ปราบนักพนัน ตำรวจทำยังไง ? ในยุคดิจิตอล

คิกออฟปราบพนันบอลยุคดิจิตอล “บิ๊กอวบ” หัวเรือใหญ่ ป้อง-ปราบทุกมิติ

คิกออฟมหกรรมฟุตบอลโลก 2018 ได้ร่วมสัปดาห์แล้ว ครั้งนี้ “มหาอำนาจโลก” สหพันธรัฐรัสเซีย เป็นเจ้าภาพ ตลอดเดือนนี้ทั้งโลกโฟกัสที่แมตช์กีฬาครั้งใหญ่

ผ่านไป 1 สัปดาห์ บรรยากาศคึกคักทั่วโลก สำหรับการแข่งขันรอบแรก ที่ 32 ชาติลงแข่งขันชิงชัยเป็นตัวแทนกลุ่ม สู่รอบ 16 ทีม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยศูนย์ป้องกันปราบปรามการพนันทายผลฟุตบอลโลก 2018 ที่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ “บิ๊กอวบ” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เป็นแม่งานขับเคลื่อน สยบพนันบอลทั่วประเทศ

บิ๊กอวบเล่าการทำงานของศูนย์ว่า มอบหมายให้ พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดำเนินการในส่วนการตั้งชุดปฏิบัติการส่วนกลาง ทำงานสอดประสานกับชุดปฏิบัติการใหญ่อีก 13 ชุดของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ทำงานให้รุก คือสร้างการรับรู้ป้องกันไม่ให้คนไทยตกเป็นเหยื่อพนันบอล

และที่สำคัญคือป้องกันนักเล่นพนันหน้าใหม่ ขาจร โดยเฉพาะเยาวชน มิให้กระโจนสู่วังวนพนันฟุตบอลในช่วงเทศกาลบอลโลก 2018 นี้ ขณะเดียวกันก็ปราบปรามอย่างเข้มข้น ทั้งโต๊ะบอลและเว็บไซต์ที่เปิดรับพนันฟุตบอล

“นับแต่เปิดศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ระดมกวาดล้างจนถึงปัจจุบัน จับกุมผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 3,352 คน เป็นผู้เล่น 3,123 คน เจ้ามือ 140 คน คนเดินโพย 46 คน ของกลางเงินสด 620,017 บาท มูลค่าเงินในโพย 2,029,736 บาท” รอง ผบ.ตร.กล่าว

และวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บอลโลก 2018 หนนี้การพนันฟุตบอลคึกคักและเพิ่มมากกว่าช่วงการแข่งขันบอลโลก 2014 เมื่อ 4 ปีก่อน โดยชี้ว่า จากสถิติการจับกุมเปรียบเทียบกับช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ผ่านมามีแนวโน้มสูงขึ้น โดยปี 2014 จับกุม 5,064 ราย ทั้งฤดูกาลบอลโลก

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

แต่แค่ช่วงแรกเริ่มของบอลโลก 2018 เพียง 5 วันแรก 14-19 มิถุนายน 2018 จับไปแล้ว 2,092 ราย

หัวเรือใหญ่ศูนย์ปราบพนันทายผลฟุตบอล ตร. ชี้ว่า เปรียบเทียบสถานการณ์เมื่อปี 2014 พบว่า ความเจริญก้าวหน้าทางการสื่อสารมีความเจริญก้าวหน้ากว่า 4 ปีที่ผ่านมา

ปีนี้พนันฟุตบอลโดยเฉพาะบอลโลกปรับรูปแบบไปมาก มีหลายช่องทางสามารถสื่อสารถึงกันได้

โดยเฉพาะทางออนไลน์มีหลายรูปแบบในการติดต่อโดยตรง ติดต่อกันได้แบบไดเร็กต์

ผู้กระทำผิดก็จะใช้ช่องทางเหล่านั้นแอบแฝงเข้ามาชักจูง เชิญชวนให้เข้าเล่นพนันทายผลการแข่งขัน มีการเชิญชวน โฆษณาในรูปแบบต่างๆ ทำให้เห็นว่าจะได้รับเงินจากการเข้าเล่นพนันโดยง่าย

เช่น การให้วงเงินเพิ่มเติมจากที่เปิดบัญชี ซึ่งเป็นการปรับรูปแบบของผู้กระทำผิดเพื่อหลอกลวงผู้เล่นให้เข้าเล่นพนัน

“เมื่อก่อนจะพนันฟุตบอล เปิดเป็นโต๊ะ เป็นร้าน แต่เดี๋ยวนี้เปิดในโลกออนไลน์ เรามีข้อมูลโต๊ะพนันบอลใหญ่ๆ ในประเทศประมาณ 10 โต๊ะ เดี๋ยวนี้เปิดเว็บไซต์ด้วย พอปิดเว็บ ก็เปิดเว็บใหม่ คนเล่นพนันหากหลงไปเล่นก็แทงพนันผ่านโทรศัพท์สมาร์ตโฟนง่ายดาย เราจึงห่วงเด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อ”

“เราพบว่าทั่วโลกมีเป็นแสนเว็บไซต์ แต่ที่เราตรวจพบและคนไทยนิยมมีนับร้อย ตอนนี้ตรวจพบ 154 เว็บไซต์ เสนอกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาปิดกั้น จากนั้นจะส่งกลับมาให้ตำรวจเพื่อเสนอศาลปิดกั้นต่อไป โดยในจำนวน 154 เว็บไซต์นี้ส่วนใหญ่เปิดจากต่างประเทศ”

รอง ผบ.ตร. บอกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตรการในการป้องกันควบคู่การปราบปราม การป้องกันมุ่งเน้นป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยการประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ตัดโอกาสการแอบแฝงกระทำผิดในที่สาธารณะต่างๆ เช่น สถานบริการ ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านอาหารที่มีการถ่ายทอดการแข่งขัน

ส่วนมาตรการปราบปรามได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลทั้งในระดับ ตร. และระดับพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อกวดขันจับกุมผู้กระทำผิด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นมา มีการจับกุมผู้ต้องหากว่า 3 พันราย

“ให้ทุกกองบัญชาการจัดตั้งชุดพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อนการจับกุม และเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับเจ้ามือ นายทุน ซึ่งในกรณีเป็นเครือข่ายรายใหญ่ ให้ขยายผล ประสาน ปปง. ติดตามยึดทรัพย์แบบรวดเร็ว เรียกว่าปิดเกมเร็ว ไม่ให้กลุ่มพวกนี้เคลื่อนไหวไปเปิดโต๊ะได้อีก ตัดแขนขาเลย” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าว

และว่า การปราบพนันฟุตบอลครั้งนี้นำกฎหมายบังคับใช้อย่างจริงจัง ในทุกข้อหาความผิด ทั้ง พ.ร.บ.การพนัน 2478 ซึ่งกำหนดโทษผู้ชักชวน ผู้โฆษณา เช่นเดียวกับเจ้ามือ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาบังคับใช้กับผู้ยินยอมให้เด็กเล่นการพนัน หรือประพฤติตนไม่สมควร ซึ่งรวมทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง คำสั่ง หน.คสช. 46/2559 ซึ่งกำหนดโทษปิดสถานบริการเป็นเวลา 5 ปี ในกรณีที่ปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันในสถานที่ของตน และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 มาดำเนินการยึด อายัดทรัพย์กับเจ้ามือรายใหญ่ที่มีผู้เล่นเกินกว่า 100 คน หรือมูลค่าวงเงินเกินกว่า 10 ล้านบาท

รอง ผบ.ตร. รับกลายๆ ว่า การพนันบอลในไทยปราบไม่หมดซะที เพราะผู้เข้าเล่นพนันส่วนมากจะคิดว่าการพนันเป็นการรวยทางลัด โดยไม่ต้องทำงานหนัก เป็นการ “เสี่ยงโชค” หากโชคดีก็จะได้รับเงินจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริง เจ้ามือเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ กติกา เพื่อให้ฝ่ายตนได้เปรียบผู้เล่น “โชค” จึงไม่มีจริง

ซึ่งหากนำผลประโยชน์ที่ฝ่ายผู้เล่นทุกคนจะต้องเสีย เปรียบเทียบกับส่วนที่ฝ่ายเจ้ามือจะต้องเสีย จะเห็นว่าฝ่ายเจ้ามือเสียประโยชน์น้อยกว่ามาก

ส่วนผู้เล่นเมื่อพิจารณาเฉพาะผลได้-เสียส่วนตน ก็จะถูกผลประโยชน์ที่จะได้รับบดบังส่วนที่ตนต้องเสียไปก่อน ซึ่งหากผู้เล่นได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและเชื่อมั่นว่าความร่ำรวยเกิดจากความขยัน อดออม ก็จะไม่เข้าเล่น เข้าพนัน

หรือเข้าไป “เสี่ยงโชค” แบบนี้

บิ๊กอวบบอกด้วยว่า นอกจากจับตาการพนันฟุตบอลแล้ว ในช่วงเดียวกันก็จับตากลุ่มให้กู้นอกระบบ เจ้าหนี้เงินกู้ทั้งหลาย ที่เคลื่อนไหวในช่วงนี้เป็นวังวนต่อเนื่องกัน คนเล่นพนันไม่มีเงิน ไปกู้ดอกเบี้ยสูง จึงสั่งจับตากลุ่มนี้ที่เชื่อมโยงกัน

และย้ำทิ้งท้ายว่า คาดการณ์ว่าในช่วงรอบแข่งขันลึกๆ คู่สำคัญ จับตาความเคลื่อนไหวของโต๊ะพนันทุกรูปแบบเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าเป็นช่วงที่คึกคัก แม้การปราบโต๊ะพนันบอลไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ยืนยันครั้งนี้ตำรวจเดินหน้าปราบปรามเต็มที่เข้มข้น และย้ำไปยังตำรวจทั่วประเทศห้ามมีนอกมีในรับผลประโยชน์จากกลุ่มพนันเด็ดขาด สั่งตำรวจตรวจสอบกันเอง จับได้ลงโทษหนักทั้งทางอาญาและวินัย

และฝากประชาชนคนไทยขอให้ดูการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างสนุกสนาน เชียร์กีฬา ปลอดพนัน เพราะจะไม่ใช่การ “เสี่ยงโชค” แต่ “เสี่ยงคุก” มากกว่า