รายงานพิเศษ / โชคชัย บุณยะกลัมพ

https://www.facebook.com/ChokCyberAIEntertainment/

 

โรงเรียนของจีน

กำลังทดสอบ AI

ตรวจการบ้านให้คะแนนได้เกือบเท่าครู

 

โรงเรียนในประเทศจีนได้นำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไว้ในห้องเรียนของพวกเขา 1 ใน 4 ของโรงเรียนในประเทศจีนหรือประมาณ 60,000 แห่ง

กำลังทดสอบระบบการเรียนรู้ด้วยเครื่องอัตโนมัติ ซึ่งสามารถให้คะแนนผลงานตรวจการบ้านการทำงานของนักเรียนโดยอัตโนมัติและยังปรับปรุงให้คำแนะนำที่มีความเหมาะสม

นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยแทนที่มนุษย์ครูผู้สอน อาจช่วยลดระยะเวลาของครูในการตรวจเรียงความและช่วยหลีกเลี่ยงความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ในการเอาใจใส่หรือแม้กระทั้งความอคติที่มีต่อนักเรียน

เครื่องปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับระบบ e-rater ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติที่ใช้โดย Education Testing Service ในสหรัฐอเมริกาเพื่อตรวจเรียงความของนักศึกษาระดับปริญญาตรี เพื่อเน้นด้านรูปแบบโครงสร้างและใจความที่ต้องมีการปรับปรุงในอนาคต

แต่มีข้อแตกต่างจาก e-rater ที่สามารถอ่านได้ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ

 

นักปัญญาประดิษฐ์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในประเทศจีน โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและเทคโนโลยีนี้ใช้ในหลายพื้นที่ของชีวิตประจำวัน ทำให้หน่วยงานทุกองค์กรได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้ในปัจจุบัน

ในส่วนของโรงเรียนที่เข้าร่วมในโครงการครั้งนี้ ผู้ปกครองไม่ได้รับแจ้งให้ทราบในการทดสอบ มีแต่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

ผลการทดสอบเป็นไปอย่างเข้มงวดในชั้นเรียน แม้แต่นักเรียนเองก็ไม่ทราบว่ารายงานของพวกเขาได้อ่านและตรวจผลคะแนน โดยใช้เครื่องอัตโนมัติ

Wang Jing ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการของโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดมหาวิทยาลัยเรนมิน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน กล่าวว่า “เรากำลังปฏิบัติการทดสอบ ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก”

การทดสอบที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย ควรเป็นความลับอยู่ในมหาวิทยาลัยเท่านั้น ผลการทดสอบจะไม่มีการถูกเปิดเผยออกไปสู่ภายนอก ซึ่งจะเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างโรงเรียนกับผู้จัดทำของโครงการนี้เท่านั้น

สำนักข่าว South China Morning Post ได้สัมภาษณ์โรงเรียนส่วนใหญ่ ได้แก่ Baita Middle School ใน Nanchang จังหวัดเสฉวน Fifth High School ในเมือง Fuyang Anhui และโรงเรียนมัธยม 58th ในเมือง Qingdao มณฑลซานตง ที่ได้เข้ารับการประเมินด้วยเช่นเดียวกัน

ปัจจุบันมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการทดสอบปัญญาประดิษฐ์ระบบนี้ในประเทศจีนราว 60,000 แห่ง มีผู้คนที่เกี่ยวข้องมากกว่า 120 ล้าน ที่กำลังทดสอบซอฟต์แวร์ AI เพื่อตรวจการบ้านและเรียงความของนักเรียน

ซึ่งจำนวนดังกล่าวคิดเป็นโรงเรียนมากถึง 1 ใน 4 ของโรงเรียนทั่วประเทศจีน

โดยที่นักวิจัยระบุว่าโปรแกรมที่ออกแบบมานี้สามารถให้คะแนนกับนักเรียนได้แม่นยำและเที่ยงตรงเป็นธรรมมากกว่าครูผู้ตรวจ

 

ในขณะที่รัฐบาลจีนอ้างว่า อัลกอริธึ่มได้ออกแบบมาให้คะแนนการบ้านและเรียงความของนักเรียน ไม่ต่างจากครูที่ตรวจคะแนนให้กับนักเรียน 90 กว่าเปอร์เซ็นต์

ซึ่งทางครูของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ได้กล่าวว่าเครื่องวัดระดับ AI นั้นไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่าที่ควร โดยครูได้อ้างถึงตัวอย่างการบ้านและงานเขียนมากมายที่มีการเขียนได้ดีมากนั้น แต่กลับได้คะแนนที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่นักเรียนควรจะได้

แต่ในขณะที่บางโรงเรียนและครูกลุ่มตัวอย่างจำนวนหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่าในหลายกรณีพวกเขาเลือกที่จะกดคะแนนนักเรียนที่เขียนเรียงความได้ในระดับดีเลิศ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการมีอคติและไม่เป็นธรรมต่อนักเรียนในกลุ่มของครูผู้สอน

 

ปัจจุบันซอฟต์แวร์ถูกนำมาใช้เพื่อการทดสอบภายในเท่านั้นและยังไม่มีโรงเรียนใดที่มีแผนที่จะใช้เทคโนโลยี AI นี้ ในการทดสอบการเขียนเรียงความในโรงเรียน เพราะอาจส่งผลต่อประวัติการศึกษาของนักเรียนในอนาคต

“การทดสอบยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น” Wang Jing กล่าว

นักวิจัยโครงการ AI หวังว่าสักวันหนึ่งซอฟต์แวร์เช่นนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในระดับการศึกษาและพัฒนาทักษะการเขียนของนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลของประเทศ ที่ขาดแคลนครูในพื้นที่ถิ่นทุรกันดารได้ และสามารถเข้าถึงมาตรฐานการให้คะแนนที่ถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนตั้งเป้าจะเป็นผู้นำโลกด้าน AI ให้ได้ภายในปี 2030

 

ที่มา https://sg.news.yahoo.com/china-schools-quietly-using-ai-120132188.html