“บิ๊กตู่”พ้อ โซเชียลด่า โต้ผ้าพันคอไม่แพง ประชดคราวหน้าจะพกผ้าขาวม้ามาด้วย

“บิ๊กตู่” แจงแต่งบอยแบรนด์ไม่ได้คำนึงยี่ห้อ แค่ไม่สบาย ประชดคราวหน้าพกผ้าขาวม้ามาด้วย เผยเหตุเมียไม่บินร่วมแพทย์สั่งพัก โวไม่ต้องจัดวันเกิดให้เพราะมีรักให้ทุกวัน ขอบคุณคนไทยในลอนดอนให้กำลังใจ บอกไม่โกรธคนเห็นต่าง ย้ำลต.ก.พ.ปี62 ก่อนลต.ท้องถิ่น 3 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายน ว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 มิถุนายน (ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าเวลาของไทย 6 ชั่วโมง) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พบปะชุมชนไทยในสหราชอาณาจักร โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้พบ ชุมชนไทยในสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ และรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้ง ชื่นชมที่คนไทยที่นี่แม้จะอาศัยห่างไกลจากประเทศไทย แต่มีสายใยความผูกพันต่อกัน ซึ่งการมาเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้ ตั้งใจจะทำประโยชน์ให้กับประเทศ จึงขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แม้จะมีคนบางกลุ่มไม่เห็นด้วย แต่เข้าใจและไม่โกรธ และฝากบอกคนเหล่านั้น ว่าสิ่งที่ตนทำทั้งหมดเพื่อคนไทย การทะเลาะเบาะแว้งกันอาจส่งผลเสียมาถึงประเทศได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลไม่มีใครอยู่นาน ทำงานปีแรกก็ดี แต่พอเข้าปีที่ 2 ก็ไม่ค่อยจะดีแล้ว เพราะต้องเตรียมการเลือกตั้งในครั้งต่อไป นี่คือความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองทำให้ประเทศต้องหยุดชะงักในเรื่องการพัฒนา ซึ่งตรงนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

“ในโลกโซเชียลไม่มีใครชมผม มีแต่ด่า ตอนแรกก็โกรธมากเพราะผมเป็นทหาร ใครว่าแล้วมันกระทบศักดิ์ศรี และเมื่อเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เพราะเหตุผลของผมเอง เพราะไม่มีใครเขาเลือกผมเข้ามา แต่ผมก็ต้องทำ ขอเพียงอย่างเดียวเกียรติยศผมมี เพราะฉะนั้นผมไม่เคยทำความเลวร้ายอย่างที่เขาทำกันมา ดังนั้นอย่ามามองผมเป็นแบบเดียวกัน มันไม่ใช่ แต่วันนี้ก็ทำใจได้แล้ว ผมไม่โกรธแล้ว อย่างเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่เดินทางมาถึงอังกฤษ ผมไม่ค่อยสบาย หนาวๆร้อนๆ รู้สึกร้อนๆหนาวๆ ผมก็ใส่เสื้อไปเดินในสวน ก็กล่าวหาว่า ผมแต่งตัวหล่อเกินไป ทำไมไม่ดูตัวอย่างรองนายกฯและรัฐมนตรีที่มาด้วยแต่งตัวตามสบายไม่เห็นจะต้องเท่ห์แบบผมเลย กลายเป็นอย่างนั้นไป ก็เมื่อผมหนาวของผมถ้าไม่ใส่คงไม่ได้มาเจอกันวันนี้ คงป่วยไปแล้ว ผมก็พันผ้าพันของผม แต่บังเอิญว่ามันมียี่ห้อ แล้วยี่ห้อมันก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร ผมเองก็ไม่ได้ดูยี่ห้ออะไร ผมก็ลืมไป วันหน้าจะเอาผ้าขาวม้ามาด้วย มีคนจับตามองผมแบบนี้ ขณะที่สิ่งที่ผมทำมาทั้งหมดกลับไม่มีอะไร ข่าวกลายเป็นว่านายกรัฐมนตรีแต่งตัวหล่อเกินไป ใช้ของมียี่ห้อทั้งแว่นตาและผ้าพันคอ แต่งานต่างๆทำแทบตาย เหนื่อยเปล่าๆ แบบนี้มันไม่ใช่ เวลาที่มานายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีมาทำงานที่ต่างประเทศมันต้องแสดงอินเทรนด์ ต้องแสดงข้างในออกมาให้ต่างชาติเขารู้ ต้องมีความเท่าทัน ไม่ใช่เขาพูดอะไรมาก็ตอบเยสตลอด หรือส่ายหน้าตลอดเพราะฟังไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องที่น่าอับอายไม่อยากจะพูดว่ามีใครบ้าง วันนี้ต้องชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่กระทรวงซึ่งได้สร้างภาพลักษณ์เราใหม่ในเวทีต่างประเทศ ซึ่งผมบอกไปแล้ว ถ้ากลับมาลอยๆไม่มีรูปธรรมกลับมาก็มีเรื่องแน่ ต้องรายงานผม เราต้องเป็นผู้นำทางพฤตินัยในทุกเวทีโลก เราต้องแสดงความคิด เวลาเขาพูดอะไรมาเราต้องเก็บให้ได้ ผมอาจจะใช้ได้เรื่องการฟัง แต่ในเรื่องของการพูดถ้าจะให้ผมใช้ภาษาอังกฤษ ผมก็คงเหนื่อยตาย ผมต้องแปลเยอะในหัวผม เพราะฉะนั้นผมก็มีล่ามของผม ซึ่งคุ้นเคยเพราะแปลได้ทันและผมก็ฟังว่าเค้าโกหกหรือเปล่า โชคดีที่มีคนเก่งและรักอยู่ในตัวทำงานร่วมกันมาโดยตลอดเหมือนกับ พวกเราที่มาในวันนี้ เป็นกำลังใจให้ผมมาโดยตลอด ยกเว้นพวกที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม (ม็อบต่อต้าน) ที่บอกว่ามีร้อยกว่าคน ซึ่งผมพยายามจะดูและไม่ได้ไปว่าอะไรกับเขาเหล่านั้น แต่พยายามนับแล้วอย่างไรก็ไม่ถึงร้อย แต่สื่อก็ไปเขียนว่ามีคนว่าร้อยคนมาต่อต้าน สื่อชอบสร้างภาพแบบนี้ ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า และต้องขอโทษในอีกเรื่องหนึ่งที่ภรรยาของตนไม่สามารถมาได้ เขาตั้งใจจะมาเก็บของไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ไม่มาเพราะกลัวจะถูกว่าว่ามาจัดงานวันเกิดที่นี่ มาฉลองครบรอบแต่งงานมันไม่ใช่ ตนมาทำงาน “ผมไม่จำเป็นต้องฉลองวันเกิดอะไรให้กับเมียผม ในวันใดทั้งสิ้น เพราะวันสำคัญของเขา ผมให้เขาทุกวันอยู่แล้ว แต่บางครั้งผมก็ลืม เคยลืมวันเกิดเมียอยู่ปีหนึ่ง ยังสงสัยว่าทำไมเขาไม่พูดกับผมเลย สองวันมาแล้ว ยอมรับว่าลืม บางทีเลยต้องอวยพรก่อนถึงวันจริง ก็ยังสงสัยสมองของตัวเองเหมือนกัน อาจเป็นเพราะเขาอยู่ใกล้ชิดกับเรามากเกินไป ออเวย์อินมายฮาร์ท วันสำคัญสำหรับคนที่เรารักมีให้ทุกวันอยู่แล้ว ย้ำอีกครั้งว่า ภรรยาผมตั้งใจจะมาแต่ต้องไปพบแพทย์ เพราะเขาต้องผ่าตัดเล็กน้อย หมออยากให้พักเลยไม่ได้มา ก็มีคนไปมโนต่อไปเรื่อยว่าไม่มาเพราะอะไร เขามาได้ก็อยากให้เขามา แต่ถ้ามาแล้วเกิดอะไรขึ้นใครจะรับผิดชอบผม และรับผิดชอบเมียผม แต่วันนี้ถึงไม่มาก็เหมือนมา เพราะถามผมทั้งวัน คอยให้กำลังใจทุกวันว่าเป็นย่างไรบ้างก็ตอบไปทุกครั้งเขาจะได้หมดห่วง อยู่ด้วยกันมา 30 กว่าปีแล้ว ลูกก็ อายุ 30 กว่าปี และรัฐมนตรีของผมทุกคนก็มีความสุขกับลูกกับหลานกันแล้ว วันนี้พวกเราอาจจะลำบาก แต่จะยอมให้ลูกหลานเราลำบากอย่างนั้นหรือ เป็นหน้าที่ของทุกๆรัฐบาล จึงต้องวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีให้ได้”

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้เป็นการเดินทางตามแผนการทางยุทธศาสตร์ เพราะสหราชอาณาจักรเป็นประเทศสำคัญ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มีเสถียรภาพที่ดี ซึ่งมีผลการเยือนของนายกรัฐมนตรีจนตอนนี้มีผลสำเร็จที่ดี เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ได้พบหารือกับ นางเทรีซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้พบผู้บริหารรายใหญ่หลายรายด้วยกัน และเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการลงทุนประเทศไทย โดยในการสัมมนาเมื่อเช้า มีนักธุรกิจสหราชอาณาจักรเข้าร่วมกว่า 100 ราย ได้เยี่ยมชมสำนักงานบริษัท Pearson ซึ่งกำลังจะเข้าไปลงทุนด้านการพัฒนาระบบการสอนอาชีวศึกษาในประเทศไทย ตลอดจนได้พบ ประธานสภาขุนนางสหราชอาณาจักร The Right Honourable the Lord Fowler เป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนมุมมองนิติบัญญัติระหว่างกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เปิดตลาดการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น ส่งเสริมการลงทุนของอังกฤษในประเทศไทย ทั้งนี้การดำเนินนโยบายทั้งหมดนี้ ก็เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยนายกรัฐมนตรีเล่าว่า ได้สั่งการให้เอกอัครราชทูตไทยทั่วโลก ทำหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เดือดร้อน ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนคนไทย และศูนย์ดำรงธรรมของไทย รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนมาทั้งสิ้น กว่า 2 ล้านเรื่อง และนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการแก้ไขแล้วกว่าร้อยละ 90