตรา 215 (1) (3), เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกชุมนุมแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 216 ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3 /2558 ข้อ 12, ร่วมกันเดินขบวนใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันชุมนุมสาธารณะในลักษณะกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงาน หรือ การใช้บริการสถานที่ทำการหน่วยงานของรัฐฯ, ร่วมกันชุมนุมสาธารณะในระหว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุมฯ และร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมฯ โดยไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานที่ดูแล รวมทั้งยุยงส่งเสริมผู้ชุมนุมให้ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ กับขัดขวางหรือกระทำการใดอันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฯ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 8 (1) (3), 15 (2) (4) (5), 16 (1) (4) (7) (9), 19 และความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108 , 114 ซึ่งทั้งหมดได้รับการประกันตัว